องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1298

ฉินเหยียนเองก็เข้าใจเหตุผลนี่อยู่แล้ว แต่เขายังคงรู้สึกปวดใจ

ต้องสูญเสียประชาชนจำนวนมากขนาดนี้เพราะภัยพิบัติทางธรรมชาติ!

เขาเศร้าในใจ แต่เขายังคงสงบสติอารมณ์ต่อไป

“ผลที่ตามมาพวกเราจะต้องเตรียมการจัดการให้อย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการบรรเทาทุกข์หลังจากเหตุการณ์นั้น ประการแรก เราต้องไม่ประมาท ประการที่สอง พวกเราจะไม่ขี้เหนียวในการลงทุนอีก และเราต้องฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับมาเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด”

เมื่อได้ยินดังนั้น จ้าวจือหย่าพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า

“ท่านอ๋องอย่าได้กังวลไปเลยเพคะ หม่อมฉันทราบเรื่องนี้ดี หม่อมฉันจะรีบทำตามที่ท่านสั่งเพคะ”

ฉินเหยียนพยักหน้า จากนั้นถอนหายใจแล้วพูดว่า “หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เจ้าออกไปเถิด ข้าอยากพักผ่อน”

“เพคะ!”

จ้าวจือหย่าโค้งคำนับและถอยออกไป

ทันใดนั้นในห้องพลันว่างเปล่า

ฉินเหยียนนั่งอยู่ที่เตียง เขารู้สึกใจหายและรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

...

อ๋องเหยียนอยู่ที่อาณาจักรหลู่เพื่อช่วยบรรเทาภัยไม่ได้พักมาเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดเรื่องที่เขาเป็นลมหมดสติก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วจิ่วโจว ประชาชนยังคงชื่นชมและยกย่องอ๋องเหยียน

ที่พระราชวังในเมืองหลวงอาณาจักรฉิน ฉินชงเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของฉินเหยียน

“เจ้าสิบสี่เป็นอย่างไรบ้าง? เขาได้สติหรือยัง?” ฉินชงถามอย่างเป็นกังวล

หลินเย้าจู่ตอบกลับทันที “ฝ่าบาท ไม่ต้องเป็นกังวลพ่ะย่ะค่ะ อ๋องเหยียนได้สติแล้ว ตามที่แพทย์กล่าว เขาเพียงแค่ต้องการเวลาพักผ่อน จากนั้นร่างกายก็จะฟื้นฟูเองพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินว่าฉินเหยียนปลอดภัย ฉินชงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะออกคำสั่งไปว่า

“ไปที่สำนักหมอหลวง เลือกหมอหลวงมาสองสามคนให้เขาไปคอยดูแลเจ้าสิบสี่ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าสิบสี่ต้องป่วยเป็นอะไรเด็ดขาด”

หลินเย้าจู่ยิ้มแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดผ่อนคลายความกังวลเถิดพ่ะย่ะค่ะ จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินชงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องและถามด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“รายงานเหตุการณ์ออกมาแล้วใช่ไหม? มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้กี่ราย?”

สีหน้าของหลินเย้าจู่หดหู่เล็กน้อย และพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อย “จำนวนผู้เสียชีวิตในตอนนี้อยู่ที่หนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าหันห้าร้อยสามสิบสองคนพ่ะย่ะค่ะ สูญหายกว่าสามร้อยชีวิต และบาดเจ็บสาหัสกว่าแปดพันสี่ร้อยราย คาดว่าเศรษฐกิจจะสูญเสียรายได้ไปว่าหนึ่งพันสองร้อยล้าน...”

“อะไรนะ เหตุใดถึงมากขนาดนี้?” ฉินชงตกใจ

หลินเย้าจู่ถอนหายใจและพูดต่อว่า

“ฝ่าบาท กระหม่อมเชื่อว่าหากอ๋องเหยียนไม่ได้ทรงรับมือต่อสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็ว คงมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่านี้พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินชงเงียบไป เขาทรุดตัวลงบนบัลลังก์อย่างอ่อนแรง จากนั้นดึงตัวเองขึ้นมาแล้วถามว่า

เสนาบดีกรมพระคลังยิ้มอย่างขมขื่นจากนั้นตอบกลับว่า “ฝ่าบาท พระองค์ไม่ทรงทราบอะไรเลย อ๋องเหยียนได้เก็บเงินและเสบียงเอาไว้จำนวนมาก แต่ก็ใช้ไปจำนวนมากเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินชงจ้องไปที่เขาและถามว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้ากำลังพูดว่าเจ้าสิบสี่เป็นคนผิดหรือ...”

เสนาบดีกรมพระคลังพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้หมายความเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ...”

ฉินชงถามเสียงเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ฝ่าบาท ได้โปรดให้อภัยกระหม่อมด้วย คือเรื่องเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าในอาณาจักรฉินจะมีเงินและเสบียงเป็นจำนวนมาก แต่เรายังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน”

“เรื่องเสบียงอาหาร อาณาจักรฉินในอดีตขาดแคลนเสบียงอาหาร แต่ตอนนี้กลับขยายเขตการปกครองไปมากถึงสิบเท่าใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ นั่นหมายความว่ามีประชาชนมากขึ้นเป็นสิบเท่า ทุกครั้งที่เรายึดดินแดนมาได้ ประชาชนในเมืองนั้นต่างอดอยาก อาณาจักรฉินก็คอยให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

“ฝ่าบาท ได้โปรดทรงพิจารณาเรื่องนี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เราครอบครองอาณาจักรจ้าวไปจนถึงเยี่ยนเป่ย เสบียงอาหารของเราก็ร่อยหรอและไม่มีเวลาจัดหาใหม่”

เสนาบดีกรมพระคลังอธิบายสถานการณ์พื้นฐานพร้อมกับเหตุผล

ฉินชงขมวดคิ้วหลังจากได้ยินเช่นนั้น แล้วถามอีกว่า “แล้วเงินล่ะ? อาณาจักรฉินไม่มีเงินเลยหรือ?”

เสนาบดีกรมพระคลังส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ราชสำนักของเราจะมีเงินได้อย่างพ่ะย่ะค่ะ?”

“ฝ่าบาท พระองค์ก็ทรงทราบว่าอ๋องเหยียนหาเงินมาได้จำนวนมากและรวดเร็ว แต่พระองค์เคยคำนวณหรือไม่ว่าอ๋องเหยียนใช้เงินไปมากเพียงไร?”

ฉินชงจ้องอีกฝ่ายด้วยความโกรธ “เจ้าสิบสี่ใช้เงินมากแค่ไหนกัน? หากยึดตามความดีความชอบของเขา การที่เขาสร้างที่พักให้ตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิด เขายังไม่ทันได้ทำอะไรผิด เจ้าก็โทษเขาแล้วหรือ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้หมายถึงการใช้เงินจำนวนนั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์