“ข้อดีคือในอนาคตพวกเราสามารถยั่วยุและทำทุกอย่างในอาณาจักรฉินได้ทุกเมื่อตามที่ต้องการ แต่ถ้าอาณาจักรฉินต้องการสู้กลับ พวกเราสามารถประโคมข่าวนี้ ทำให้อาณาจักรฉินตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกอาณาจักรอื่นรอบข้างกดดัน”
น้ำเสียงของหลี่เยี่ยนคังนั้นทรงพลัง ทำให้ทุกคนต่างมองไปที่หลี่เยี่ยนคังอีกครั้ง ในครั้งนี้สายตาเต็มไปด้วยความเคารพมากขึ้น
สายตาของทั่วป๋าเยี่ยนเต็มไปด้วยความอิจฉา
ชาวที่ราบภาคกลางที่ชาวตาดอย่างเขาดูถูก ภายในช่วงเวลาอันสั้นกลับได้รับการยอมรับจากกลุ่มชาวตาดของเขา
เขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร เขาจึงพยายามตอบโต้กลับ
“เหตุใดเราถึงสามารถทำอะไรได้ตามใจชอบได้? หรือว่าอาณาจักรอื่นต่างเป็นพวกโง่เขลา มองไม่ออกว่าพวกเรายั่วยุอีกฝ่ายก่อนหรือ?”
หลี่เยี่ยนคังถามกลับ
“ในตอนที่พวกอาณาจักรฉินตกอยู่ในสถานการวิกฤติมากที่สุด พวกเราไม่ได้ฉวยโอกาสโจมตีกลับ อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือ ผลที่ตามมาคือหากอาณาจักรฉินพูดว่าพวกเราที่อยู่แนวเขตชายแดนมักจะยั่วยุพวกเขาบ่อยครั้ง เจ้าคิดว่าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะมีคนเชื่อเรื่องนี้หรือไม่ล่ะ?”
หลังจากสิ้นสุดประโยคนี้ สายตาของขุนนางในเต็นท์พลันสว่างขึ้น พวกเขาทุกคนเป็นคนฉลาดและเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการสื่อเป็นอย่างดี
หากเป็นไปตามแผนการนี้ ไม่เพียงแต่พวกชาวตาดอย่างเขาจะมีโอกาสเหนือกว่าอาณาจักรฉินเท่านั้น แต่ยังทำให้ภาพลักษณ์ของอาณาจักรฉินกลายเป็นอาณาจักรที่ไร้ความเมตตาและไม่ยุติธรรมอีกด้วย
หลี่เยี่ยนคังใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และยิ้ม
“เจ้าศักดินาทุกท่าน เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงมีคนจำนวนไม่น้อยต้องการมุ่งหน้าไปทางใต้เพื่อปล้นชาวที่ราบภาคกลางมิใช่หรือ? โชคดีมาก นี่ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะบุกปล้นโดยไม่ต้องกังวลการตอบโต้จากฝั่งอาณาจักรฉิน”
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ความมุ่งมั่นของทุกคนต่างเดือดพล่าน พวกเขาหายใจแรงและเร็วขึ้น มองไปที่หลี่เยี่ยนคังด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ
ก่อนหน้านี้พวกเขามีแต่ความคิดที่ทำให้กระวนกระวายใจ แต่หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของหลี่เยี่ยนคังแล้ว พวกเขารู้สึกว่าพบทางลัดแล้ว!
หากพวกเขาทำในสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งแนะนำมา ไม่เพียงแต่จะสามารถปล้นพวกชาวที่ราบภาคกลางได้อย่างชอบธรรมเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถยั่วยุอาณาจักรฉินได้ตามที่ต้องการอีกด้วย เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก!
หลี่เยี่ยนคังพูดต่อ
“สำหรับพวกเราแล้ว ตอนนี้แค่เสียวัวและแกะเพียงไม่กี่ตัว แต่ในระยะยาวสิ่งที่เราจะได้กลับมานั้นมากกว่าที่พวกเราคาดคิดเอาไว้ ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงหลายพันตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเงิน เสบียงอาหารและผู้หญิงด้วย!”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของทั่วป๋าเยี่ยนพลันจริงจังขึ้น
เพราะทุกสิ่งที่หลี่เยี่ยนคังพูดนั้นไม่มีทางที่เขาจะโต้กลับได้เลย
บรรดาเจ้าศักดินาที่อยู่รอบข้าง ค่อยๆ จมอยู่กับคำแนะนำนั้น
แม้แต่ท่านข่านอย่างทั่วป๋าหงเลี่ย ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและถามด้วยรอยยิ้ม
“ทุกท่านยังมีข้อสงสัยอะไรอีกหรือไม่? หากมีให้คุณหลี่อธิบายให้พวกท่านฟังอีกรอบก็ย่อมได้”
ทุกคนต่างพากันมองหน้ากันและก้มหน้าลง เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างเห็นด้วยกันหลี่เยี่ยนคัง
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนต่างไม่มีข้อสงสัยกันแล้ว ทำตามที่คุณหลี่พูดมาเถอะ ส่งวัวและแกะไปให้อาณาจักรฉินอย่างเปิดเผย!” ทั่วป๋าหงเลี่ยตัดสินใจและทุกคนต่างเห็นด้วยทันที
หลังจากที่ทั่วป๋าหงเลี่ยคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ถามออกมาอีกครั้ง
“เช่นนั้นใครกันที่จะเป็นคนส่งวัวและแกะไปที่อาณาจักรฉิน?”
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลี่เยี่ยนคังตอบรับ
ในเมื่อตกลงเช่นนี้ หัวหน้ากลุ่มทูตในครั้งนี้คือทั่วป๋าเยี่ยน ชาวตาดยังต้องเตรียมการบางอย่าง
...
ฝั่งอาณาจักรฉิน หลังจากที่ได้รับข่าวยืนยันว่าการบรรเทาภัยในอาณาจักรหลู่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี ฉินเหยียนก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ
หลังจากจัดขบวนรถเรียบร้อยแล้ว เขาก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปยังอาณาจักรฉินอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับล่าช้าไปมาก หากยึดตามแผนเดิม ถือว่าได้พลาดโอกาสไปร่วมงานบรมราชาภิเษกของฉินชงไปแล้ว
แต่เดิมฉินเหยียนคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่จ้าวจือหย่าอธิบายเพิ่มเติมว่า
“ท่านอ๋องทรงไม่รู้อะไรเสียแล้ว พิธีบรมราชาภิเษกได้ถูกยกเลิกไปก่อนเพคะ ท่านอ๋องกลับไปที่นั่น ยังสามารถเข้าร่วมงานนี้ได้เพคะ”
“ยกเลิกหรือ? เหตุใดพี่ใหญ่ถึงได้เปลี่ยนวันล่ะ?” ฉินเหยียนถามด้วยความไม่เข้าใจ
เรื่องบรมราชาภิเษกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกอย่างได้มีการเลือกวันอันเป็นมงคลเอาไว้แล้ว จะเปลี่ยนวันได้อย่างไร?
จ้าวจือหย่าถอนหายใจแล้วตอบกลับว่า
“เพราะว่ามีหลายเรื่องเกิดขึ้น อาณาจักรหลู่เกิดภัยพิบัติ จะเป็นเป็นเรื่องเหมาะสมหรือเพคะ หากจัดงานบรมราชาภิเษกขึ้น?”
เมื่อฉินเหยียนได้ยินเช่นนั้น เขาก็เข้าใจในทันทีว่าช่วงนี้มีเรื่องหลายเรื่องเกิดขึ้นเป็นอย่างมากจริงๆ เรื่องเหล่านี้คงทำให้พี่ใหญ่ไม่สบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...