องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1329

หัวหน้าทหารองครักษ์คนนั้นตะโกนเรียกทหารมาคนหนึ่งแล้วสั่งว่า

“ไปรายงานแม่ทัพต้าหย่งว่า พวกชาวตาดออกไปจากวัดหงหลูแล้ว หากเกิดเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาจะรับผิดชอบเอง”

...

ด้านทั่วป๋าเยี่ยนและคนอื่นๆ มาที่หอหม่านฮวา ทั้งหอเต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงร้องเพลงและการเต้นรำ

พวกเขาไม่เคยเห็นภาพที่หรูหราโอ่อ่าเช่นนี้มาก่อน ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในหอหม่านฮวา พวกเขาก็ถูกภาพลักษณ์หอหม่านฮวาดึงดูดสายตาในทันที อึ้งจนไม่อาจขยับตัวได้

รูปแบบการตกแต่งที่หรูหรา แสดงให้เห็นถึงความหรูหราและสูงส่ง ทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจ

ภายใต้การแนะนำของพนักงาน พวกเขาเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง นั่งลงและมองรายการอาหารอย่างตื่นตาตื่นใจ ทุกคนกลืนน้ำลายด้วยความหิว

ในที่สุดพวกเขาก็สั่งอาหารอันโอชะมาหลายรายการ อีกทั้งยังสั่งเหล้าไปด้วย

ไม่นาน อาหารก็ถูกวางบนโต๊ะ

พวกเขาต่างยกแก้วขึ้นมาชน หลังจากที่ทานอาหารและดื่มเหล้าของอาณาจักรฉิน พวกเขาต่างหน้าแดง เหล้าของอาณาจักรฉินทำให้รู้ว่ารสชาติเหล้าที่แท้จริงเป็นอย่างไร รสชาติที่กลมกล่อมและหอมหวาน ทำให้พวกเขาพูดชมกันไม่ขาดปาก

ในขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยและดื่มเหล้าไปด้วยนั้น ท่าทีและรูปลักษณ์ที่หยาบคายของพวกเขายังคงดึงดูดสายตาแขกในหอเป็นจำนวนมาก

พวกเขาขมวดคิ้ว มองไปที่ชาวตาดและกระซิบกระซาบว่า

“สวรรค์ คนพวกนี้เหตุใดถึงช่างหยาบคาย ไม่สำรวมกิริยามารยาทเอาเสียเลย!”

“นี่ พวกเขาคงเป็นทูตมาจากอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งแน่ๆ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว พวกเขาเหมือนพวกชาวตาดมากๆ!”

“ช่างน่าอายเสียจริง ทูตที่มาจากต่างอาณาจักรยังมีกิริยามารยาทสุภาพกว่าพวกเขา ดูท่าทางที่พวกเขากินสิ ตะกละตะกลามมาก ทำให้พวกเราไม่หมดความอยากอาหารเลยทีเดียว”

“นั่นน่ะสิ ตะเกียบก็ไม่ใช้ กินอย่างกับหมู...”

บรรดาแขกที่มารับประทานอาหารในหอหม่านฮวาต่างพากันไม่พอใจเล็กน้อยกับวิธีรับประทานอาหารของพวกชาวตาด อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

“พวกเจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”

เรื่องต้องห้ามที่สำคัญที่สุดของพวกชาวตาดคือ มีคนวิพากษ์วิจารณ์ชนชาติของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น การที่อีกฝ่ายพูดถึงการนั่งกินอาหารอย่างคนไม่เคยได้รับการสั่งสอนเช่นนี้ ทำให้พวกชาวตาดโกรธมาก

ทันใดนั้นพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองคนรอบข้างด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟและพูดขู่อย่างเอาเรื่อง

แต่มีข้อยกเว้นอยู่เรื่องหนึ่ง เมื่อผู้หญิงในอาณาจักรฉินมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ทำให้เห็นผู้หญิงตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ในหอหม่านฮวา มีผู้หญิงจำนวนมากออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่มีหญิงสองสามคนอีกโต๊ะหนึ่งมองมาที่ทั่วป๋าเยี่ยนด้วยสายตาเป็นประกาย

“สาวๆ ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนั้นจะเป็นชาวตาดใช่หรือไม่? ข้าเห็นพวกเข้าเดินทางเข้ามาในเมืองเมื่อเช้านี้”

“ใช่ พวกชาวตาดน่ะสิ แค่มองการแต่งตัวก็มองออกแล้วว่าเป็นพวกชาวตาด”

“พวกเจ้าลองนึกภาพตามข้าดูนะว่าอากาศในพื้นที่ทุ่งหญ้าจะต้องบริสุทธิ์ขนาดไหน ไม่เหมือนในอาณาจักรฉิน แค่ฝนตกสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนแต่สกปรก อีกทั้งในช่วงฤดูร้อนมียุงเยอะมาก และประเด็นสำคัญคือเหม็นแทบจะเป็นลม”

ผู้หญิงคนนั้นพูดต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ดวงตาของหญิงคนนั้นเป็นประกาย จู่ๆ สายตาพวกเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาหวังเติมเต็มชีวิตให้พวกชาวตาดเหล่านั้น

มีคนที่มีเหตุผลพูดขึ้นมาอย่างลังเล

“แต่ข้าได้ยินว่าชาวตาดมีแบ่งชนชั้นออกเป็นระดับ อีกทั้งความเชื่อของเขายังแปลกมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการบูชายัญอีกด้วย”

“เฮอะ เจ้าถูกหลอกแล้ว ไม่เห็นหรือว่าพวกชาวตาดนำวัวและแกะมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอาณาจักรเรา?”

“พวกเขาปฏิบัติต่อคนของเราดีกว่าพวกเราเองเสียอีก ลองจินตนาการว่าพวกชาวตาดจะมีจิตใจดีขนาดไหน แม้พวกเขาจะดูหยาบคายและป่าเถื่อน แต่ความจริงแล้วพวกเขากลับใจดีขนาดนี้..”

“หากพูดแบบชาวตะวันตกมาบรรยายพวกเขาแล้วล่ะก็ ให้เรียกว่าเป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนต่างหากล่ะ พวกผู้ชายในอาณาจักรฉินไม่มีวันเรียนรู้ด้านนี้หรอก”

“ไม่ใช่เลย พวกเราชาวอาณาจักรหลู่ได้เสียสละมากมายเพื่ออาณาจักรฉิน อ๋องเหยียนเองก็ไปที่นั่นเพื่อบรรเทาภัย...”

มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ยินอีกฝ่ายพูดว่าชาวตาดดีต่อชาวอาณาจักรฉินมากกว่าชาวอาณาจักรฉินด้วยกันเอง นางแทบไม่อยากจะเชื่อ

แต่ผู้หญิงคนที่ชื่นชมชาวตาดยังไม่ยอมหยุด นางหาเหตุผลที่ดีมาโต้ไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดก็พูดออกมาอย่างเหลืออด

“ก็แค่แสร้งทำไปอย่างนั้น พวกเจ้าคิดจริงรึ”

“อย่างนี้นี่เอง คงจะดีไม่น้อยหากพวกเราสามารถไปเยี่ยมเยียนชาวตาดได้บ้าง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์