“จริงด้วยเสี่ยวฟาง เจ้ารู้จักชาวตาดดีมาก เก่งมากเลย”
ผู้หญิงอีกสองสามคนต่างมองไปที่ผู้หญิงที่ชื่อว่าเสี่ยวฟาง
นางมีชื่อเดิมว่าหนิวฟาง แต่เมื่ออาณาจักรฉินพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ความรู้นางก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น นางไม่ชอบชื่อเดิมของตัวเองจึงเปลี่ยนเป็นเฉินอวิ๋นฟาง
เมื่อได้ยินคำชมจากทุกคน เฉินอวิ๋นฟางพลันรู้สึกภูมิใจ นางเหลือบมองไปที่ทั่วป๋าเยี่ยนอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงหันกลับมาแล้วพูดว่า
“สาวๆ ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสเช่นนี้ พวกเราไปดินแดนชาวตาดไม่ได้ เช่นนั้นพวกเราไปทำความรู้จักกับชาวตาดกลุ่มนั้นดีหรือไม่?”
“ได้สิ!”
สาวๆ ต่างพากันปรบมือ
เฉินอวิ๋นฟางยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม และพาสาวๆ เหล่านั้นเดินไปที่โต๊ะทั่วป๋าเยี่ยน
สำหรับทั่วป๋าเยี่ยนและคนอื่น พวกเขาสังเกตเห็นกลุ่มหญิงสาวที่แต่งตัวสวยงาม ฉีดน้ำหอม และปัดแก้ม พวกนางดูสวยเป็นพิเศษ
ทั่วป๋าเยี่ยนและคนอื่นๆ เป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุ่งหญ้า หญิงสาวในท้องทุ่งนั้นส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้อาบน้ำ อาบน้ำแค่ปีละครั้งเท่านั้น จะเปรียบได้กับหญิงอาณาจักรฉินได้อย่างไร
ในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงในอาณาจักรฉินเป็นเหมือนดั่งนางฟ้าในสายตาของพวกเขา โดยเฉพาะเมื่อมีสายลมพัดกลิ่นหอมให้โชยเข้ามา ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกได้ว่าหัวใจของเขากำลังจะละลาย
“หนุ่มๆ พวกเราเห็นว่ามีที่นั่งว่าง พวกเรามาทำความรู้จักกันดีหรือไม่?”
เฉินอวิ๋นฟางเริ่มหว่านเสน่ห์ กัดริมฝีปากบางของตัวเองอย่างคาดหวัง
การปรากฎตัวนี้ทำให้ทั่วป๋าเยี่ยนและคนอื่นต่างพากันหน้าร้อนผ่าว และทั่วป๋าเยี่ยนเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน ยิ้มและพูดภาษากลางอย่างกระท่อนกระแท่น
"ได้” นั่งได้สิ มานั่งเถิด”
เมื่อเฉินอวิ๋นฟางและคนอื่นๆ นั่งลง บรรยากาศที่โต๊ะนั้นพลันครึกครื้นขึ้นมาทันที พวกผู้หญิงพลันถูกพวกหมาป่าเหล่านั้นรายล้อมและดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพวกเขาอีกหลายแก้ว
หลังจากที่ดื่มกันไปสามรอบ ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ทั่วป๋าเยี่ยนจับมือเฉินอวิ๋นฟางแล้วพูดด้วยสายตาร้อนแรงว่า
“โอ้ แม่นางช่างงามเหลือเกิน เจ้าคือหญิงที่งามที่สุดในอาณาจักรฉินที่ข้าเคยพบมา”
เฉินอวิ๋นฟางชักมือตัวเองออก นางพยายามอยู่สองสามครั้งกลับไม่สำเร็จ ทำให้นางส่งสายตาหวานซึ้งเล็กน้อย
ผู้หญิงคนอื่นต่างก็ถูกชาวตาดแทะโลมเช่นกัน ในตอนแรกพวกนางลังเลก็สลัดพวกเขาไม่ออก แต่หลังจากได้ยินตัวตนของชายกลุ่มนี้แล้ว พวกนางถึงกับต้องอึ้ง
ในหมู่ชาวตาดกลุ่มนี้ ทั่วป๋าเยี่ยนเป็นลูกหลานราชวงศ์ชาวตาด และมีขุนนางอีกสองคน รวมถึงขุนนางและผู้นำชนเผ่าบางกลุ่ม ทำให้พวกเขายิ่งได้รับการชื่นชม
อีกทั้งพวกเขายังหยอกเล่นเก่งเสียด้วย พูดโจมตีไม่กี่คำ ทำให้เฉินอวิ๋นฟางและคนอื่นๆ ถึงกับหัวเราะอย่างมีความสุข
...
จนกระทั่งคนของกองพันทหารม้าพยัคฆ์เสือดาวคนหนึ่งแสร้งทำเป็นเดินชนโต๊ะ จากนั้นอ้วกใส่ทั่วป๋าเยี่ยน
ทั่วป๋าเยี่ยนสะดุ้ง จากนั้นเขาก็ตอบโต้
“ไอ้เวรนี่ เป็นอะไรของเจ้า อยากตายหรือไร?”
เขาเหลือบมองเสื้อผ้าสกปรก ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก กลิ่นเหม็นลอยโชยไปหาเขาทันที
ทั่วป๋าเยี่ยนผลักอีกฝ่ายออกและด่าว่า
“เจ้าเป็นใคร กล้ามาอ้วกใส่ข้า? อยากตายใช่ไหม?”
ทหารคนนั้นยังคงอยู่ในการแสดง เขากรีดร้องและร้องไห้ออกมา
“โอ้ย... เจ็บ ตีข้าหรือ พี่ มาช่วยข้าด้วย...”
เสียงดังขึ้นมา กองพันทหารม้าพยัคฆ์เสือดาวที่แต่งตัวแบบคนธรรมดาทั่วไปต่างปรากฎตัวขึ้นรอบๆ ทีละคน
“ในเมื่อเจ้ากล้าทำร้ายข้า หากวันนี้ไม่พูดกันดีๆ อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เลย!”
“ใช่ ใครเป็นคนลงมือ หากกล้าก็ลุกขึ้นมา วันนี้เจ้าไม่มากวนข้า ก็คงไม่รู้จักเจ้า ถือว่าเจ้ามีความสามารถพอตัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...