องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1334

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือคนในอาณาจักรฉินมองเขาด้วยสายตาดูถูก

ราวกับว่าเขาเป็นคนป่าเถื่อน บางครั้งก็ทำหน้าเหมือนได้กลิ่นเหม็นจากตัวพวกเขา บางครั้งก็แดสงสีหน้ารังเกียจโดยไม่สะทกสะท้าน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

ความแตกต่างในรูปแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

อีกทั้งผู้หญิงเหล่านั้นยังเข้าหาพวกเขาเอง ให้พวกเขาได้รับความสุขดั่งสวรรค์

...

อีกด้านหนึ่ง คนของกองพันทหารม้าพยัคฆ์เสือดาว นำข่าวมาให้ต้าหย่ง

เดิมทีภารกิจเดิมของพวกเขาคือมอบบทเรียนให้กับพวกทั่วป๋าเยี่ยนและพวกของเขา แต่ใครจะรู้ว่ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น

พวกเขารายงานตามความจริงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่พวกเขาปฏิบัติการ

ต้าหย่งขมวดคิ้วตลอดหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงในอาณาจักรฉินคอยปกป้องชาวตาด

ผู้ใต้บังคับบัญชากองทัพทหารม้าพยัคฆ์เสือดาวพูดอย่างไม่แน่ใจ

“ท่านแม่ทัพ พวกชาวตาดกลุ่มนั้นคงไม่ได้วางแผนสกปรกๆ อย่างเช่นจับพวกเขามาเป็นตัวประกันใช่ไหมขอรับ?”

นี่เป็นเรื่องเดียวที่เขาคิดขึ้นมาได้

ชาวตาดทั้งยากจน ทั้งเหม็น หน้าตาน่าเกลียด สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่มีการศึกษา

คนแบบนี้จะมีคนเคารพได้อย่างไร? คงจะดีไม่น้อยหากพวกเขามีบุคลิกที่ดูดีขึ้นกว่านี้ แต่ปัญหาคือพวกชาวตาดยังเป็นชนชาติที่โหดร้ายและเป็นเพียงกลุ่มคนป่าเถื่อน

หากพวกเขาไม่ได้ถูกข่มขู่หรือถูกจับเป็นตัวประกัน ผู้หญิงในอาณาจักรฉินจะมีท่าทีเช่นนั้นได้อย่างไร?

ลูกน้องคิดเช่นนี้ ต้าหย่งเองก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

เขามองไปที่ลูกน้อง แล้วพูดอย่างจริงจัง

“ส่งคนออกไปเพิ่ม คอยจับตาดูพวกชาวตาดกลุ่มนี้เอาไว้ ตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐาน จึงไม่สามารถดำเนินการทุกอย่างโดยไม่ไตร่ตรองได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้ผู้หญิงเหล่านั้น เข้าใจหรือไม่?”

“เข้าใจแล้วขอรับท่านแม่ทัพ ไม่ต้องกังวลขอรับ ข้าจะออกไปกระจายคำสั่งเดี๋ยวนี้!”

ลูกน้องรับคำสั่งและเดินจากไปทันที

...

เรื่องมาถึงจุดนี้ ความจริงแล้วยังไม่สิ้นสุด

ทั่วป๋าเยี่ยนและกลุ่มของเขาในฐานะที่เป็นทูตจากชาวตาด ถูกคนสองกลุ่มในอาณาจักรฉินทำร้ายสองครั้งติดต่อกัน เหตุการณ์เช่นนี้ไม่สามารถทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ในที่สุดเรื่องนี้ก็ยากมากขึ้นเรื่อยๆ และเสนาบดีกรมพิธีการมาที่วัดหงหลูเพื่อเป็นผู้ตัดสิน

หลังจากที่ทั่วป๋าเยี่ยนเห็นเสนาบดีกรมพิธีการ เขาก็โกรธและพูดขึ้นมาว่า

“ในฐานะทูตของชาวตาด พวกเราถูกชาวอาณาจักรฉินทำร้ายทุบตี ราชสำนักอาณาจักรฉินต้องรับผิดชอบ! เจ้าต้องให้คำอธิบายและลงโทษคนร้ายอย่างเด็ดขาด!”

“แล้วจะทำไมหรือ? พวกเจ้ายังกล้าสอนข้าอีกหรือ? คนอาณาจักรฉินอย่างพวกเจ้าเป็นคนเนรคุณอย่างนั้นหรือ? อย่าลืมสิว่าชาวตาดอย่างพวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยพวกเจ้า!”

“เจ้า...”

เมื่อถูกพูดจายั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่า เสนาบดีกรมพิธีการจะทนต่อไปได้อีกอย่างไร ขณะที่เขาเตรียมจะโต้ตอบ ลูกน้องเขาพลันรีบดึงแขนเสื้อเพื่อเตือนพร้อมกับส่ายหน้า

หากพูดจาไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายที่นี่ ย่อมส่งผลต่ออาณาจักรฉิน อาณาจักรฉินจะกลายเป็นคนเนรคุณในทันที

เมื่อคิดได้ เสนาบดีกรมพิธีการพยายามข่มความโกรธและถามอย่างใจเย็น

“แม้ว่าเรื่องนี้เป็นพวกท่านเองที่ออกไปข้างนอก แต่อาณาจักรฉินของเรายินดีรับผิดชอบจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่หรือ ท่านได้โปรดชี้แจงให้ข้าฟังเสียหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ทั่วป๋าเยี่ยนขมวดคิ้ว คำพูดของอีกฝ่ายนั้นซับซ้อนมากจนทำให้เขาไม่ค่อยสบายใจ แต่เขาเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคิดอะไรมากมาย

เขาจึงกัดฟันแล้วตอบว่า

“เรื่องเป็นเช่นนี้ ข้ากำลังนั่งกินอาหารอยู่ที่หอหม่านฮวา จากนั้นมีคนขี้เมาคนหนึ่งวิ่งเข้ามา จากนั้นอ้วกใส่ตัวข้า ช่างน่าขยะแขยงยิ่งนัก...”

เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ทั่วป๋าเยี่ยนเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพะอืดพะอม กลิ่นเหม็นในวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำเขา เขาต้องการฆ่าคนๆ นั้นให้ตายเสียเพื่อระบายความเกลียดชังในใจ

“หลังจากนั้นล่ะ?”

เสนาบดีกรมพิธีการมองด้วยสายตาสงสัย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์