เขาเองก็รู้ว่าหากตนเองลงมือเองพลการ เกรงว่าอาณาจักรฉินจะใช้โอกาสนี้ในการควบคุมพวกเขา แม้ว่าเขาจะเป็นทูต แต่อาณาจักรฉินไม่ยอมเพราะแค่เรื่องนี้เป็นแน่
เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นว่า “นอกจากนี้แล้วเจ้ามีรายงานอื่นอีกรึไม่?”
“เอ่อ......ในตอนนี้ยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ” ผู้ติดตามครุ่นคิดแล้วส่ายหน้าพูดขึ้น
ทั่วป๋าเยี่ยนจ้องผู้ติดตามเขม็งแล้วตะคอกว่า “งั้นเจ้าก็ไสหัวออกไปสิ”
ผู้ติดตามไม่กล้ารอช้า เขารีบออกไปทันที
เมื่อผู้ติดตามออกไปแล้วทั่วป๋าเยี่ยนก็หัวเสียอยู่คนเดียว การที่เอาแต่อยู่ในวัดหงหลูมันน่าเบื่ออย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องอยู่อีกนานแค่ไหน
“อาณาจักรฉิน!” เขาอดไม่ได้ที่สบถ
ในขณะที่เขากำลังรำคาญใจแล้วจะออกไปเดินเล่น ก็มีขุนนางท่านหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นสีหน้าของเขาแล้วก็ยิ้มแย้มราวกับว่ามีเรื่องน่ายินดี
“ท่าน คนที่ท่านคอยนึกถึงมาเยือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ทั่วป๋าเยี่ยนอึ้งเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วพูดว่า “คนที่ข้าคอยนึกถึงมาเยือนรึ? ใครกัน?”
คนคนนั้นรีบพูดว่า “ต๋าหลี่ฉีพ่ะย่ะค่ะ ต๋าหลี่ฉีผู้ท่องเที่ยวในอาณาจักรฉิน คบหากับเหล่าผู้หญิงอาณาจักรฉินหลายพันคนในระยะเวลาห้าปี”
เมื่อได้ยินว่าต๋าหลี่ฉี ทั่วป๋าเยี่ยนก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“หือ!? ที่แท้ก็ผู้มีความสามารถคนนั้นนี่เอง ข้าอยากจะให้เขาแบ่งปันมุมมองกับข้าเสียจริง ฮ่าๆ รีบพาเขามาหาข้า!”
ทั่วป๋าเยี่ยนยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น และรีบชะเง้อหน้ามองไปที่ประตูอย่างอดใจไม่ไหว
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปพาเข้ามาเดี๋ยวนี้”
คนคนนั้นทำความเคารพแล้วก็รีบหันหลังวิ่งไป
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พาชายร่างกำยำ รูปลักษณ์ไม่น่าดึงดูดคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถง คนผู้นี้มีรูปลักษณ์ที่ป่าเถื่อนอย่างมาก เป็นลักษณะมาตรฐานของชาวตาด หากเป็นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ว่ากันตามจริงก็ยากที่จะอธิบาย เพราะน่าเกลียดยิ่งกว่าทั่วป๋าเยี่ยนเสียอีก แม้แต่ทั่วป๋าเยี่ยนเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
แต่รูปลักษณ์ที่น่าเกลียดนั้น ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นที่หมายปองของผู้หญิงอาณาจักรฉิน
“ท่านนี้คือต๋าหลี่ฉีพ่ะย่ะค่ะ”
คนที่นำทางพาเข้ามาในห้องโถงแล้วก็รีบโค้งตัวพูดขึ้น
เมื่อต๋าหลี่ฉีเห็นทั่วป๋าเยี่ยนแล้วก็รีบคำนับตามระเบียบว่า “กระหม่อมต๋าหลี่ฉีพ่ะย่ะค่ะ”
“ยืนขึ้นเถิด ยืนขึ้นเถิด”
“ผู้หญิงส่วนใหญ่กระหม่อมไม่อยากจะแตะต้องพวกนางด้วยซ้ำไป ต่อให้จะถวายตัวเองก็เถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วเจ้าคบหากับพวกนางด้วยเหตุอันใด?”
“คือว่ากระหม่อมเพียงแค่อยากจะเอาเงินจากพวกนางเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ต๋าหลี่ฉีอายเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทั่วป๋าเยี่ยนขมวดคิ้วเขาก็รีบอธิบายว่า
“เริ่มแรกที่กระหม่อมมาถึงอาณาจักรฉินไม่ได้มีเงินเลยแม้แต่น้อย แถมได้งานที่สร้างรายได้ไม่ได้ด้วย แต่ว่าผู้หญิงอาณาจักรฉินส่วนใหญ่ก็ยอมถวายตัวเอง กระหม่อมเพียงแค่พูดโกหกไม่เท่าไร พวกผู้หญิงอาณาจักรฉินก็ยอมใช้เงินเพื่อกระหม่อมแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วต๋าหลี่ฉีก็ดีใจ
ในดินแดนชาวตาดที่ล้าหลังและยากจน เขาเป็นเพียงคนชั้นต่ำที่สุด ถึงขั้นถูกไล่มายังอาณาจักรฉิน แต่เมื่อมาถึงอาณาจักรฉินแล้วชีวิตเขากลับเปลี่ยนไป กลายเป็นคนบุคคลที่มีชื่อเสียง ผู้หญิงอาณาจักรฉินส่วนใหญ่เห็นค่าเขา อยากจะถวายตัวเอง ทำให้เขารู้สึกรับไม่ค่อยไหวแล้ว
ด้วยผลการสนับสนุนอย่างใจดีของผู้หญิงเหล่านั้น ทำให้เขามีชีวิตที่เพียบพร้อมในอาณาจักรฉิน แทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ
ทั่วป๋าเยี่ยนยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกแปลก เขาพูดอย่างสงสัยว่า “ผู้หญิงอาณาจักรฉินเชื่อใจเจ้าเพียงนี้เชียวรึ?”
ต๋าหลี่ฉียิ้มแล้วพูดว่า “ท่านคงจะไม่รู้ว่าผู้หญิงบางคนในอาณาจักรฉินนั้นประหลาดอย่างยิ่ง ทีแรกข้าบอกว่ามาจากดินแดนชาวตาด จากนั้นพวกนางก็อยากจะพาข้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆนานาเอง โอ้อวดกับผู้หญิงคนอื่นว่าข้าคือหัวหน้าเผ่าของชาวตาด แล้วทุกคนก็เชื่ออย่างสนิทใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...