“บังเอิญ......”
เหล่าขุนนางกรมพิธีการต่างก็มุมปากกระตุก
ทั่วป๋าเยี่ยนเองในที่สุดก็เข้าใจทันทีว่าเมื่อครู่นี้ตนเองถูกหลอก เขาพูดอย่างเดือดดาลว่า
“พวกเจ้ากำลังหัวเราะเยาะข้า หากวันนี้ไม่ให้เหตุผลที่สมเหตุสมผล ข้าปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!”
เสนาบดีกรมพิธีการเองก็รู้แล้วว่ามันคงปกปิดไม่ได้แล้ว เขากระแอมแล้วถามว่า
“ท่านทูตทั่วป๋าเคยรู้รึไม่ว่าเพ่ยฉีคือสิ่งใด?”
“เพ่ยฉีคือสิ่งใด?”
ทั่วป๋าเยี่ยนมองเขาอย่างสับสน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ
เสนาบดีกรมพิธีการกลั้นหัวเราะแล้วอธิบายว่า
“ที่อาณาจักรฉินของเรามีหนังสือภาพสำหรับเด็กประเภทหนึ่ง ซึ่งมีเอาไว้เพื่อให้เด็กเล็กอ่าน ในนั้นจะมีหมูที่มีชื่อเสียงตัวหนึ่ง ชื่อขอหมูตัวนั้นก็คือเพ่ยฉี......”
ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเพราะเหตุใดพวกมันจึงหัวเราะดีใจกันเพียงนั้น
ทั่วป๋าเยี่ยนพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าพวกชาวเมืองชั้นต่ำ เห็นข้าเป็นเพ่ยฉี นี่พวกมันกำลังเหยียดหยามว่าข้าคือหมู!”
เสนาบดีกรมพิธีการพยายามดึงหน้าเอาไว้ เขาแทบจะกลั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ เขารู้ดีอยู่แก่ใจก็พอแล้วแท้ๆ เหตุใดจึงต้องพูดออกมาอีกเนี่ย
เสนาบดีกรมพิธีการพยายามอยู่นานกว่าจะทำให้ตนเองสงบลง เขาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า
“ท่านทูตทั่วป๋าวางใจเถิด ข้าผู้เป็นเสนาบดีกรมพิธีการขอแสดงให้เห็นเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในเมื่อบัดนี้เรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว ทางกรมพิธีการจะทุ่มสุดกำลังเพื่อลากตัวมันออกมาให้ได้ แต่ท่านทูตทั่วป๋าเบาะแสที่ให้มานั้นน้อยมากจริงๆ ข้าเองก็ไม่กล้ารับปากเอาไว้”
ทั่วป๋าเยี่ยนขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจกับท่าทีเช่นนี้อย่างยิ่ง แต่บัดนี้เขาเองก็จนปัญญา จึงทำได้แค่กัดฟันแล้วพูดว่า
“ขอให้เจ้าทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน”
ว่าแล้วเหล่าขุนนางกรมพิธีการก็ยืนขึ้นแล้วขอตัวลา
เหล่าขุนนางเพิ่งจะก้าวออกจากประตูวัดหงหลูก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาทันที
“น่าขันเสียจริง ข้ามีชีวิตมาหกสิบเจ็ดสิบปีแล้ว ไม่เคยรู้สึกสาแก่ใจเช่นนี้มาก่อนเลย”
“จริงด้วย นี่ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลยนะ”
“ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกมาพูดเช่นนี้ ฮ่าๆๆ”
ไม่กี่วันต่อมา ทางกรมพิธีการก็ได้ประสานงานกับกรมอาญา แผนกซวนจิงแห่งเขตจิงจ้าวโดยได้รับคำสั่งจากฉินชง เริ่มออกปฏิบัติการต่างๆในเมืองหลวงอาณาจักรฉิน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ผลลัพธ์อะไรเลย
ที่จริงมันไม่สำคัญว่าได้อะไรรึไม่ เพราะทางเสนาบดีกรมพิธีการแค่อยากจะแสร้งทำให้พวกชาวตาดเห็นเท่านั้น ให้พวกเขารู้สึกสสบายใจขึ้นมาหน่อย หลังจากนี้จะได้ต่อว่าอะไรไม่ได้
......
ภายในวัดหงหลู หลายวันมานี้ทั่วป๋าเยี่ยนติดอยู่ด้านในนี้ อยากจะออกไปก็ออกไปไม่ได้ ทำเอาเขาอึดอัดอย่างยิ่ง เดิมทีเขาคิดว่า ตราบใดที่อาณาจักรฉินจับตัวคนร้ายมาได้ พวกเขาก็ไม่ต้องมาทนอึดอัดในที่แบบนี้อีก
แต่ใครจะไปรู้ว่าอาณาจักรฉินทำท่าทีใหญ่โตแต่กลับไม่ได้อะไรเลย ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลยแม้แต่น้อย
วันนี้ผู้ติดตามคนหนึ่งในหมู่คณะทูตชาวตาดได้มารายงานความคืบหน้าล่าสุดแก่ทั่วป๋าเยี่ยนเหมือนวันก่อนๆ
ผู้ติดตามยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “วันนี้อาณาจักรฉินก็ยังคงหาตัวคนอาณาจักรฉินที่ลงมือกับพวกเราในตอนนั้นไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ เราอาจจะต้องรอต่อไปอีกพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าว่าอาณาจักรฉินกำลังจงใจเข้าข้างพวกมัน!” ทั่วป๋าเยี่ยนโกรธจนตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น เขาแทบจะกลั้นจิตสังหารไม่อยู่
ผู้ติดตามรีบอธิบายเกลี้ยกล่อมว่า “โปรดอย่าโกรธเกรี้ยวไปเลยพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรนี่ก็เป็นอาณาเขตของอาณาจักรฉิน หากท่านก่อเรื่องตอนนี้ เกรงว่าอาณาจักรฉินจะใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้าง จะเป็นผลเสียต่อเราพ่ะย่ะค่ะ”
ทั่วป๋าเยี่ยนทำเสียงเย็นชาแล้วนั่งลงเช่นเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...