องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1357

เขามองไปรอบๆ และพบว่าทุกคนมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเคารพ

แม้ว่าฐานทัพที่เขาฝึกทหารไม่ได้มีคนมากนัก มีแค่ประมาณพันกว่าคน แต่ก็ไม่ได้เป็นฐานฝึกขนาดเล็ก

ในอนาคตทหารและเจ้าหน้าที่ที่กองเรือแห่งนี้ถือว่าเป็นคนของเขาแล้ว

ในตอนนี้เขาเป็นข้าราชการชั้นสูงแล้วหรือ?

ความสุขมาแบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ

...

ในวันเดียวกัน

ขบวนรถของหลิวอวี่หลินที่รีบออกเดินทาง ในที่สุดก็มาถึงเมืองหลวงอาณาจักรฉิน

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจคือฉินเหยียนปลอมตัวออกมารับเขาด้วยตัวเอง

หลิวอวี่หลินรู้สึกประทับใจมาก

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”

“ทำตัวตามสบายเถิด ข้ารอเจ้ารอจนเมื่อยแล้ว”

ฉินเหยียนหัวเราะ จากนั้นกวาดสายตามองไปที่หลิวอวี่หลินแล้วลองถามออกไปว่า

“อยู่ที่อาณาจักรอู๋ เจ้าคงลำบากมากเลยใช่ไหม?”

“ท่านอ๋อง กระหม่อมยังเด็ก ไม่ว่าลำบากแค่ไหนก็ทนได้พ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเลย”

หลิวอวี่หลิวตอบกลับ

“อืม เข้าเมืองกันเถิด”

ฉินเหยียนพยักหน้า จากนั้นขึ้นไปบนรถม้าพร้อมกับหลิวอวี่หลิน และเดินเข้าเมืองหลวงไป

ฉินเหยียนมองไปที่หลิวอวี่หลินแล้วถามด้วยรอยยิ้ม

“ได้ยินว่าตอนที่เจ้าคุมงานก่อสร้างที่กรมโยธาธิการ เจ้าขนอิฐขนปูนเองเลยหรือ? แม้ว่าข้าจะลดขั้นตำแหน่งเจ้า แต่งานควบคุมดูแลกรมโยธาธิการก็ไม่ถือว่าเป็นงานใช้แรงงานใช่หรือไม่?”

หลิวอวี่หลินส่ายหน้าแล้วพูดอย่างจริงจัง

“ท่านอ๋องให้กระหม่อมไปที่นั่น กระหม่อมย่อมต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ นี่คือการแสดงออกทางด้านทัศนคติอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะต้องขนอิฐขนปูน กระหม่อมก็ยินดีทำพ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ? ข้าสามารถคิดเช่นนี้ได้หรือไม่ว่าเจ้ายอมจำนนต่ออาณาจักรฉินแล้ว?”

ฉินเหยียนที่ดูสนใจจึงถามต่อ

“ท่านอ๋อง ท่านเข้าใจผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเลือกขุนนางถูกคน ส่วนกระหม่อมเลือกเจ้านายที่ฉลาด กระหม่อมเลือกแล้วว่าจะให้ท่านอ๋องเป็นเจ้านาย และมุ่งมั่นที่จะภักดีต่อท่าน ท่านอ๋องให้กระหม่อมทำสิ่งใด กระหม่อมก็ย่อมทำตามพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนมองเขาด้วยความประหลาดใจและมองหน้าเขาอย่างระมัดระวัง แต่ไม่อาจเจอความผิดปกติใดๆ

เด็กคนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ ทำให้เขาประทับใจครั้งแล้วครั้งเล่า

หลังจากที่ฉินเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามต่อด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องที่ข้าสร้างกองทัพเรือ เจ้าเข้าใจแล้วหรือยัง?”

เข้าจำได้ว่าในตอนแรกเด็กคนนี้ไม่เห็นด้วยกับเขาในเรื่องนี้

หลิวอวี่หลินประสานมือแล้วพูดว่า

“กระหม่อมเข้าใจเพียงแค่ครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ มีโจรสลัดจำนวนมากโจมตีพื้นที่ชายฝั่งอาณาจักรอู๋ หากอาณาจักรฉินสามารถสร้างกองทัพเรือที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้ เรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

“ฮ่าๆ เจ้ารู้เพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกเรื่องที่เจ้ายังไม่รู้ แต่ในไม่ช้าเจ้าจะได้คำตอบแน่นอน ค่อยๆ เรียนรู้ไปแล้วกัน”

“อาณาจักรฉินไม่มีทางปล่อยให้เจ้าถูกอย่างอื่นมาบดบัง ข้าจะให้เวทีแก่เจ้าเพื่อทอแสงประกาย แต่เจ้าจะไปที่ตำแหน่งนั้นได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าในวันพรุ่งนี้ในราชสำนัก เจ้าจะสามารถโน้มน้าวขุนนางฝั่งบู๊และฝั่งบุ๋นมากแค่ไหน”

หลิวอวี่หลินยิ้มและพูดว่า

“ระหว่างทางที่กระหม่อมเดินทางมาที่นี่ กระหม่อมได้คิดเอาไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

“ดี หลิวอวี่หลินยอมรับคำสั่งแล้ว!”

ฉินเหยียนหยิบพระราชโองการของฮ่องเต้ออกมาแล้วประทับตรามังกรของฉินชง

หลิวอวี่หลินคุกเข่าลงทันทีและพูดอย่างจริงจัง “หลิวอวี่หลินยอมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”

...

ในวันเดียวกัน

แมนจูเรีย ชาวตาดในวันนี้ นำโดยอาเอ๋อร์ผียังคงตะโกนต่อว่ากงอทัพอาณาจักรฉินอยู่

เสียวตะโกนและเสียงด่าทอแต่ละเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ และมีความเหยียดหยามแฝงอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ขวัญกำลังใจของทหารย่อมหมดสิ้นไปอย่างแน่นอน

ในฐานะที่เป็นคนในกองทัพเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาถือหอกและไม่สนใจบรรดาทหารที่คอยขัดขวาง ต้องการขี่ม้าออกไปสู้ทันที

แต่มีทหารกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งมาถึงประตูค่ายทหาร พวกเขากลับเห็นคนตัวใหญ่ สวมชุดเกราะสีดำ ถือหอกยาวกำลังจะเปิดประตูค่าย

จากนั้นท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน เขาถือหอก ขึ้นหลังม้า และรีบออกไปทันที

“เฮ้ย! หยุดพูดมากได้แล้ว ข้า หยางคัง ชาวอาณาจักรเยี่ยนอยู่นี่แล้ว มาสู้กับข้า”

เสียงตะโกนดังจากในค่ายทำให้ทุกคนต่างมีกำลังใจขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์