องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1358

เสียงตะโกนนี้ทำให้คนที่อยู่โดยรอบพลันมีกำลังใจขึ้นมาในทันที ทุกคนต่างมองออกไปที่ด้านนอก

เป็นผลให้พวกเขาเห็นทหารสวมชุดเกราะสีดำและทรงพลัง สวมหมวก ถือหอก ควบม้าขี่ออกไปหาอาเอ๋อร์ผีที่ตะโกนต่อว่าพวกเขาอยู่ที่หน้าฐานที่มั่น

ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทุกคนต่างเบิกตากว้างในทันที

หลี่ชางมองไปที่ด้านหลังของทหารชุดเกราะสีดำ หันศีรษะไปถามด้วยความประหลาดใจ

“ทหารคนนั้นคือใครกัน? กองพันไหน?”

แม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เบิกตากว้างเช่นกันและพูดอย่างระมัดระวัง

“ข้าคลับคล้ายคลับคลาว่ารู้จักเด็กคนนี้ขอรับ เป็นคนมาจากตระกูลหยาง เป็นน้องชายร่วมสาบานของจางจวิ้น ลูกชายบุญธรรมของจางฝู่ พวกเขามีกันทั้งหมดสี่คนขอรับ เด็กคนนี้เข้าร่วมกองทัพเมื่อสองวันก่อน แต่ยังไม่ได้วางแผนหรือสอนงานให้เขาเลยขอรับ...”

“วุ่นวายอะไรขนาดนั้นเชียว... เขาอยากตายหรือไร?”

หลี่ชางโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“พาตัวเขากลับมาเร็วเข้า อย่าส่งเจ้าเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวไปตายเลย!”

ชายหนุ่มที่เขาไม่ทราบที่มาที่ไปกำลังพุ่งเข้าไปหาอาเอ๋อร์ผี นั่นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายกำลังส่งตัวเองไปตายหรือ?

แม่ทัพที่อยู่ข้างๆ หลี่ชางกลืนน้ำลายพร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“ท่านผู้บัญชาการ มันสายเกินไปแล้วขอรับ”

ใจของหลี่ชางหล่นวูบ หลังจากนั้นเขาก็ถอยหายใจออกมา

“ความกล้าหาญของเขาเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง หากเขามีชีวิตกลับมาได้ ข้าจะเชิญเขาให้มาดื่มกับข้า”

เมื่อแม่ทัพได้ยินเช่นนั้นในใจพลันคิดว่า

“เกรงว่าคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว อาเอ๋อร์ผีไม่ใช่คนที่จะล้มได้ง่ายๆ เลย...”

เมื่ออาเอ๋อร์ผีเห็นทหารสวมชุดเกราะสีดำ ถือหอกพร้อมกับควบม้ามาทางเขา เขาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นส่งเสียงไม่พอใจออกมา

“ชุดเกราะทหารบกทั่วไปของอาณาจักรฉิน? ทหารบกธรรมดาๆ กล้าออกมาหาที่ตายถึงที่นี่ เช่นนั้นข้าจะสนองความต้องการให้เจ้าเอง!”

หลังจากพูดจบ เขาก็ยกค้อนทั้งสอง กระทุ้งไปที่ท้องม้าเพื่อกระตุ้นให้ม้าวิ่งไปข้างหน้า ความเร็วของม้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

“ฮี้ ฮี้”

ม้าควบไปทำให้เกิดคลื่นทะเลทราย

ตอนที่เขาอยู่ห่างจากทหารชุดเกราะสีดำเพียงไม่กี่ก้าว อาเอ๋อร์ผีก็เหวี่ยงค้อนและฟาดออกไปถึงสามครั้งติดต่อกัน

“เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าอย่างนั้นหรือ!”

หยางคังพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยกหอกในมือขึ้น และเหวี่ยงออกไปอย่างแรงเพื่อป้องกันการโจมตีของอาเอ๋อร์ผี

ทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงครึ่งเมตร

เมื่ออาเอ๋อร์ผีเห็นท่าทีเช่นนี้ เขาพลันมีสีหน้าร้ายกาจมากขึ้น ขาทั้งสองข้างเกาะแน่นไปที่ท้องม้า และเหวี่ยงค้อนออกไปอีกครั้ง

หยางคังส่งเสียงไม่พอใจออกมา จากนั้นยกหอกเพื่อสกัดอีกครั้ง

“เคร้ง”

เสียงกระทบที่ดังขึ้น ทำให้สถานการณ์ของหยางคังดูร่อแร่มากขึ้น เขาสูญเสียการทรงตัวและแรงในการจับหอก

หยางคังกัดฟันแน่นและต้านไว้อีกพักหนึ่ง จากนั้นใช้หอกพยุงร่างของตนเองเพื่อไม่ให้อาเอ๋อร์ผีเข้ามาเกาะแกะได้

หยางคังไม่ได้แสดงจุดอ่อนใดๆ แทงหอกออกไปราวกับสายฟ้าฟาด

แต่ในขณะนี้อาเอ๋อร์ผีกลับเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เขาถือค้อนด้วยมือทั้งสองข้างและยกมันขึ้นสุดแรง

“เคร้ง”

หอกและค้อนปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังหินขึ้น

อาเอ๋อร์ผีถือโอกาสนี้ต่อสู้กลับ เหวี่ยงค้อนในทันที เพื่อต้อนให้หยางคังต้องล่าถอยจนไม่มีโอกาสโต้กลับ

ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการต่อสู้ของเขายังทรงพลังมาก ทุกท่วงท่าการโจมตีอันตรายอย่างยิ่ง หากหยางคังเผยจุดอ่อนให้เห็น เขาจับสังเกตนั้นได้ในทันที

ตัวอย่างเช่นในเวลานี้ หยางคังเพิ่งถูกอาเอ๋อร์ผีไล่ต้อน อีกฝ่ายก็เหวี่ยงค้อนเข้าไปที่หน้าอกตนทันที

หากเขาถูกโจมตี กระดูกเขาต้องหักแน่ และมีสิทธิ์ตายในทันที

หยางคังกลับมีท่าทีสงบ แทนที่จะถอยหนีเขากลับก้าวไปข้างหน้าและแทงหอกไปที่อาเอ๋อร์ผีทันที

“ตายซะเถอะ!”

อาเอ๋อร์ผีพลันมีสีหน้าแห่งความสุข ใช้ค้อนทั้งสองโจมตีไปที่ศีรษะของหยางคัง

“ตึง”

หอกแทงสวนผ่านค้อนไป แต่กลับมีเสียงดังกึกก้อง ร่างของหยางคังถูกฟาดกระเด็นจนล้มไกลออกไป เขาตกจากหลังม้าและล้มลงกับพื้น แต่ในเวลาเดียวกัน อาเอ๋อร์ผีเองก็ล้มลงเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ตกจากหลังม้า

เมื่อตกลงมาที่พื้น หยางคังเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาก่อน หยิบหอกและพุ่งไปหาอาเอ๋อร์ผีทันที

อย่างไรก็ตามอาเอ๋อร์ผีถือว่าเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ปฏิกิริยาตอบกลับของเขายังคงเฉียบคมและไหลลื่นเหมือนปลาที่ว่ายกระโดดขึ้นจากน้ำ พร้อมกับเตรียมค้อนพร้อมที่จะฟาดออกไป เขาก็เห็นหยางคังวิ่งมาหาเขาและกำลังจะเหวี่ยงหอกมาทางเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์