องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1384

“หากท่านอ๋องอยากจะตรวจสอบอะไรก็ไม่ยากเพคะ”

“เช่นนั้นก็ดี!” ฉินเหยียนพยักหน้าอย่างพอใจ

จากนั้นเขาก็พูดอย่างเข้มงวดว่า “เจ้ารีบออกคำสั่งไป ให้คิดหาวิธีดูแนวโน้มของแต่ละอาณาจักรรอบๆนี้......”

ว่าแล้วฉินเหยียนก็หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า

“โดยเฉพาะที่ต้องระวังคือ มีอาณาจักรใดบ้างที่ค่อยๆสนิทสนมกับชาวตาดแล้วบ้าง”

สีหน้าของฉินเหยียนทำให้จ้าวจือหย่าเหมือนจะคิดอะไรได้

นางรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันจะรีบไปออกคำสั่งให้คนรีบไปปฏิบัติเพคะ!”

ฉินเหยียนโบกมือเพื่อแสดงให้จ้าวจือหย่าไม่ต้องสนใจเขา ส่วนเขาก็ครุ่นคิดเองอีกเช่นเคย ผ่านไปอยู่นานเขาก็ยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรบอกกับพี่ใหญ่และพี่เจ็ด และแล้วเขาจึงยืนขึ้นแล้วเตรียมจะเข้าพระราชวัง

ฉินเหยียนได้มาถึงพระราชวังอย่างราบรื่น เมื่อพบฉินชงแล้วก็ได้เรียกฉินอวี่มาด้วย

ทั้งสามพี่น้องรวมตัวกัน ฉินชงมองฉินเหยียนอย่างสงสัยแล้วถามว่า

“เจ้าสิบสี่ เกิดอะไรขึ้นใช่รึไม่? ถึงได้เรียกข้าและเจ้าเจ็ดมาด้วยกันเช่นนี้?”

ฉินอวี่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเช่นกัน แล้วมองฉินเหยียนอย่างสงสัย

เมื่อฉินเหยียนเห็นดังนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหน้าพูดว่า

“หาใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอก แต่อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นต่างหาก”

ฉินชงและฉินอวี่ยังคงจ้องมองเขา เพื่อรอให้เขาพูด

เมื่อเห็นว่าทั้งสองสีหน้าเคร่งขรึม ฉินเหยียนก็ได้อธิบายรายละเอียดถึงการคาดเดาต่างๆนานาของหลิวอวี่หลินให้ฟัง เมื่อพูดจบแล้วฉินชงและฉินอวี่ก็สีหน้าประหลาดใจอย่างยิ่ง

จากนั้นทั้งสองก็พากันตกตะลึง สีหน้านั้นราวกับเห็นผียังไงอย่างงั้น พวกเขาจ้องมองฉินเหยียนอย่างตกตะลึง และไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งแล้วฉินชงก็กลืนน้ำลายแล้วพึมพำว่า

“นี่......นี่.......นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว ชาวตาดมีความทะเยอทะยานเพียงนั้นเชียวรึ?”

ฉินอวี่เองก็พูดสมทบว่า “นั่นสิ มัน......มันช่าง......”

ฉินเหยียนกลับแค่กระแอมเบาๆแล้วเบ้ปากพูดว่า

“เรื่องที่ชาวตาดมีความทะเยอทะยานสูงนั้นไม่ใช่เรื่องระยะนี้แล้ว อีกอย่างพวกมันก็ดูถูกคนที่ราบกลางมาโดยตลอด สำหรับชาวตาดแล้วราชวงศ์ที่ราบกลางนั้นก็แค่สวนหลังบ้านของพวกมัน”

ฉินชงและฉินอวี่ได้ยินดังนั้นก็ต้องพยักหน้าเห็นด้วย

ฉินอวี่พูดอย่างร้อนใจว่า “เช่นนั้นพวกเราก็ต้องได้รับผลกระทบอย่างยิ่งเป็นแน่”

ฉินเหยียนเงียบไป เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ชาวตาดมีกำลังในการต่อสู้ที่ดุดันอย่างยิ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัว

แต่ตอนนี้ชาวตาดกลับดึงอาณาจักรอื่นๆเข้าด้วยกัน นั่นทำให้ฉินเหยียนรู้สึกเป็นปัญหา หลักๆเพราะไม่รู้ว่าชาวตาดดึงพันธมิตรมาได้เท่าไร หากชาวตาดดึงมาได้มากพอ อาณาจักรฉินก็จะตกอยู่ในอันตราย

อย่างไรแล้วต่อให้อาณาจักรฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถบุกทะลวงการปิดล้อมของอาณาจักรมากมายเพียงนั้นได้

ฉินชงที่อยู่ข้างๆสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดว่า

“ข้าคิดว่าเราต้องทำการเตรียมพร้อมให้ดี หากเกิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุดขึ้น เราควรจะทำอย่างไรเพื่อลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด”

ฉินอวี่พยักหน้าแสดงความเห็นด้วย และเสนอว่า

“เราควรจะเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าก่อน และก่อนที่จะทำการเตรียมการล่วงหน้าคือ เราต้องสืบรู้ว่ามีอาณาจักรที่เข้าร่วมกับชาวตาดเพื่อต่อกรกับอาณาจักรฉินมากเท่าไร”

ฉินชงพยักหน้าพูดว่า “อืม รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง! ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ จะต้องได้ครอบครองการเคลื่อนไหวของทุกๆอาณาจักรให้ได้”

“ไม่ต้องหรอก ข้าได้ส่งคนไปแล้ว เกรงว่าอีกไม่กี่วันก็จะได้ข่าวแล้ว” ฉินเหยียนพูดขึ้น

ฉินชงอึ้งไป แล้วมองเขาอย่างตกตะลึงแล้วถามว่า “ส่งคนไปเมื่อไรรึ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์