องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 140

ในเวลาเพียงไม่กี่วันภายใต้การนำของฉินเหยียนด่านถงกวานก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

ทันทีที่เข้าไปในประตูเมืองจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เมื่อมองไปรอบๆจะเห็นกำแพงสูงล้อมรอบพื้นที่เปิดโล่งทั้งหมด มันมีรูปร่างเหมือนสนามกีฬาขนาดใหญ่ แต่ใหญ่โตพอๆกับสนามกีฬาหลายสิบแห่ง

เมื่อยืนอยู่ด้านบนกำแพงสูงที่กว้างหนาและมั่นคงแล้วมองลงมาไม่เพียงแต่จะสามารถมองเห็นสถานการณ์ตรงพื้นที่ตรงกลางได้อย่างชัดเจน แต่ยังสามารถมองสถานการณ์นอกด่านไปหลายกิโลเมตรได้อีกด้วย

ฉินเหยียนยืนอยู่ตรงกลางพื้นที่เปิดโล่งและมองไปรอบๆผลงานชิ้นเอกของเขาด้วยความพึงพอใจ

แม้ว่าองค์ชายใหญ่ฉินชงจะประหลาดใจกับสิ่งก่อสร้างแห่งนี้เช่นกันแต่กลับไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่ซ่อนอยู่จึงถามขึ้นมาว่า

"น้องสิบสี่ กำแพงที่เจ้าสร้างนั้นแข็งแกร่งมาก เพียงแต่การใช้แรงกำลังมากถึงเพียงนี้ในการสร้างกำแพงเช่นนี้เพื่อที่จะล้อมรอบพื้นดิน มันไม่เกินกำลังไปหน่อยหรือ?"

ฉินเหยียนมิได้ตอบแต่ถามกลับว่า

"เสด็จพี่ใหญ่ ท่านลองมองดูสิว่าการที่พวกเรายืนอยู่บนกำแพงสูงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"

องค์ชายใหญ่ฉินชงลูบคางและกล่าวว่า

"เหมือนอะไรข้ายังคิดไม่ออก แต่ที่เจ้าพูดมาก็ทำให้ข้านึกขึ้นได้ว่าที่ตรงกลางที่ว่างเปล่าและไม่มีที่กำบังเช่นนี้ หากเวลานี้มีคนมายืนอยู่บนกำแพงสูงและโจมตีข้าแล้วล่ะก็ ข้าก็จะไม่มีทางหนี"

เวลานี้องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ก็มีปฏิกิริยาเล็กน้อยและกล่าวว่า

"ถูกต้อง มันเหมือนกับคนไร้ทางสู้ที่ถูกขังอยู่ในนี้อย่างจงใจ เพื่อรอคนมาเหยียบย่ำ!"

ฉินเหยียนยิ้มเล็กน้อยพลางพยักหน้าและกล่าวอธิบายว่า

"สมแล้วที่เสด็จพี่ทั้งสองหลักแหลมเกินคน ที่ข้าสร้างกำแพงสูงตรงประตูด่านถงกวานนี้ก็เพื่อป้องกันศัตรูจากภายนอก และตั้งชื่อมันว่าเวิ่งเฉิง"

องค์ชายใหญ่และองค์ชายเจ็ดต่างก็มองหน้ากันและกล่าวพร้อมกันว่า

"เวิ่งเฉิง? หมายความว่าอย่างไร?"

ฉินเหยียนกล่าวต่อว่า

"ที่เรียกว่า 'เวิ่ง' ก็คือโถซึ่งเป็นภาชนะที่มีขนาดใหญ่กว่าขวดโหลและเล็กกว่าถัง ส่วน 'เวิ่งเฉิง' ความหมายก็คือเป็นเมืองเล็กๆที่มีลักษณะคล้ายกับ 'โถ' "

"อย่างที่เสด็จพี่ทั้งสองกล่าวไว้ หากมีศัตรูรุกรานเมื่อพวกเขาเข้าไปในเวิ่งเฉิงแล้วพวกเราก็มอบ 'หมูในอวย' ให้แก่พวกเขา ทำให้พวกเขาเข้ามาได้แต่ออกไปมิได้ มาถึงได้แต่กลับไปมิได้"

เหตุผลที่ฉินเหยียนคิดจะสร้างเวิ่งเฉิงขึ้นมา เพราะเขาบังเอิญอ่านหนังสือเกี่ยวกับทหารและเรียนรู้จากในหนังสือ ทว่าเวิ่งเฉิงส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นนอกประตูเมืองเป็นหลักเพื่อปกป้องประตูเมือง

ส่วนฉินเหยียนสร้างเวิ่งเฉิงไว้ในเมืองก็เพื่อเพิ่มประโยชน์ของ 'โถ' ให้มากขึ้น

ในใจของเหล่ทหารชั้นยอดต่างก็อดกลั้นมานานแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่พวกเขาทำงานกับเหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวมักได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างเอ็ดตะโรเป็นครั้งคราว จึงรู้สึกอยากจะต่อสู้กับพวกเขามานานแล้ว

ในเมื่อเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวเริ่มยั่วยุพวกเขาก่อน พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป จึงหยิบจอบขึ้นมาและก้าวไปข้างหน้า

"ก็มาสิ สู้ก็สู้!"

เมื่อฉินเหยียนเห็นว่าไม่ได้การจึงยืนขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายและห้ามปรามทันที

"ทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้! วางอาวุธทั้งหมดลง!"

องค์ชายใหญ่ฉินชงรีบเกลี้ยกล่อมว่า

"วางลง วางลงให้หมด ทำงานร่วมกันมาตั้งหลายวันแล้วเหตุใดยังแตกคอกันเช่นนี้เล่า และนี่ก็มิใช่สนามรบยังจะท้าตีท้าต่อยกันด้วยเหตุใด!"

สองสามวันนี้แม้ว่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวจะยุ่งอยู่กับการช่วยสร้างเวิ่งเฉิง แต่ฉินเหยียนก็มิได้ปฏิบัติต่อพวกเขาไม่ดี เขานำอาหารและสุราดีๆมาให้แก่พวกเขา จะมีเชลยศึกที่ไหนที่ได้รับการดูแลที่ดีเช่นนี้

ทว่าเหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวยังคงมิอาจก้าวข้ามผ่านปมในใจ อย่างไรเสียเขาก็เป็นทหารของอาณาจักรจ้าว เมื่อถูกฉินเหยียนติดสินบนเช่นนี้พวกเขาก็รู้สึกผิดต่ออาณาจักรจ้าวจริงๆ บางทีเวลานี้อาณาจักรจ้าวอาจจะกำลังคิดวิธีช่วยพวกเขาอยู่ จึงกล่าวว่า

"พวกเจ้าล้มเลิกความคิดที่จะให้พวกข้ายอมจำนนเสียเถิด จะฆ่าจะแกง ก็ตัดสินให้รู้กันไปในวันนี้!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์