องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 141

ฉินเหยียนกวาดตามองเหล่าเชลยศึกแห่งอาณาจักรจ้าวด้วยสายตาที่เย็นชา แม้ว่าพวกเขาจะกล่าวอย่างหนักแน่นทว่าไม่มีใครกล้ามองเขาตรงๆ

หลังจากอยู่ร่วมกันมาหลายวัน เหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวก็มิได้ตาบอด ในใจของพวกเขากระจ่างชัดว่าฉินเหยียนเป็นคนดี

เขาทำงานหนักร่วมกับผู้น้อยและปฏิบัติต่อผู้น้อยเหมือนพี่น้องแท้ๆ เขากินดื่มและพูดคุยกับพวกเขาโดยไม่ถือตัว แม้แต่เชลยศึกเช่นพวกเขาเขายังปฏิบัติเหมือนสหาย ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเมื่ออยู่ที่อาณาจักรจ้าว

หากมิใช่สองอาณาจักรขัดแย้งกันพวกเขาคงคิดจะยอมจำนนแล้วจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วสามัญสำนึกก็บอกพวกเขาว่าพวกเขาเกิดเป็นคนของอาณาจักรจ้าว ตายก็ต้องเป็นผีของอาณาจักรจ้าว

"พวกเราเคารพท่านอ๋องเหยียน ท่านกล่าวมาตรงๆ สังหารพวกเราเสียไม่ก็ปล่อยพวกเราไป แต่จะให้ยอมจำนนนั้นท่านอย่าหวังเลย!"

มุมปากของฉินเหยียนยกขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า

"ข้ารู้ว่าพวกเจ้าโกรธที่ถูกต้าฉินของข้าจับเป็นเชลยโดยยังมิได้ต่อสู้ จึงไม่เต็มใจที่จะยอมรับกระมัง"

"เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็มาแข่งขันกันเถิด"

เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวรีบตอบรับว่า

"ดี! จะใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธแล้วแต่พวกท่านเลือก!"

ฉินเหยียนส่ายศีรษะ

"ข้าสนับสนุนความสงบสุข การตีรันฟันแทงเป็นบาปกรรมและจะส่งผลต่อความโชคดีตลอดชีวิตที่เหลือ ไม่จำเป็นต้องนองเลือดและรุนแรงเช่นนี้"

"เพียงแค่ต้องการเดิมพันว่าชนะหรือแพ้ใช่ไหม เช่นนั้นพวกเรามาเล่นอะไรที่แสดงฝีไม้ลายมือกันดีกว่า พวกเจ้ากล้าแข่งหรือไม่?"

ผู้กล้ามิอาจทนต่อการยั่วยุได้ เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวจึงตะคอกอย่างเย็นชาว่า

"ฮึ ทำไมจะไม่กล้าแข่ง ข้าบุรุษของอาณาจักรจ้าวมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ทุกประเภท เพียงบอกมาว่าต้องการแข่งอะไร!"

เมื่อพูดถึงการแข่งขัน อันที่จริงฉินเหยียนมีความต้องการส่วนตัวที่ซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงกล่าวว่า

"ในเมื่อเชี่ยวชาญทุกอย่าง เวลานี้เวิ่งเฉิงได้รับการบูรณะซ่อมแซมเรียบร้อยแล้วและกว้างใหญ่พอ มิสู้พวกเราก็แข่งชู่จวีกันเสียที่นี่ ว่าอย่างไร?"

เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวกลอกตาด้วยเกรงว่าจะมีกับดักจึงถามกลับว่า

"แข่งก็แข่ง แต่ต้องแข่งขันอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย อย่าเล่นลูกไม้"

เมื่อเหล่าทหารชั้นยอดได้ยินว่าจะแข่งชู่จวีก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ละคนต่างก็กล่าวอย่างไม่เกี่ยวงอนว่า

"ใครเล่นลูกไม้ ไม่กล้าแข่งก็พูดตรงๆ พูดจาไร้สาระ!"

เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวกล่าวอย่างไม่อ่อนข้อว่า

"แข่งก็แข่ง คิดว่ากลัวหรือ!"

บรรยากาศระหว่างฉินและจ้าวตึงเครียดในทันที และบรรยากาศก็เต็มไปด้วยการทะเลาะวิวาท

ฉินเหยียนกล่าวเสียงดังว่า

"เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าเลือกคนเถิด ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าเตรียมตัว!"

เหล่าทหารชั้นยอดและเหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวต่างก็ทำงานอย่างหนักเพื่อเอาชนะการแข่งขันนี้

........

ตำแหน่งของไท่ฟู่ในต้าฉินคือผู้ช่วยเสนาบดีในราชสำนักและเป็นราชครูของฮ่องเต้ซึ่งจัดอยู่ในซานกงจิ่วชิง ดำรงตำแหน่งสูงส่งในราชสำนักมีอำนาจมากมายและคำพูดมีน้ำหนัก

เมื่อองค์ชายใหญ่และองค์ชายเจ็ดได้ยินว่าไท่ฟู่มาด้วยตนเอง จึงออกไปต้อนรับอย่างไม่ลังเล

"ต้อนรับไท่ฟู่!"

ไท่ฟู่ขี่ม้าตัวใหญ่เข้าไปในเวิ่งเฉิงด้วยท่วงท่าที่สูงส่ง

เขากวาดสายตามององค์ชายทั้งสองพลางประสานมือและกล่าวว่า

"คารวะองค์ชายใหญ่ องค์ชายเจ็ด องค์ชาย.....เอ๋ องค์ชายสิบสี่ฉินเหยียนเล่า เหตุใดจึงไม่เห็น?"

องค์ชายใหญ่ฉินชงรีบรายงานว่า

"น้องสิบสี่ฉินเหยียนกำลังทำกิจธุระ ไท่ฟู่มาถึงอย่างกะทันหัน เขาจึงมิอาจมาต้อนรับได้ทันเวลา ขอไท่ฟู่โปรดอภัย"

ไท่ฟู่ยืดตัวตรงและกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า

"รีบให้เขามารับราชโองการ"

"ครั้งนี้กระหม่อมนำราชโองการของฝ่าบาทมา กองทัพทั้งสามได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากยึดครองด่านถงกวานได้แล้ว มิสู้ถือโอกาสนี้เคลื่อนทัพไปทางตะวันออก บุกไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรจ้าว เพื่อขยายอาณาเขตของต้าฉินของเรา"

ทันทีที่กล่าวคำพูดนี้ออกมารอยยิ้มบนใบหน้าของหลายๆคนก็หายไปทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์