องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 143

"ว่าอย่างไรนะ?"

คราวนี้มิใช่เพียงแต่ไท่ฟู่เท่านั้น แม้แต่จ้าวจือหย่า องค์ชายใหญ่ องค์ชายเจ็ด และคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง

ขัดราชโองการอย่างโจ่งแจ้ง นี่.....

ฉินเหยียนปฏิเสธโดยไม่คาดคิดว่า

"หูหนวกหรือ ข้าบอกว่าข้าปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม"

หลังจากกล่าวจบยังโยนราชโองการลงไปบนพื้นที่เบื้องหน้าไท่ฟู่

"เจ้า เจ้าบังอาจ!"

ไท่ฟู่โกรธมากจนลุกขึ้นและก่นด่า

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่มองไปที่ฉินเหยียนด้วยความไม่เชื่อ และสมองขององค์ชายใหญ่ฉินชงก็ว่างเปล่าเช่นกัน

ไท่ฟู่หยิบราชองค์การขึ้นมาและถามอย่างฉุนเฉียวว่า

"ฝ่าบาททรงมีราชโองการ เจ้ากล้าขัดราชโองการ จิตใจที่ไม่จงรักภักดีของเจ้าก็ปรากฏชัดเจนแล้ว เจ้า....."

ฉินเหยียนขัดจังหวะ ว่า

"อย่ามายกยอข้าเลย แม้ว่าทัพของข้าจะยึดครองด่านถงกวานได้แล้วแต่กองทัพใหญ่นับล้านของอาณาจักรจ้าวก็มิใช่จะรังแกได้ง่ายๆ"

"หากเวลานี้เคลื่อนทัพไปทางตะวันออก อาศัยกองทัพไม่กี่หมื่นคงไม่เพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของอาณาจักรจ้าวได้"

สีหน้าของไท่ฟู่เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูและกล่าวอย่างเย็นชาว่า

"เจ้ามิใช่สามารถเรียกอสนีบาตได้หรือ และยังมีกองทัพอีกห้าหมื่นนายซึ่งทุกคนล้วนเป็นผู้กล้า จะแพ้ได้อย่างไร!"

"หรือองค์ชายสิบสี่กลัวสงคราม มิกล้าโจมตีอาณาจักรจ้าว?"

ฉินเหยียนตะคอกอย่างเย็นชาว่า

"เจ้านี่ช่างพูดขำขันเก่งเสียจริง ข้ากลัวสงคราม ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ได้มาได้อย่างไร? และยังเชลยศึกสี่หมื่นคนนี้อีก หรือว่าเจ้าเป็นคนจับมา?"

ไท่ฟู่จ้องมองฉินเหยียนพลางกล่าวว่า

"ในเมื่อองค์ชายสิบสี่สามารถเรียกอสนีบาตและวารีแห่งสวรรค์ ด้วยความสามารถเช่นนี้การปราบอาณาจักรจ้าวมิใช่เป็นเรื่องที่เพียงชี้นิ้วก็ทำสำเร็จได้หรอกหรือ เหตุใดจึงต้องวุ่นวายอยู่กับด่านถงกวานด้วยเล่า บุกโจมตีอาณาจักรจ้าวไม่ดีกว่าหรือ!"

ฉินเหยียนยิ้มอย่างจนปัญญา ชายชราผู้ดื้อรั้นคนนี้มีความคิดแปลกนัก

"การยึดด่านถงกวานเป็นการโจมตีอาณาจักรจ้าวโดยไม่ให้ตั้งตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะอาณาจักรจ้าวได้อย่างง่ายดาย"

"กระต่ายเมื่อตื่นตระหนกก็ยังกัดคน อาณาจักรจ้าวอ้างว่ามีกองทัพหนึ่งล้านนาย หากต้องการต่อสู้กับต้าฉินจนตาย อาศัยคนเพียงไม่กี่หมื่นคนจะสกัดกั้นได้นานเพียงใด?"

"นอกจากนี้ อาณาจักรจ้าวยังระดมกำลังทหารทั้งหมดพร้อมต่อสู้กันจนตกตายไปด้วยกัน เจ้าคิดว่าต้าฉินมีโอกาสชนะมากเพียงใด?"

"จะเป็นอย่างไรหากกองทัพฉินและจ้าวต่อสู้กัน แล้วอาณาจักรอื่นฉวยจังหวะที่กองทัพของพวกเราแตกพ่ายถือโอกาสโจมตีและผนวกต้าฉินของเรา นั่นมิใช่เป็นชาวประมงที่นั่งอยู่บนฝั่งก็ได้ประโยชน์หรือ ผลที่ตามมาเช่นนี้ผู้ใดสามารถรับผิดชอบ?"

ฉินเหยียนยกคำถามสามข้อติดต่อกันทำให้องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ซึ่งเดิมทีต้องการเคลื่อนทัพไปยังตะวันออกอย่างฮึกเหิม เวลานี้มิกล้าแม้แต่จะหายใจ และก้มศีรษะลงอย่างท้อแท้

เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าไปในหูของไท่ฟู่มันหมายความว่าองค์ชายสิบสี่ขี้ขลาดและไร้สามารถ เขาจึงกล่าวว่า

"ทำสงครามหากมัวห่วงหน้าพะวงหลังจะไปสู้รบอะไร สิ่งที่ต้องมีก็คือแรงฮึดสู้!"

ฉินเหยียนกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า

"เกียรตินี้ข้ารับไม่ไหว เมื่อกลับไปแล้วข้าจะอธิบายให้เสด็จพ่อเข้าใจอย่างชัดเจน ดังนั้นไม่ขอรบกวนไท่ฟู่"

"เจ้า....."

และในเวลานี้เองทหารที่เฝ้าเมืองก็รีบเข้ามารายงานว่า

"ทูลอ๋องเหยียน ที่นอกเมืองมีทูตของอาณาจักรจ้าวมาเยือนพะยะค่ะ"

ทันทีที่กล่าวคำพูดนี้ออกมา บรรยากาศที่แต่เดิมตึงเครียดก็สงบลงทันที

"มาได้จังหวะพอดี ข้ากำลังรอพวกเขาอยู่?"

ฉินเหยียนยิ้มอย่างมั่นใจ และกระแทกไหล่ของไท่ฟู่ด้วยไหล่ของเขา

"นี่ เจ้ามาพอดี เจ้าก็เป็นตัวแทนของต้าฉินในการเจรจากับอาณาจักรจ้าวก็แล้วกัน ไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ อย่างไรเสียชาวจ้าวก็มิได้ตั้งใจที่จะเจรจาด้วยดีอยู่แล้ว"

ในขณะที่ฉินเหยียนกล่าวเขาก็วางมือบนไหล่ของไท่ฟู่ และกล่าวต่อว่า

"การที่ชาวจ้าวมาที่นี่เพื่อเจรจาจะต้องทวงคืนด่านถงกวานอย่างแน่นอน ไม่ว่าพวกเขาจะมีเงื่อนไขอะไรเจ้าก็ปฏิเสธเสียให้หมด อย่างไรเสียอาณาจักรจ้าวก็ต้องการถ่วงเวลาอยู่แล้ว เจ้าก็รับผิดชอบให้ความร่วมมือกับการแสดงก็แล้วกัน"

ไท่ฟู่ถามกลับด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวว่า

"เจ้ารู้แล้วยังจะให้ข้าร่วมมือ?"

"ก็ใช่น่ะสิ เจ้าไม่รู้อะไร นี่เรียกว่าแผนซ้อนแผน พวกเรามิอาจเอาชนะมันได้หากเราเริ่มลงมือก่อน กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือใช้การป้องกันแทนการโจมตี รอจนศัตรูเหนื่อยล้าและใช้กำลังจนหมด จึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์