องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 154

ท่าทีที่ไม่ยอมรับของจ้าวฉี่หมิง ทำให้ท่าทีของไท่ฟู่เปลี่ยนไป

“ทำไมเจ้าจ้าว เจ้าคิดจะปฏิเสธหรือ?”

องค์ชายใหญ่ฉินชงและองค์ชายเจ็ดฉินอวี่พลันมีสีหน้าเย็นชาเช่นกัน พวกเขาพูดอย่างไม่พอใจว่า

“เป็นถึงอัครเสนาบดีของอาณาจักร กลับผิดคำพูด ตระบัดสัตย์ ไม่สมควรที่จะเกิดมาเป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย!”

“ดังคำพูดที่ว่า คำพูดของที่หลุดออกจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน หรือว่าอาณาจักรจ้าวของเจ้าก็เป็นคนไม่รักษาคำพูด ขี้โกงเช่นเจ้า หากเรื่องนี้ถูกลือออกไป คงทำให้อาณาจักรอื่นต้องหัวเราะเยาะเป็นแน่!”

ทั้งสามคนต่างคนต่างพูด ทำให้สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงเปลี่ยนไปในทันที เขาพูดด้วยความโกรธว่า

“เมื่อต้องรับมือกับอาณาจักรเล็กๆ ที่ชั่วร้ายเช่นเจ้า ไม่ต้องพูดถึงความซื่อสัตย์หรอก ข้าจะตอบแทนอีกฝ่ายด้วยวิธีการของข้าเอง ทำไม พวกเจ้ารับไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

“คิดจะใช้แผนการกระจอกๆ นี้ยึดครองด่านถ่งกวานหรือ รอให้ถึงชาติหน้าเถิด!”

เมื่อไท่ฟู่ได้ยินดังนั้น เขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความยุติธรรมของบ้านเมือง เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนอีกต่อไปแล้ว เขาต่อว่าออกไปว่า

“เฮอะ ตาเฒ่าหน้าโง่ เจ้าคนดื้อรั้น ไม่ยอมปรับตัว ไม่รักษาคำพูด ตอนนี้ด่านถ่งกวานถูกพวกข้ายึดครองเอาไว้แล้ว พวกเจ้าต้องยอมแพ้ให้แก้พวกข้า แม้ว่าใจเจ้าจะไม่อยากทำก็ตาม!”

“อีกอย่างช่วยดูแลปากของเจ้าไว้ให้ดี มีปากเอาไว้กินอะไรก็ได้ แต่พูดจาไร้สาระเช่นนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะทำให้อาณาจักรฉินของข้าต้องเสื่อมเสีย!”

จ้าวฉี่หมิงพูดอย่างจริงจังว่า

“ข้าจะทำให้พวกเจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้าบอกว่าอาณาจักรฉินของพวกเจ้าก็แค่โจรกระจอก นี่ถือเป็นการยกย่องพวกเจ้าแล้ว!”

“อาณาจักรฉินของเจ้า ไม่สนใจหน้าตาและภาพลักษณ์ของอาณาจักจ้าวเลยแม้แต่น้อย เจ้าลดตำแหน่งองค์หญิงสามของข้าให้เป็นแค่นางทาส เจ้ายึดครองด่านถ่งกวานของอาณาจักรจ้าว ไม่ยอมออกจากดินแดน จงใจจัดการแข่งขันชู่จวีขึ้นเพื่อทำให้ทหารอาณาจักรจ้าวต้องอับอาย เจ้ามันน่ารังเกียจยิ่งนัก!”

“เจ้า!”

ไท่ฟู่โกรธจนหน้าแดงจนเกือบจะล้มลง

ฉินเหยียนที่เงียบมาโดยตลอด ยืนขึ้นช้าๆ เดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า

“อัครเสนาบดีจ้าว ท่านพูดผิดแล้ว!”

“เจ้าพูดว่าอาณาจักรฉินของข้าตั้งใจลดตำแหน่งองค์หญิงสามให้เป็นนางทาสหญิงหรือ?”

“เช่นนั้นเจ้าคงลืมไปแล้วว่า ในงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์เมื่อไม่นานมานี้ พวกเจ้าเป็นฝ่ายยอมรับการเดิมพันเอง อีกทั้งพวกเจ้าก็แพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ตำแหน่งองค์หญิงสามของพวกเจ้าต้องเหลือเพียงแค่นางทาสอย่างไรล่ะ”

“พูดถึงการแข่งขันชู่จวี นี่เป็นโอกาสที่ให้ทหารแห่งอาณาจักรจ้าวได้รับความยุติธรรม แพ้ชนะขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า ทักษะของพวกเจ้ากลับด้อยกว่าคนอื่น แต่กลับพูดว่าอาณาจักรฉินทำให้เจ้าต้องอับอาย มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

“อีกอย่าง แม้ว่าดินแดนด่านถ่งกวานเป็นพื้นที่ของพวกเจ้านั้นเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อกองทัพทั้งสองได้ทำสงครามขึ้นแล้ว อาณาจักรจ้าวไร้ความสามารถ พ่ายแพ้ให้แก่กองทัพฝั่งข้า ไม่อาจป้องกันด่านถ่งกวานเอาไว้ได้ เช่นนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ข้าจะยึดครองดินแดนนี้และใช้ประโยชน์จากมันน่ะสิ”

ฉินเหยียนตอบโต้ในทันที แต่ละประโยคที่จ้าวฉี่หมิงได้พูดออกมากลับถูกเขาแย้งกลับทั้งหมด

สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงพลันเป็นสีแดง พยายามควบคุมสติ ชี้ไปที่ฉินเหยียนด้วยความโกรธและพูดว่า

ทันที่ทหารอาณาจักรฉินได้ยินเสียงกลอง พวกเขาพลันหยิบอาวุธขึ้นทันทีและระดมกำลังทหาร

จ้าวฉี่หมิงมองไปที่ทุกคนที่กำลังเร่งรีบ ใบหน้าเขามีความสุขมาก หัวเราะเยาะเย้ยออกมา

“คงคิดไม่ถึงล่ะสิว่าพวกข้าจะส่งกองทัพเข้ามา ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนว่า ยังมีเรื่องที่พวกเจ้าคาดไม่ถึงมากกว่านี้อีก!”

จากนั้นคนที่ยืนอยู่ข้างกำแพงพูดเสียงดังขึ้นว่า

“ทหารอาณาจักรจ้าวทุกคนฟังคำสั่งให้ดี ให้ความร่วมมือทั้งภายในและภายนอก ลงมือได้!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง ทุกคนต่างชักดาบออกมา

เชลยศึกอาณาจักรจ้าวรีบไปที่สนาม ยกก้อนหินและไม้ในมือขึ้นมา ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกองทัพอาณาจักรฉินกับพวกเขา

เมื่อได้ยินคำสั่งที่มั่นใจจ้าวฉี่หมิง ไท่ฟู่คิดว่าในกองทัพมีไส้ศึก มองลงไปอย่างระมัดระวัง เห็นว่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวไม่มีอาวุธในมือเลยแม้แต่คนเดียว

ทำให้ไท่ฟู่คลายกังวลลงได้ หัวเราะเสียงดังและพูดออกมาว่า

“ฮ่าๆๆ จ้าวฉี่หมิงเอ๋ย จ้าวฉี่หมิง เจ้าปล่อยให้ทหารที่พ่ายแพ้เหล่านี้ต่อสู้กับทหารชั้นยอดของอาณาจักรฉินอย่างนั้นหรือ?”

“เชลยศึกเหล่านี้เป็นเหมือนพวกหัวมังกุท้ายมังกรไปแล้ว หรือว่าเจ้ามีแผนจะให้พวกเขาขว้างก้อนกินและท่อนไม้เพื่อเอาชนะพวกข้า? หยุดฝันเสียที!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์