หน่วยลาดตระเวนรีบมาที่กำแพง จ้าวจือหย่าหยุดพวกเขาในทันทีแล้วถามว่า
“มีเรื่องอะไรถึงได้รีบร้อนขนาดนี้?”
หน่วยลาดตระเวนแจ้งในนสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินทุกอย่าง สีหน้าของจ้าวจือหย่าเปลี่ยนไปในทันที นางพูดเสียงต่ำว่า
“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ข้าจะรายงานอ๋องเหยียนทันที”
จ้าวจือหย่ารีบตรงที่ฉินเหยียน มองไปยังคนของอาณาจักรจ้าวที่นั่งอยู่อย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็น จากนั้นนางกระซิบเบาๆ ว่า
“หน่วยลาดตระเวนรายงานว่าพวกเชลยศึกมีท่าทีแปลกไป ดูเหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนดูเหมือนจะคาดเดาเอาไว้อยุ่แล้ว พูดอย่างใจเย็นว่า
“ไม่ต้องกังวล พวกมันไม่อาจสร้างคลื่นลูกใหญ่ได้หรอก”
หน่วยสอดแนมแนวหน้าของอาณาจักรจ้าวได้รวบรวมทหารไว้หนึ่งแสนนาย หากพวกมันร่วมมือกับพวกเชลยศึกจำนวนสี่หมื่นคนในเมืองแล้วล่ะก็ นางจะวางใจได้อย่างไร จึงถามอย่างเป็นกังวลว่า
“อ๋องเหยียน ในเมื่อทราบข่าวแล้ว รู้ว่านี่เป็นแผนของอาณาจักรจ้าว ไม่รู้พวกเรารีบชิงลงมือก่อนไม่ดีกว่าหรือเจ้าค่ะ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างสบายๆ
“ข้ามีแผนอยู่แล้ว อีกอย่างเจ้าไม่เห็นหรือว่าหลิวเชียนเชียนหายตัวไปหลายวันแล้ว?”
หลังจากฉินเหยียนพูดเตือน จ้าวจือหย่าพลันตระหนักขึ้นมาได้ สองสามวันนี้นางมัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างกำแพงล้อมรอบประตูเมือง อีกทั้งยังยุ่งกับการจัดการแข่งขันชู่จวี นางยุ่งมากจริงๆ จนไม่ได้สังเกตเห็นหลิวเชียนเชียนเลย
จ้าวจือหย่าถามอย่างสงัสย
“เอ๋? จริงด้วย หลิวเหชียนเชียนไปไหนหรือ?”
ฉินเหยียนยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดแฝงนัยยะสำคัญเอาไว้
“เจ้าคิดว่าข้าเพิ่งสร้างเมื่อนี้หรือ? พูดตามความจริง พื้นที่หลายสิบลี้นี้อยู่ในแผนผังของข้า”
สายตาของจ้าวจือหย่าเต็มไปด้วยความตกใจ นางมองไปที่ฉินเหยียนที่มีความลับซ่อนอยู่ในสายตา ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ฉินเหยียนพูดต่อ
“สัตว์ร้ายที่ติดในกรง ไม่อาจรอได้นานหรอก มาดูกันว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง”
ใจที่กังวลของจ้าวจือหย่าพลันผ่อนคลายลง ฉินเหยียนได้คิดคำนวณทุกอย่างอย่างระมัดระวังไว้จนหมดแล้ว นางไม่กังวลอีกต่อไป ทำได้แค่รอชมเท่านั้น
ธูปที่เหลือไม่ถึงครึ่งดอก การแข่งขันระหว่างสองอาณาจักรก็ถึงจุดเดือด
ผู้เล่นทุกคนต่างพยายามอย่างเต็มที่ เหงื่อท่วมร่าง แต่ไม่มีใครในสนามคลายความกังวลไปได้ อีกทั้งยัมองหาจังหวะการยิงอยู่ตลอดเวลา
รองหัวหน้าฝั่งอาณาจักรฉินแย่งลูกจากเท้าฝั่งหัวหน้าอาณาจักรจ้าวได้ และวิ่งไปยังประตูพร้อมกับลุกหนังในทันที
“ดีมกา! ใกล้หมดเวลาแล้ว อดทนไว้!”
“ไร้ประโยชน์เสียจริง ทำให้อาณาจักรจ้าวต้องขายหน้า ไอ้พวกขยะ!”
ในเวลานี้ กลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวโกรธมาก ต่างด่าทอไปที่พวกเขา
ไท่ฟู่เห็นว่าธูปหมดก้านแล้ว อาณาจักรจ้าวพ่ายแพ้ เขาลูกเคราและพูดราวกับผู้ชนะว่า
“เจ้าจ้าว ครั้งนี้คงไม่มีอะไรสามารถหักล้างได้อีกแล้ว เวลาหมดแล้ว แข่งทั้งหมดสามครั้ง อาณาจักรฉินชนะสองครั้ง อาณาจักรจ้าวของเจ้าแพ้ราบคาบ ฮ่าๆๆ”
จ้าวฉี่หมิงกัดฟันพูด
“ไม่ต้องเตือนข้าหรอก”
ไท่ฟู่เคาะลิ้นต่อ
“ไม่เตือนเจ้าได้อย่างไรเล่า อาณาจักรฉินของข้าไม่ต้องถอนตัวออกจากด่านถ่งกวาน อีกทั้งยังมีเรื่องต้องหารือเกี่ยวกับการยกดินแดนและเรื่องค่าชดเชยด้วย”
จ้าวฉี่หมิงคิดว่าเขาต้องชนะในการแข่งขันชู่จวีอย่างแน่นอน เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายแพ้ ไฟในใจที่ไม่มีที่ระบาย อีกทั้งตาแก่ไท่ฟู่ยังพูดเงื่อนไขไร้สาระกับเขาอีก พูดออกไปไม่คิดว่า
“ยังกล้าพูดเรื่องยกดินแดนและค่าชดเชยอีก อย่าคิดว่าเจ้าจะได้เลย!”
เขาตะคอกด้วยเสียงเย็นว่า
“เฮอะ ใครเป็นคนตกลงกับเจ้า? ตามที่เจ้าพูด ข้าเป็นเพียงแค่อัครเสนาบดี เรื่องใหญ่เช่นนี้ สิ่งที่ข้าพูดไม่อาจถือเป็นเรื่องจริงได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...