องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 153

หน่วยลาดตระเวนรีบมาที่กำแพง จ้าวจือหย่าหยุดพวกเขาในทันทีแล้วถามว่า

“มีเรื่องอะไรถึงได้รีบร้อนขนาดนี้?”

หน่วยลาดตระเวนแจ้งในนสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินทุกอย่าง สีหน้าของจ้าวจือหย่าเปลี่ยนไปในทันที นางพูดเสียงต่ำว่า

“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ข้าจะรายงานอ๋องเหยียนทันที”

จ้าวจือหย่ารีบตรงที่ฉินเหยียน มองไปยังคนของอาณาจักรจ้าวที่นั่งอยู่อย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็น จากนั้นนางกระซิบเบาๆ ว่า

“หน่วยลาดตระเวนรายงานว่าพวกเชลยศึกมีท่าทีแปลกไป ดูเหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวเจ้าค่ะ”

ฉินเหยียนดูเหมือนจะคาดเดาเอาไว้อยุ่แล้ว พูดอย่างใจเย็นว่า

“ไม่ต้องกังวล พวกมันไม่อาจสร้างคลื่นลูกใหญ่ได้หรอก”

หน่วยสอดแนมแนวหน้าของอาณาจักรจ้าวได้รวบรวมทหารไว้หนึ่งแสนนาย หากพวกมันร่วมมือกับพวกเชลยศึกจำนวนสี่หมื่นคนในเมืองแล้วล่ะก็ นางจะวางใจได้อย่างไร จึงถามอย่างเป็นกังวลว่า

“อ๋องเหยียน ในเมื่อทราบข่าวแล้ว รู้ว่านี่เป็นแผนของอาณาจักรจ้าว ไม่รู้พวกเรารีบชิงลงมือก่อนไม่ดีกว่าหรือเจ้าค่ะ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างสบายๆ

“ข้ามีแผนอยู่แล้ว อีกอย่างเจ้าไม่เห็นหรือว่าหลิวเชียนเชียนหายตัวไปหลายวันแล้ว?”

หลังจากฉินเหยียนพูดเตือน จ้าวจือหย่าพลันตระหนักขึ้นมาได้ สองสามวันนี้นางมัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างกำแพงล้อมรอบประตูเมือง อีกทั้งยังยุ่งกับการจัดการแข่งขันชู่จวี นางยุ่งมากจริงๆ จนไม่ได้สังเกตเห็นหลิวเชียนเชียนเลย

จ้าวจือหย่าถามอย่างสงัสย

“เอ๋? จริงด้วย หลิวเหชียนเชียนไปไหนหรือ?”

ฉินเหยียนยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดแฝงนัยยะสำคัญเอาไว้

“เจ้าคิดว่าข้าเพิ่งสร้างเมื่อนี้หรือ? พูดตามความจริง พื้นที่หลายสิบลี้นี้อยู่ในแผนผังของข้า”

สายตาของจ้าวจือหย่าเต็มไปด้วยความตกใจ นางมองไปที่ฉินเหยียนที่มีความลับซ่อนอยู่ในสายตา ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ฉินเหยียนพูดต่อ

“สัตว์ร้ายที่ติดในกรง ไม่อาจรอได้นานหรอก มาดูกันว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง”

ใจที่กังวลของจ้าวจือหย่าพลันผ่อนคลายลง ฉินเหยียนได้คิดคำนวณทุกอย่างอย่างระมัดระวังไว้จนหมดแล้ว นางไม่กังวลอีกต่อไป ทำได้แค่รอชมเท่านั้น

ธูปที่เหลือไม่ถึงครึ่งดอก การแข่งขันระหว่างสองอาณาจักรก็ถึงจุดเดือด

ผู้เล่นทุกคนต่างพยายามอย่างเต็มที่ เหงื่อท่วมร่าง แต่ไม่มีใครในสนามคลายความกังวลไปได้ อีกทั้งยัมองหาจังหวะการยิงอยู่ตลอดเวลา

รองหัวหน้าฝั่งอาณาจักรฉินแย่งลูกจากเท้าฝั่งหัวหน้าอาณาจักรจ้าวได้ และวิ่งไปยังประตูพร้อมกับลุกหนังในทันที

“ดีมกา! ใกล้หมดเวลาแล้ว อดทนไว้!”

“ไร้ประโยชน์เสียจริง ทำให้อาณาจักรจ้าวต้องขายหน้า ไอ้พวกขยะ!”

ในเวลานี้ กลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวโกรธมาก ต่างด่าทอไปที่พวกเขา

ไท่ฟู่เห็นว่าธูปหมดก้านแล้ว อาณาจักรจ้าวพ่ายแพ้ เขาลูกเคราและพูดราวกับผู้ชนะว่า

“เจ้าจ้าว ครั้งนี้คงไม่มีอะไรสามารถหักล้างได้อีกแล้ว เวลาหมดแล้ว แข่งทั้งหมดสามครั้ง อาณาจักรฉินชนะสองครั้ง อาณาจักรจ้าวของเจ้าแพ้ราบคาบ ฮ่าๆๆ”

จ้าวฉี่หมิงกัดฟันพูด

“ไม่ต้องเตือนข้าหรอก”

ไท่ฟู่เคาะลิ้นต่อ

“ไม่เตือนเจ้าได้อย่างไรเล่า อาณาจักรฉินของข้าไม่ต้องถอนตัวออกจากด่านถ่งกวาน อีกทั้งยังมีเรื่องต้องหารือเกี่ยวกับการยกดินแดนและเรื่องค่าชดเชยด้วย”

จ้าวฉี่หมิงคิดว่าเขาต้องชนะในการแข่งขันชู่จวีอย่างแน่นอน เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายแพ้ ไฟในใจที่ไม่มีที่ระบาย อีกทั้งตาแก่ไท่ฟู่ยังพูดเงื่อนไขไร้สาระกับเขาอีก พูดออกไปไม่คิดว่า

“ยังกล้าพูดเรื่องยกดินแดนและค่าชดเชยอีก อย่าคิดว่าเจ้าจะได้เลย!”

เขาตะคอกด้วยเสียงเย็นว่า

“เฮอะ ใครเป็นคนตกลงกับเจ้า? ตามที่เจ้าพูด ข้าเป็นเพียงแค่อัครเสนาบดี เรื่องใหญ่เช่นนี้ สิ่งที่ข้าพูดไม่อาจถือเป็นเรื่องจริงได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์