องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 152

ทูตฝั่งอาณาจักรจ้าวยืนท่ามกลางทหารอาณาจักรจ้าวด้วยสีหน้าเย็นชา

“พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นทหารแห่งอาณาจักรจ้าว ไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ในสนามรบข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เจ้ากลับยินยอมเป็นเชลยศึกให้ฝั่งอาณาจักรฉิน เจ้าเอาศักดิ์ศรีของอาณาจักรจ้าวไปไว้ที่ไหน?”

ทหารอาณาจักรจ้าวรู้สึกละอายใจ พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นเชลยศึกของอาณาจักรฉิน การแข่งขันชู่จวีนี้ พวกเขาก็เป็นคนสู้มาให้ได้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนเอง

ทหารคนหนึ่งรวบรวมความกล้าและพูดขึ้นมาว่า

“ใต้เท้า ข้าน้อยไร้ความสามารถ แต่ข้าภักดีต่ออาณาจักรจ้าวมาโดยตลอด การแข่งขันชู่จวีนี้ทหารทุกคนต่างสู้เพื่อให้ได้มา หากชนะจะได้ด่านถ่งกวานกลับคืนมา แต่ถ้าแพ้ข้าน้อยจะต้องเสียสละชีวิตตนเองเพื่อแลกกับศักดิ์ศรีของอาณาจักรจ้าวอย่างแน่นอน พวกเรา...”

“เพียะ”

ก่อนที่ทหารจะทันได้พูดจบ ทูตอาณาจักรจ้าวก็ตบเข้าไปที่หน้าเขาทันที

ทหารอาณาจักรจ้าวคนที่พูดนั้นจับหน้าตนและมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เชื่อ ทหารที่อยู่รอบๆ ก็ดูอึ้งไปเช่นกัน

ทูตแห่งอาณาจักรจ้าวจับมือตนเองและพูดเสียงเย็นว่า

“เจ้ากล้าเถียงข้า ข้าพูดเจ้าก็แค่ฟัง จะพูดจาไร้สาระให้มากความไปทำไม!”

“ทหารที่พ่ายแพ้ต่างมีข้อแก้ตัวด้วยกันทั้งนั้น ข้าตบเจ้าครั้งนี้ถือว่าข้าออมมือให้แล้ว!”

ทหารที่ถูกตบก้มหน้าลดต่ำลง ถอยกลับเข้าไปในฝูงชนเงียบๆ เขาเข้าสู่สนามรบเพื่อฆ่าศัตรู เขาไม่แม้แต่จะร้องคร่ำครวญเมื่อลูกศรยิงมาที่เขา แต่การตบเมื่อครู่นี้ทำให้น้ำตาเขาไหลออกมา

ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวด แต่เป็นเพราะมันให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ

ในใจรู้สึกน้อยอกน้อยใจเป็นอย่างมาก ไม่อาจแสดงออกมาเป็นคำพูดได้

ทูตฝั่งอาณาจักรจ้าวไม่ได้สนใจเรื่องนี้จึงพูดต่อว่า

“ตอนนี้ กองทหารหนึ่งแสนนายของอาณาจักรจ้าวกำลังเข้าใกล้เมืองแล้ว และการโจมตีในด่านถ่งกวานยังต้องต่อสู้กันต่อไป”

“เพื่อศักดิ์ศรีของอาณาจักรจ้าว พวกเจ้าที่เป้นทหารควรเสี่ยงชีวิตและเป็นแนวหน้าของอาณาจักรเพื่อร่วมมือกับทหารทั้งภายในและนอกเมือง ร่วมกันกำจัดอาราจักรฉินไม่ให้เหลือเศษซากใดๆ เอาไว้ และล้างความอับอายนี้ด้วยเลือด!”

“ถ้าใครกล้ามีใจเป็นอื่น กล้าไม่ฟังคำสั่งทหาร ใครฝ่าฝืนจะถูกตัดศีรษะและแขวนไว้บนกำแพงเพื่อประจานให้สาธารณชนเห็น!”

แม้ทหารฝั่งอาณาจักรจ้าวจะท้อแท้ แต่คำสั่งทหารที่ออกมาแล้วนั้น เพื่อรักษาชีวิตครอบครัว พวกเขาทำได้เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น

ทูตอาณาจักรจ้าวไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำสั่ง พยักหน้าด้วยความเต็มใจและพูดว่า

“ข้าน้อยทำตามคำสั่งขอรับ!”

...

ในสนาม อาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวยังคงแข่งขันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

กองหน้าของฝั่งอาณาจักรจ้าวเตะออกไปอีกครั้งมองวิถีลูกหนังที่พุ่งตรงไปที่ประตู

“เจ้าได้อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับความร่วมมือภายในและภายนอกแล้วหรือยัง?”

ทูตอาณาจักรจ้าวพยักหน้าเพื่อยืนยัน

“ทุกอย่างพร้อมแล้วขอรับ แค่รอทหารมาถึงเมือง”

จากนั้นสีหน้าของจ้าวฉี่หมิงพลันผ่อนคลายลง ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เพียงแค่รอลมเปลี่ยนทิศ วันนี้อาณาจักรฉินจะต้องตาย

...

เชลยศึกอาณาจักรจ้าวทุกคนต่างมีสีหน้าหนักใจ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่ชุดเกราะเพียงชุดเดียว ไม่ต้องพูดถึงอาวุธที่เป็นประโยชน์ พวกเขาจะต่อสู้ได้อย่างไร ทหารอย่างพวกเขาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงด้วยซ้ำ

ทหารคนที่ถูกทูตอาณาจักรจ้าวตบหน้านั้น มีตำแหน่งเป็นถึงรองนายพล เขาคิดซ้ำไปซ้ำมาแล้วพูดว่า

“คำสั่งทหารไม่อาจฝ่าฝืนได้ พวกเราในฐานะที่เป้นกองทัพฝ่ายแพ้ ทำได้เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ไม่มีทางอื่น อย่ายืนนิ่งอยู่เลย ไปหาเพื่อนร่วมทัพที่พร้อมต่อสู้เถอะ”

ทหารได้รับคำสั่งจากรองนายพลฝั่งอาณาจักรจ้าว แอบเก็บก้อนหิน และกิ่งไม้ท่อนหนาติดมือมาด้วย เผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

บังเอิญว่าหน่วยลาดตระเวนอาณาจักรฉินได้เดินผ่านมาพอดี เชลยศึกอาณาจักรจ้าวรีบแยกย้ายกันไปทันที แสร้งทำเป้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทำในสิ่งที่ควรจะทำ

แต่ด้วยความเป้นมืออาชีพของหน่วยลาดตระเวน ทำให้พวกเขาสังเกตความผิดปกติกับเชลยศึกเหล่านี้ได้ ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้เขาไม่สามารถปล่อยวางปัญหาใดๆ ได้ จึงตรงไปทีก่ำแพงเมืองเพื่อรายงานสถานการณ์ทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์