องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 171

กองทัพอาณาจักรจ้าวยืนอยู่ภายในเวิ่งเฉิงที่ว่างเปล่าแล้วมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง พวกเขารู้สึกสงสัยกันไปหมด เดิมทีคิดว่าทันทีที่เข้ามายังเมืองแล้วจะเริ่มการโจมตีให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย

แต่ตอนนี้กลับรู้สึกแค่ว่ากำลังพุ่งหมัดไปยังสำลีนุ่มๆ นี่มันเกิดอะไรข้นกันแน่?

รองผู้บัญชาการเดินไปข้างกายแม่ทัพใหญ่อาณาจักรจ้าวแล้วถามเสียงเบาว่า “ท่านแม่ทัพ เหตุใดข้าจึงรู้สึกเหมือนเดินไปยังตึกร้างเลยล่ะ?”

แม่ทัพอาณาจักรจ้าวมองไปรอบๆที่มืดสนิท เขาไม่ได้กลิ่นอายของความอันตรายเลย จึงดีใจอย่างมาก “เจ้าพวกอาณาจักรฉินที่แสนขี้ขลาด รู้ว่าเอาชนะพวกข้าไม่ได้ก็เลยหนีไปทั้งที่ยังไม่ได้สู้!”

เหล่าทหารที่อยู่รอบๆเองเมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจแล้วพากันตะโกนว่า

“อาณาจักรฉินยอมแพ้และทิ้งเมืองไปแล้ว! พวกเราชนะแล้ว!”

“พวกเราพิชิตศัตรูได้โดยไม่ต้องสู้ ไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวก็สามารถทำให้อาณาจักรฉินที่แสนไร้น้ำยาเกิดกลัวแล้วหนีไปได้ ชนะแล้ว!”

“ในที่สุดก็สามารถชิงด่านถงกวานกลับมาได้ สำเร็จภารกิจแล้ว สามารถกลับไปบอกกล่าวได้แล้ว!”

“ดีจริงๆ ชนะแล้ว!”

รองผู้บัญชาการเองก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาเตรียมใจจะทุ่มสุดชีวิตมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ เขาได้พูดขึ้นว่า

“ศึกสองครั้งก่อนอาณาจักรฉินได้รับชัยไป ข้าคิดว่าทางฝ่ายเราอ่อนแอจริงๆเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาก็แค่โชคดี พวกเราก็แค่ดวงไม่ดีเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่มีเหล่าสหายล้มตายไปมากมาย หากกองทัพอาณาจักรฉินไม่ได้หนีไป ข้าจะต้องฆ่าพวกมันให้เหลือซาก เพื่อเป็นการล้างแค้นให้เหล่าสหาย!”

แม่ทัพใหญ่ดอดกลั้นสีหน้าดีอกดีใจไว้ไม่อยู่ และได้ตบบ่ารองผู้บัญชาการแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าร้อนใจไปเลยยังมีเวลาอีกยาวไกล วันข้างหน้าจะต้องทำให้พวกมันชดใช้!”

เหล่าทหารอาณาจักรจ้าวต่างพากันร้องตะโกนและด่าทหารอาณาจักรฉินต่างๆนาๆ

“เจ้าพวกหนอนแมลงพวกมันหนีไปเสียได้ แน่จริงก็อย่าหนีสิ ข้าจะฆ่าจนไม่ให้เหลือซากเลย!”

“ใช่ เจ้าพวกอาณาจักรฉินอ่อนหัดเสียจริง ข้าเตรียมการมาปะทะอย่างสุดแรงแล้วแท้ๆ แต่เสียดายที่พวกมันไม่ให้โอกาสเลย ฮ่าๆๆ!”

“คราวหน้าหากข้าเจอพวกขี้ขลาดพวกนี้อีก ข้าจะฆ่าให้หมดไม่ให้เหลือ!”

เหล่ากองทัพอาณาจักรจ้าวกำลังได้ใจกันใหญ่ แต่ทันใดนั้น

“พรึบ”

คบเพลิงที่อยู่บนกำแพงเมืองสูงหลายเมตรถูกจุดติดไฟในพริบตา พวกมันส่องแสงเจิดจ้า เวิ่งเฉิงอันมืดมิดถูกส่องสว่างในพริบตา

แสงที่ส่องสว่างขึ้นในทันทีทำให้เหล่าทหารอาณาจักรจ้าวรู้สึกแสงแยงตาจนลืมตาไม่ขึ้น พวกเขาต่างก็ใช้มือบังตาแล้วพูดอย่างสงสัยว่า

“ซีด เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

พวกเขาพุ่งเข้าไปพร้อมกันหมด แม้ว่าจะมีขวัญกำลังใจ แต่คลำหาอยู่นานก็ไม่พบจุดที่สามารถขึ้นไปบนกำแพงได้เลย ที่แท้ตอนที่ฉินเหยียนออกแบบเวิ่งเฉิง เขาได้ออกแบบให้บันไดอยู่ในที่ลับ และนี่ก็คือจุดเด่นของเวิ่งเฉิง

เมื่อมองดูเหล่าทหารที่เกิดความโกลาหลไม่รู้จะไปยังทศไหนแล้ว ทุกคนที่อยู่บนกำแพงเมืองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

องค์ชายใหญ่ฉินชงหลุดหัวเราะแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้ยังบอกว่าจะฆ่าให้หมดอยู่เลย ตอนนี้ดันมากม้าตายแค่เรื่องขึ้นมาบนกำแพงเมือง โม้เก่งจริงๆ”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่เองก็ได้ยั่วยุเหล่าทหารอาณาจักรจ้าวที่อยู่เบื้องล่างว่า

“ขึ้นมาสิ นี่ข้ารอพวกเจ้ามาฆ่าอยู่นะ มาสิ!”

ไท่ฟู่เคยอ่านสถานการณ์เช่นนี้ในตำรา พอตอนนี้ได้มาเผชิญอยู่ในสถานการณ์จริงแล้วกลับตกใจอย่างมาก เขาตัวเกร็งไปหมดและพูดอะไรไม่ออกเลย

อัครเสนาบดีอาณาจักรจ้าวที่มองดูกองทัพอาณาจักรจ้าวที่ประดุจดั่งมดอยู่บนกำแพงเมือง ก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้น จึงได้ตะโกนว่า

“โง่จริงๆ! พวกเจ้ามันโง่กันทั้งเพ เจ้าพวกไร้ค่า รีบคิดหาวิธีสิ!”

แม่ทัพใหญ่อาณาจักรจ้าวดึงสติกลับมาได้ นี่คือกับดักที่อาจักรฉินวางเอาไว้ เขาโกรธจนกัดฟันแน่น แต่ในเมื่อได้กระทำลงไปแล้วก็อาจหันหลังกลับไปได้ ต่อให้รู้ว่าด้านหน้าเป็นกับดักก็ต้องกระโจนไป ตราบใดที่ชิงด่านถงกวานกลับมาไม่ได้ ขอสาบานว่าจะไม่ยอมรามือ!

“ทุกหน่วยฟังให้ดี ซ้อนกันแล้วปีนขึ้นไป!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์