เมื่อฉินเหยียนออกคำสั่ง ทุกคนก็มึนงงไปกันหมด
“เจ้าบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว!”
ไท่ฟู่พูดสีหน้าโกรธและพูดขึ้นอย่างกังวล “เปิดประตูเมืองรึ? เจ้าล้อเล่นรึไง! สิ่งที่เจ้าทำคือการทรยศอาณาจักรและร่วมมือกับศัตรู! ทันทีที่กองทัพอาณาจักรจ้าวเข้ามาในเมืองจะทำให้เราเสียด่านถงกวานไป เจ้าและพวกเจ้าจะต้องตายกันหมด!”
ไท่ฟู่ใบหน้าแดงไปหมด และพยายามหักห้ามทหารหัวกะทิปฏิบัติตามคำสั่ง “พวกเจ้าจะไปไม่ได้ นี่คือการรนหาที่ตายชัดๆ! แล้วพวกเจ้าจะมัวรออะไรอยู่ ยังไม่โน้มน้าวเขาอีก! บ้าไปแล้ว บ้าไปกันหมดแล้ว!”
ไท่ฟู่ห้ามด้วยความเดือดดาล แต่มันก็ไม่ได้ประโยชน์ จ้าวฉี่หมิงเองไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และได้ประชดประชันว่า
“เอาชนะไม่ได้จึงยอมแพ้สินะ ก็ดี ถึงตอนนั้นจะยอมไว้ชีวิตให้ ทำให้เจ้าได้เห็นกับตาว่าพวกทหารตายยังไง!”
ฉินเหยียนไม่สนใจความสงสัยและคำพูดประชดประชัน และออกกำลังอีกครั้งว่า “เปิดประตูเมือง!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เหล่าทหารที่เฝ้าประตูเมืองไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกันเปิดประตูเมืองออก
องค์ชายใหญ่และองค์ชายเจ็ดเองเชื่อใจฉินเหยียนอย่างมาก พวกเขาดึงไท่ฟู่ไว้แล้วพูดเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขากังวลใจ
“ไท่ฟู่ เจ้าลืมไปแล้วรึว่าน้องสิบสี่สามารถใช้อสนีบาตได้ ทันทีที่กองทัพอาณาจักรจ้าวเข้าเมือง เมื่อมีสายฟ้าฟาดลงมาแล้วรับรองว่าพวกเขาไม่มีชีวิตรอดกันแน่นอน”
อีกด้านหนึ่ง ฉินเหยียนได้บัญชาการต่อว่า “ทหารหัวกะทิแปดร้อยนายจงฟัง ปฏิบัติตามแผนการ ส่วนที่เหลือให้แอบซ่อนตัวเอาไว้ อีกเดี๋ยวเราจะทำการโจมตีพวกเขาให้ตั้งรับไม่ทัน!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เหล่าแม่ทัพต่างพากันหลบซ่อนตัวอย่างบนกำแพงเมือง สายตาแน่วแน่ และจับตามองการเคลื่อนไหวนอกเมืองอยู่ตลอด เหล่าทหารหัวกะทิเริ่มประกอบหีบไม้ ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว สามารถออกคำสั่งได้ทุกเมื่อ ทุกคนบนกำแพงเมืองคิดแตกต่างกันอยู่
แม้ว่าไท่ฟู่จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฉินเหยียน แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเสี่ยงอย่างเดียวเท่านั้น เขาเฝ้ารออยู่บนกำแพงเมืองอย่างเชื่อฟัง ตื่นเต้นจนไม่แทบกล้าหายใจเลย
องค์ชายใหญ่ฉินชงและองค์ชายเจ็ดฉินอวี่แม้จะไม่เข้าใจเช่นกัน หน้าผากของพวกเขามีเม็ดเหงื่อเพราะความตื่นเต้นปรากฏ และจ้องมองไปยังกองทัพอาณาจักรจ้าวที่อยู่ไกลๆนอกเมืองอย่างไม่ละสายตา พวกมันเข้าใกล้ๆขึ้นเรื่อยๆ
จ้าวจีเอ๋อร์และหลิวเชียนเชียนแม้จะรู้แผนการของฉินเหยียนอยู่บ้างแต่ก็รู้สึกกังวลอย่างมาก อย่างไรนี่ก็เป็นการต่อสู้ระยะประชิดที่มีผู้คนมากกว่าหกหมื่นคน ไม่รู้ว่าแผนจะสำเร็จรึไม่
จ้าวจีเอ๋อร์ขมวดคิ้วคู่สวย นางเข้าใจดี อย่ามองว่าฉินเหยียนไม่ทำอะไรเลย ดูเหมือนจะถอดใจ แต่หากกองทัพอาณาจักรจ้าวอยากจะเอาชนะเขา มันคงยากเย็นอย่างมาก
แม่ทัพใหญ่อาณาจักรจ้าวทำสงครามมานับสิบปีก็เพิ่งเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ การเปิดประตูเมืองเท่ากับการยอมแพ้ หรือว่ากองทัพอาณาจักรฉินรู้ว่าไม่อาจเอาชนะได้จึงยอมแพ้ทั้งๆแบบนั้นงั้นรึ?
“ไม่เฝ้าระวังประตูเมืองด้วยซ้ำ คงจะกลัวแล้วยอมแพ้ทิ้งเมืองไป หนีกลับไปที่ด่านเจียยวี่แล้วสินะ!”
รองผู้บัญชาการรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่เขาก็รู้สึกถึงรางไม่ดีเลย แต่ตรวจสอบดูรอบๆแล้วก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ เขาอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ จึงได้ถามขึ้นว่า “แล้วยังจะรออะไรอีกละ ปราบปรามภายในคราวเดียว ทุกคนบุก!”
แม่ทัพใหญ่อาณาจักรจ้าวแอ่นอกขึ้นแล้วพูดอย่างองอาจกล้าหาญว่า “บุกเข้าเมือง! ฆ่าพวกมันอย่าให้เหลือแม้แต่ซาก!”
เมื่อนึกถึงเหล่าทหารที่ล่วงลับไปที่หุบเขาซวงจื่อแล้ว รองผู้บัญชาการเองก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาถืออาวุธไว้ในมือแน่น
แม่ทัพใหญ่อาณาจักรจ้าวออกคำสั่งว่า “บุกเข้าเมือง!”
กองทัพแนวหน้าเข้ามาในเมืองก่อนเพื่อสำรวจเส้นทาง พวกเขาเข้าไปในเวิ่งเฉิงได้อย่างราบรื่น จากนั้นกองกำลังใหญ่ก็ตามเข้ามาในเมือง พวกเขาร้องตะโกนแล้วบุกเข้าเวิ่งเฉิง
แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า อย่าว่าแต่ทหารฝ่ายศัตรูเลย ไม่แม้แต่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยด้วยซ้ำ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...