องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 186

เบื้องหน้านั้นคือสุสานขนาดใหญ่ของวีรบุรุษที่กำลังก่อสร้างอยู่ มันถูกต้นไม้ล้อมรอบ น้ำเขียวป่าขจี เป็นตำแหน่งฮวงจุ้ยที่ยอดเยี่ยม มันดูยิ่งใหญ่และอลังการมากจนดูเหมือนเป็นสถานของพวกชนชั้นปกครอง

หยางจิ่นซิ่วอดกลั้นความตื่นเต้นในใจแล้วรีบเดินไปเบื้องหน้าของศิลาที่เขียนประวัติผู้ตายเอาไว้แล้วอ่านมัน

“แม้จะจบชีวิตลงก็ยากที่จะชดเชย ลมเหนือโชยชายฝั่งแม่น้ำ ดวงใจเต็มไปด้วยความกังวลที่มีต่ออาณาจักร ยังคงจงรักภักดีต่ออาณาจักร สุสานแห่งแม่ทัพอาณาจักรจ้าว หยางจ้ายซิ่น”

ทันทีที่อ่านนางก็รู้ได้เลยว่านี่คือกวีที่เขียนถึงพ่อของนาง นางน้ำตาคลอ เมื่อได้รับการยืนยันอย่างไม่ต้องสงสัยว่าสุสานนั้นเป็นของพ่อจริงๆ นางก็สะอึกสะอื้นแล้วน้ำตาก็ไหลรินลงมาทันที

นางคุกเข่าลงกับพื้นแล้วยื่นมือไปสัมผัสศิลาสุสานที่สลักตัวอักษรไว้ นางตะโกนอย่างเจ็บปวดใจว่า

“พ่อคะ! ลูกมาช้าไป ลูกมันไม่รักดี!”

นางก้มศีรษะกราบกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สนใจอะไรเลย ราวกับว่ากำลังระบายความขมขื่นและความเจ็บปวดออกมาด้วยวิธีนี้

ฉินเหยียนยืนอยู่ข้างๆโดยไม่รบกวนนาง ข้าหันหน้ากลับไปหาองครักษ์ส่วนพระองค์แล้วกระซิบอะไรบางอย่าง

หยางจิ่งซิ่วร้องไห้สะอึกสะอื้น ในหัวของนางปรากฏภาพความทรงจำที่แสนอบอุ่นของนางและพ่อไม่หยุด นึกถึงตอนนางอายุสามขวบ พ่อของนางก็สอนนางใช้อาวุธแล้ว

การฝึกฝนวันแล้ววันเล่า การร่ำเรียนหนังสือ เรียนรู้ยุทธวิธีทางทหารและยุควสันตสารท

จำได้ว่าในปีที่อายุเจ็ดขวบนางก็เห็นเหล่าแม่นางคนอื่นๆล้วนสวมชุดกระโปรงและเล่นดนตรีวาดรูปกัน นั่นทำให้นางอิจฉามาก ด้วยเหตุนี้นางจึงได้ทะเลาะกับพ่อขึ้นมา ถามพ่อว่าเหตุใดนางจึงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างแม่นางคนอื่นๆได้ เหตุใดต้องคอยหมั่นฝึกฝนวิชาอาวุธทุกวัน

แต่ทว่าสีหน้าของพ่อกลับไม่มีความเข้มงวดเหมือนในตอนฝึกฝนเลย รู้สึกเหมือนมีความเมตตาและไร้กำลัง

“เมื่อล้างเครื่องสำอางสีแดงออกแล้วเปลี่ยนชุดทหาร กระโดดขึ้นหลังม้าพร้อมอาวุธ ใครกล่าวว่าหญิงสาวต่ำต้อยกว่าบุรุษ วีรสตรีจะต้องทำให้ต้องตกตะลึง!”

“จิ่นซิ่วเจ้าจงจำเอาไว้ เจ้าคือบุตรสาวแห่งตระกูลหยาง เป็นผู้เสียสละที่กล้าหาญและยุติธรรม ไม่แบ่งแยกหญิงชาย ล้วนต้องอุทิศชีวิตให้กับสงคราม ถูกลิขิตให้ปกป้องอาณาจักร คอยเฝ้าดูแลดินแดนอาณาจักรจ้าว นี่คือชะตากรรมของตระกูลหยาง ละเป็นชะตากรรมของเจ้าด้วย”

คำพูดของพ่อตอนพูดคุยกับนางนั้นเต็มไปด้วยความเพียรพยายาม นั่นทำให้หยางจิ่นซิ่วจดจำไว้ได้เป็นอย่างดี และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานางก็ไม่มีความคิดอื่นๆ และฝึกฝนอย่างจริงจังตลอดมา ด้วยการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวดของพ่อ ในที่สุดก็ได้เป็นทหารหญิงที่ถือว่ามีชื่อเสียงบ้างในค่ายทหาร

ในการออกชิงด่านถงกวานคืนนี้นางก็มั่นใจในตัวพ่ออย่างมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้พ่อจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ในคืนที่ได้ข่าวว่ากองทัพอาณาจักรจ้าวพ่ายแพ้โดยตายกันยกกอง นางก็อยากจะถืออาวุธแล้วควบม้าฝ่าเข้าด่านถงกวานเพื่อล้างแค้นให้แก่พ่อทันที

แต่ทางเมืองหลวงห้ามไม่ให้ใครเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น ยางจึงต้องรอจนถึงวันนี้ จึงจะมีโอกาสมารับศพของพ่อ หยางจิ่วซิ่นร้องไห้อยู่นาน เพียงแค่นึกถึงชะตากรรมที่พ่อได้บอกกับนาง นึกถึงคนที่ฆ่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ นางไม่มีทางล้มลงเช่นนี้เด็ดขาด

นางสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเช็ดน้ำตา ค่อยๆลุกยืนขึ้นอย่างโซเซ

ฉินเหยียนเดินเข้าไปอยากจะช่วยพยุงแต่กลับถูกนางปัดทิ้งอย่างแรง

“อย่ามาแตะตัวข้า!” หยางจิ่วซิ่นผลักออกอย่างแค้นเคือง นางตะคอกห้ามให้หยุด แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังมหาศาล

องครักษ์พิทักษ์พระองค์ที่เฝ้าอยู่ใกล้ๆคอยจับตาดูเพื่อป้องกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าคนอาณาจักรจ้าวลงมือจะทำร้ายอ๋องเหยียน เหล่าองครักษ์ก็ไม่มัวรีรอ รีบชักดาบแล้วเข้าปะทะทันที

“คุ้มกันองค์ชาย!”

องครักษ์พิทักษ์พระองค์พุ่งเข้ามาเต็มไปหมด เพียงแค่พริบตาหยางจิ่นซิ่วก็ถูกล้อมเอาไว้แล้ว พวกเขาช่วยฉินเหยียนออกมาแล้วต่อสู้กับหยางจิ่นซิ่ว

“เท่สุดๆเลย!”

แม้ว่าฉินเหยียนจะถูกลอบโจมตี แต่ในสายตาของเขามีแต่แผ่นหลังที่องอาจของหยางจิ่นซิ่ว

“แคร้งแคร้งแคร้ง”

ฝีมือของนางร้ายกาจ นางใช้หอกยาวได้อย่างเสือคำรามลม มีความกล้าหาญที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ เป็นวีรสตรีที่มีกำลังในการกวาดล้างกองทัพได้

หยางจิ่นซิ่วในตอนนี้เหมือนกับแม่ทัพหยางจ้ายซิ่นตอนอยู่ในสนามรบอย่างมาก ราวกับแกะสลักออกมายังไงอย่างงั้น ต่อกรกับหมู่ศัตรูเพียงคนเดียว จิตสังหารมากมายยิ่งใหญ่ราวกับไท่ซาน นางฝ่าวงล้อมและเปิดช่องว่างออกได้ และพุ่งตรงไปยังฉินเหยียน

“ตายซะ!”

นาทีนี้ฉินเหยียนเห็นความแน่วแน่ในแววตาของนาง หากไม่สำเร็จก็พยายามให้มากขึ้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์