ภายใต้การดูแลอย่างเอาใจใส่ของหยางจิ่นซิ่วร่างกายของจ้าวจีเอ๋อร์ก็ฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี นางนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาหลายวันและมีเพียงความเจ็บปวดทั่วร่างกายเท่านั้น
"หู่นิว เจ้าออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยเถิด ไม่ได้ออกไปหลายวัน ข้าเบื่อจะแย่แล้ว"
หยางจิ่นซิ่วยังเป็นกังวลเกี่ยวกับร่างกายของนาง
"ท่านไหวหรือเพคะ อาการบาดเจ็บเพิ่งจะหายดี พักผ่อนสักหน่อยก่อนเถิดเพคะ"
จ้าวจีเอ๋อร์ยิ้มพลางกล่าวว่า
"ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว มีเจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้ายังต้องกังวลอะไรอีกเล่า หากข้ายังนอนต่อคงจะเบื่อตายจริงๆแล้ว!"
หยางจิ่นซิ่วเถียงสู้นางไม่ได้จึงทำหน้าบูดบึ้ง และกล่าวว่า
"ก็ได้เพคะ พวกเราอย่าเดินไปไกลเกินไปแค่เดินเล่นไปรอบๆก็พอนะเพคะ"
จ้าวจีเอ๋อร์พยักหน้าพลางยิ้มเล็กน้อย
"ฟังเจ้าก็แล้วกัน"
หยางจิ่นซิ่วหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้จ้าวจีเอ๋อร์ หลังจากมัดเสื้อคลุมให้นางแล้วก็ออกไปพร้อมกับเหล่าสตรีที่คอยดูแลปรนนิบัติ
.........
นอกด่านเจียยวี่
ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยงานที่รอการชำระสะสางและการก่อสร้างขนาดใหญ่
ชาวบ้านต่างก็ทำงานกันตลอดทาง บ้างก็แบกจอบเพื่อเพาะปลูก บ้างก็ถือขวานสับฟืน บ้างก็แบกไม้เพื่อสร้างบ้าน ทุกคนมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจนและทำงานกันอย่างมีระเบียบแบบแผน
สิ่งที่น่ายินดียิ่งกว่านั้นก็คือใบหน้าของชาวบ้านล้วนมีรอยยิ้มที่เรียบง่ายและพึงพอใจ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายไปด้วยความมุ่งมาดกับอนาคต
อย่างไรก็ตามความกลมเกลียวนี้ถูกทำลายด้วยเสียงก่นด่า
"พวกเจ้าเหล่าทหารที่พ่ายศึกพวกนี้เป็นสุนัขของอาณาจักรจ้าว ยังกล้าที่จะได้ค่าแรงเท่ากับพวกข้า พวกเจ้าคู่ควรหรือ!"
"ข้าขอบอกพวกเจ้าไว้นะว่านี่เป็นดินแดนต้าฉินของพวกข้า เชลยศึกเช่นพวกเจ้าสมควรจะเป็นได้แค่ทาสและเป็นสุนัขของพวกข้าเท่านั้น!"
"ไอ้พวกไร้ยางอายยังคิดจะมาสร้างบ้าน เพาะปลูกในดินแดนของต้าฉิน ไสหัวไป!"
จ้าวจีเอ๋อร์และหยางจิ่นซิ่วบังเอิญเดินไปบริเวณใกล้ๆและได้ยินเสียงดุด่าอยู่ไม่ไกล สีหน้าของทั้งสองไม่น่าดูเล็กน้อย
ทั้งสองเบียดเสียดเข้าไปในฝูงชน และเห็นเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวกำลังถูกชาวบ้านของอาณาจักรฉินก่นด่า
เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวมิกล้าตอบโต้ ดังนั้นพวกเขาจึงโน้มเอวและขอโทษอย่างนอบน้อม
"อ๋องเหยียนตรัสแล้วว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เต็มใจทำงานก็สามารถหาเงินได้ ข้าก็ลงทะเบียนและผ่านแล้ว"
เมื่อผู้ยุยงได้ยินว่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวกล้าต่อปากจึงยิ่งกล่าวอย่างแข็งกร้าวว่า
"อ๋องเหยียนไม่ถือสาหาความเอากับพวกเจ้า เจ้าก็คิดว่าตนเองสำคัญแล้วหรือ?"
"ได้คืบจะเอาศอก ได้รับคำชมเพียงเล็กน้อยก็นึกว่าตนนั้นวิเศษ!"
"มีเรื่องอะไรดีๆก็คิดจะมาขอแบ่ง ไม่ดูเสียมั่งว่าพวกเจ้านั้นอยู่ในฐานะอะไร!"
"เป็นทหารพ่ายศึกและเป็นเชลยศึกยังคิดที่จะมาทัดเทียมกับพวกข้า!"
"นั่นน่ะสิ พวกข้าเป็นราษฎรของต้าฉิน ไม่เหมือนกับพวกเจ้า!"
เหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวต่างก็ต้องกล้ำกลืนคำดูถูกเหยียดหยามไว้
ทว่าหยางจิ่นซิ่วที่ยืนอยู่ในฝูงชนทนความโกรธนี้มิได้จึงคิดจะโต้เถียง
จ้าวจีเอ๋อร์รีบคว้าข้อมือของนางทันทีพลางส่ายศีรษะและกล่าวว่า
เห็นได้ชัดว่านอกจากเขาแล้วชาวบ้านคนอื่นๆไม่มีผู้ใดคล้อยตามเลย
ฉินเหยียนรู้ว่าเขาคือใคร เขาเคยสร้างปัญหาในเมืองมาก่อนและวันนี้ก็มาสร้างปัญหาอีกครั้ง หากไม่แสดงพลังออกมาคงคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยกระมัง
"ข้าขอถามเจ้าว่าสิ่งใดคือสูงศักดิ์? สิ่งใดคือต่ำต้อย?"
"เชลยศึกก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขาเกิดและเลี้ยงดูโดยบิดามารดา เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ เจ้าและข้าก็เหมือนกัน ในเมื่อล้วนเป็นมนุษย์เหตุใดจึงต้องแบ่งสูงส่งและต่ำต้อย"
หลังจากกล่าวจบฉินเหยียนก็สะบัดแขนเสื้อและเผชิญหน้ากับฝูงชนพลางกล่าวว่า
"จงเกิดมาเหมือนมดทว่ามีความทะเยอทะยานเหมือนหงส์ ชีวิตบางเฉียบเหมือนกระดาษ ควรมีหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ มนุษย์นั้นอาศัยอยู่ระหว่างสวรรค์และพื้นดิน ใช้ความฝันเป็นดั่งอาชาและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โลกนั้นไม่แน่นอนเจ้าและข้าต่างก็เป็นอาชาทมิฬ"
"สรรพชีวิตล้วนมีความทุกข์ ผู้ที่มีจิตใจดีย่อมมีใจที่รวมใต้หล้าได้ ไม่มีใครประเสริฐกว่าใคร หากมีนั่นแสดงว่าเขามีจิตคิดไม่ซื่อ เจ้าว่าถูกหรือไม่?"
คำพูดอันทรงพลังนี้ทำให้ผู้คนที่ก่อปัญหาก้มหน้าลงด้วยความละอาย และรีบคุกเข่าลง
"ท่านอ๋อง ข้าไม่มีจิตคิดไม่ซื่อ ขอท่านโปรดพิจารณาพะยะค่ะ"
ฉินเหยียนมองด้วยสายตาเย็นชา และตะคอกว่า
"ดูเจ้าฝีปากเก่งเช่นนี้คงจะเป็นผู้ที่อ่านหนังสือมาก่อน หนังสือนี้ของเจ้าล้วนเรียนไปเสียเปล่าหมดแล้วกระมัง? หรือเจ้ามีจุดประสงค์อื่น?"
"มิกล้า ข้าน้อยมิกล้าพะยะค่ะ"
เขาตัวสั่นไปด้วยความกลัว
ในทางกลับกันเหล่านักโทษของอาณาจักรจ้าวรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจ
พวกเขาแพ้สงครามและเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งและถูกรังเกียจจากอาณาจักรจ้าว
ไม่คาดคิดว่าอ๋องเหยียนแห่งต้าฉินผู้นี้จะให้ความสำคัญแก่พวกเขาถึงเพียงนี้ ทุกคนหลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณและยิ่งมุ่งมั่นที่จะติดตามอ๋องเหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...