จ้าวชี่ว์ปิ้งเตือนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พึมพำอะไรของเจ้า? อัครเสนาบดีจ้าวถามอะไรเจ้าก็ตั้งใจตอบเช่นนั้นซะ อย่าคิดว่าการที่เจ้ามีความดีความชอบเพียงน้อยนิดแล้วจะสามารถทำอะไรก็ได้ อย่าลืมไปละว่าความรุ่งโรจน์ของตระกูลหยางทั้งหมดนั้นอาณาจักรจ้าวเป็นผู้มอบให้”
หากเขาไม่พูดถึงก็ยังดี แต่เมื่อพูดดังนั้นแล้วสีหน้าของหยางจิ่นซิ่วก็ยิ่งมืดมน หากไม่มีตระกูลหยางของนางอุทิศตนจะปกป้อง แล้วอาณาจักรจ้าวจะมีความสงบสุขอย่างตอนนี้ได้อย่างไร!
นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พวกเจ้าอยากรู้อะไรก็ไปสอดแนมเอาเอง ข้าหยางจิ่นซิ่วไม่คบหากับคนทรยศ”
คำพูดด่าทอของหยางจิ่นซิ่วทำให้จ้าวฉี่หมิงร้อนตัวขึ้นมาทันที เขาตะคอกด้วยความเดือดดาลว่า
“เจ้าว่าใครเป็นคนทรยศ! ข้าอัครเสนาบดีเป็นญาติของราชวงศ์! เป็นผู้สูงส่ง เป็นผู้ที่ผู้คนจะต้องเคารพนับถือ! เป็น......”
“เพี้ยะ”
หยางจิ่นซิ่วเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว นางตบไปบนใบหน้าของจ้าวฉี่หมิงอย่างแรงหนึ่งฉาด ตบคำพูดของเขากลืนเข้าไปทันที ทันใดนั้นนางก็เตะจ้าวฉี่หมิงกองไปกับพื้น แล้วมองต่ำลงไปพูดอย่างเดือดดาลว่า
“หากไม่ใช่เจ้า พ่อของข้าก็ไม่ต้องตายอย่างอนาถเช่นนั้น!”
จ้าวฉี่หมิงไม่คิดว่าหยางจิ่นซิ่วจะเอาจริง เขาเจ็บหน้าเจ็บขาเจ็บบั้นท้ายอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะกุมตรงไหนก่อนดี เขาดึงหน้าแล้วพูดว่า “เจ้า เจ้าคนมักใหญ่ใฝ่สูง กล้าลามปามผู้สูงศักดิ์กว่าได้อย่างไร!”
หยางจิ่นซิ่วยังไม่รู้สึกสาแก่ใจจึงกำหมัดแล้วจะต่อยจ้าวฉี่หมิง
จ้าวชี่ว์ปิ้งรีบแทรกเข้าไปตรงกลางของทั้งคู่แล้วห้าม “หยุด! เจ้าเป็นเพียงแม่หนูแท้ๆ แต่กลับกล้าลามปามผู้สูงส่งกว่า รู้รึไม่ว่าเป็นความผิดแค่ไหน!”
หยางจิ่นซิ่วกำหมัดแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย เจ้าคนหน้าไหว้หลังหลอก ใจเนื้อใจเสือ ไม่คู่ควรจะได้รับความภักดีของข้าหยางจิ่นซิ่ว”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วนางก็หันหลังกลับไปแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้จะมีการจัดการประมูลที่หอหม่านเยว่ อยากจะรู้อะไรก็ไปสอดแนมเอาเอง ข้าหยางจิ่นซิ่วไม่ขอช่วยเหลือ!”
จากนั้นนางก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันกลับไปมองอีก
“แม่หนูนี้เป็นบ้าอะไรกัน โอหังเกินไปแล้ว!”
จ้าวชี่ว์ปิ้งด่าทอไปด้วยแล้วก็ช่วยพยุงจ้าวฉี่หมิงให้ลุกขึ้นด้วย จ้าวฉี่หมิงลุกขึ้นอย่างโซเซ เขายิงฟันออกมาด้วยความเจ็บปวดทั่วร่างกาย และพูดต่อว่า
“เจ้าคนสารเลว รอข้ากลับถึงเมืองหลวงก่อนเถอะ คอยดูนะข้าจะจัดการให้เด็ดขาด!”
จ้าวชี่ว์ปิ้งจับใจความในคำพูดของหยางจิ่นซิ่วได้ “แต่ว่า ที่นางพูดว่างานประมูลนั้นคืออะไรงั้นรึ?”
จ้าวฉี่หมิงใช้มือปิดหน้าแล้วพูดอย่างขมวดคิ้วว่า “รีบส่งคนไปสอดแนมเร็วเข้า คงไม่ใช่พิธีสาบานก่อนออกรบหรอกนะ!”
......
วันต่อมา นอกหอหม่านเยว่
ไม่ว่าจะมองไปทางใดซูปั้นเฉินก็ต้องเป็นประหลาดใจขึ้นมา โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่เหนือศีรษะนั้น สุดที่จะประเมินค่าได้ดั่งโคมไฟเคลือบสีล้ำค่า ช่างน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน อยากจะได้มาซึ่งครอบครองยิ่งนัก
สาวใช้ที่นำทางแนะนำว่า “ท่านลูกค้าช่างตาถึงนัก โคมไฟเคลือบสีล้ำค่านี้คือสมบัติของหอหม่ายเยว่ของเราเลยนะเจ้าคะ มันสุดที่จะประเมินค่าได้เลยเจ้าค่ะ แต่ทว่าสิ่งที่จะทำการประมูลในวันนี้ล้ำค่ายิ่งกว่าโคมไฟนี้อีกเจ้าค่ะ!”
ซูปั้นเฉินรู้สึกดีใจอย่างมาก โคมไฟเคลือบสีล้ำค่าเป็นของที่หาได้ยากอย่างมาก ของที่จะประมูลดีกว่านี้อีกงั้นรึ งั้นแปลว่าวันนี้จะสิ่งของอันเลอค่าน่ะสิ นี่สิจึงจะสมกับสถานที่หน่อย! เขายิ่งคิดยิ่งดีใจ จนอดที่จะวางแผนในใจไม่ได้เลย
“ไม่เสียเที่ยวจริงๆ อีกเดี๋ยวถ้าการประมูลจบลง ไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไรข้าก็ต้องซื้อโคมไฟเคลือบสีล้ำค่านี่ให้ได้!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็เดินตามสาวใช้ไปนั่งลงในมุมที่ไม่เป็นจุดสนใจ
อีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่จ้าวชี่ว์ปิ้งและจ้าวฉี่หมิงเข้ามาถึงก็ถึงกับตะลึงจนอ้าปากค้าง แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นญาติสนิทของราชวงศ์ และได้เห็นของหายากในพระราชวังมากมายแล้ว แต่การตกแต่งที่หรูหราเฉกเช่นหอหม่านเยว่นั้นได้ทำให้มุมมองความหรูหราของพวกเขาทั้งสองเปลี่ยนไป
ภายใต้แสงโคมไฟเคลือบสีอันล้ำค่านี้ เหล่าสาวใช้ได้ยกน้ำชาเดินผ่านผู้คนมากมาย เหล่าผู้มีตำแหน่งสูงส่งต่างพากันดื่มน้ำชาแทนเหล้า ต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มันคึกคักอย่างมาก เครื่องดื่มชั้นยอดและอาหารอันโอชะล้วนหรูหรายิ่งกว่างานเลี้ยงของอาณาจักรจ้าวทั้งสิ้น
จ้าวฉี่หมิงและจ้าวชี่ว์ปิ้งสบตากัน การปลอมตัวของพวกเขาในตอนนี้คือคนจนเข้าเมืองชัดๆ มันไม่เข้ากับที่นี่เสียเลย เมื่อสาวใช้เห็นพวกเขาทั้งสองก็อยากจะนำทางให้ แต่ทั้งสองกลับปฏิเสธน้ำใจของสาวใช้เพราะกลัวจะถูกจับได้ พวกเขารีบหาที่นั่งที่ลับตาคนแล้วนั่งลงในตอนที่ยังไม่มีใครสังเกตเห็น
ทันใดนั้นเองโคมไฟทรงดอกไม้ทุกอันภายในก็ดับลงหมด เหลือเพียงแสงไฟจากโคมไฟเคลือบสีล้ำค่าเท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...