สายตาของทุกคนต่างมองไปยังคนๆนั้น
“คนๆนั้นอีกแล้ว!”
“คนๆนี้คือใครกันแน่?”
“เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินว่ามีคนยิ่งใหญ่เช่นนี้?”
คนๆนั้นสบตากับสายตาที่ประหลาดใจของทุกคนอย่างใจเย็นและคิดในใจว่า ทั้งได้เงินทั้งได้วางมาดใหญ่โตเช่นนี้อีก งานที่อ๋องเหยียนสั่งมาช่างสาแก่ใจจริงๆ!
ในห้องชั้นสอง หยางจิ่นซิ่วชี้ไปยังคนๆนั้นแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“ดูสิเพคะองค์หญิงสาม เจ้าคนเล่นแง่กำกับเองแสดงเองอีกแล้ว จงใจจะดึงราคาให้สูงขึ้น หลอกทุกคนราวกับเป็นคนโง่! ข้าว่าแล้วว่าเขามีแต่แผนชั่วร้าย ไม่ผิดจากที่พูดเลยจริงๆ!”
จ้าวจีเอ๋อร์รีบปิดปากของหยางจิ่นซิ่วแล้วเตือนว่า
“ชู่ว์ เสียงเบาหน่อย ตะโกนเสียงดังเช่นนี้ไม่เหมาะไม่ควร”
หยางจิ่นซิ่วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นจ้าวจีเอ๋อร์ก็เอามือออกจากปากของนาง นางพูดใส่ร้ายว่า
“ข้าดูออกแล้วว่าเจ้าเองก็เป็นพวกเดียวกับเจ้าคนเล่นแง่นั่น เข้าข้างเขาเข้าไปเถิด!”
จ้าวจีเอ๋อร์แสร้งทำเป็นโกรธแล้วขู่นางว่า “ขืนยังพูดไร้สาระอีกข้าจะไม่ขอน้ำหอมให้เจ้าแล้วนะ!”
หยางจิ่นซิ่วรีบตอบตกลงทันที “เพคะเพคะ ข้าไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้วเพคะ!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วยังจงใจใช้มือปิดปากเพื่อแสดงความจริงใจอีกด้วย
ที่จริงจ้าวจีเอ๋อร์เองก็รู้สึกประหลาดใจ ในเมื่อของพวกนี้เป็นของหายาก แถมยังผลิตออกมาโดยฉินเหยียนอีก งั้นอยากขายเท่าไรก็ได้นี่ เหตุใดจึงต้องใช้วิธีนี้ในการดึงราคาให้สูงขึ้นละ?
ในห้องโถง
ซูปั้นเฉินมองพิจารณาคนๆนั้นด้วยสีหน้าที่เดือดดาล เจ้านี่มันโผล่มาจากไหนกันนะ ดูท่าวันนี้คงจะดึงดันแข่งกับเขาอย่างที่สุดแล้ว!
“หนึ่งหมื่นหกพันตำลึง! ก็แค่ดึงราคาไม่ใช่รึไง ข้าจะบอกให้นะว่าข้าซูปั้นเฉินน่ะมีเงินที่สุด!”
คนๆนั้นนิ่งเฉยและพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า “หนึ่งหมื่นหกพันห้าร้อยตำลึง”
ซูปั้นเฉินไม่คิดว่าคนๆนั้นจะยังกล้าดึงราคาให้สูงขึ้นอีก เขาโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา และพูดประชดว่า
“หึหึ เพิ่มเพียงห้าร้อยตำลึงเนี่ยนะยังกล้าเรียกว่าให้สูงกว่าอีกนะ เจ้าหน้าใหม่ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นว่าใครคือผู้มั่งมีที่สุด ข้าให้สองหมื่นตำลึง!”
ทุกคนตกตะลึงกันไปทันที
“เถ้าแก่ซูช่างมีทรัพย์มากมายนัก สมกับคำร่ำลือจริงๆ แถมวันนี้ยังประมูลสิทธิ์ในการจำหน่ายสบู่และน้ำหอมได้อีก วันข้างหน้าจะต้องร่ำรวยมั่งคั่ง มีทรัพย์เข้าทุกวันจนมีสมบัติมากมายเป็นแน่ เจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า!”
ยิ่งฉินเหยียนชื่นชม ซูปั้นเฉินก็ยิ่งเหลิง เขายิ้มจนแทบจะฉีกไปถึงใบหูแต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่แยแสว่า
“สำหรับข้าเงินแค่นี้เป็นเพียงเศษเงินเท่านั้น ยังมีของดีอะไรอีกก็เอาออกมาเถอะ ข้าจะเหมาทั้งหมด!”
คนข้างในสับสน คนข้างนอกมองเห็นชัด หยางจิ่นซิ่วที่มองดูสถานการณ์บนชั้นสองตั้งแต่แรกทำเสียงเย็นชา
“ดังคำที่กล่าวว่าปากผู้ชายมันยิ่งกว่าผีหลอกคนไม่ผิดจริงๆ ดูซูปั้นเฉินเหลิงสิ แทบจะสติเลอะเลือนแล้ว! ข้าว่านะ ต่อให้สมบัติของเขาจะถูกฉินเหยียนหลอกเอาไปจนหมด เขายังยินดีนับเงินให้ฉินเหยียนเลย!”
จ้าวจีเอ๋อร์พยักหน้าอย่างครุ่นคิดราวกับยังดึงสติกลับมาไม่ได้ ฉินเหยียนสร้างงานประมูลนี้ขึ้นมาก็เพราะจับจุดที่เหล่าผู้มั่งมีทั้งหลายรักหน้าตา ชอบโอ้อวด
หากทำการขายสินค้าใหม่พวกนั้นไปเลยเหล่าพ่อค้าก็อาจไม่ซื้อก็ได้ แต่ถ้าทุกคนแย่งชิงกันก็จะจุดประกายความอยากเอาชนะของพวกเขาขึ้นมา พวกเขาจะไม่ลังเลใจที่จะใช้เงินเพื่อสร้างความภาคภูมิใจที่เป็นที่สนใจของผู้คน
จ้าวจีเอ๋อร์จับจ้องฉินเหยียนแล้วพูดว่า “ต้องยอมรับเลยว่าอ๋องเหยียนเฉลียวฉลาดยิ่งนัก0ไม่มีใครบนโลกที่สามารถแข่งกับเขาได้อีกแล้ว”
บนเวที
ฉินเหยียนเปลี่ยนให้จ้าวจือหย่าลงไป เขาขึ้นมาควบคุมสถานการณ์แล้วพูดว่า
“ขอความกรุณาทุกท่านอยู่ในความสงบ ของต่อไปนี้ต่างหากที่เป็นหัวใจหลักของค่ำคืนนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...