องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 244

จ้าวฉี่หมิงจ้องตาเขม็ง เขาวางมาดแล้วแนะนำตัว

“ข้าคืออัครเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว จ้าวฉี่หมิง พวกโจรป่าเห็นอัครเสนาบดีผู้นี้แล้วยังไม่รู้จักคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตอีก ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก็ได้!”

หัวหน้าโจรป่ามองเขา แววตาปรากฏความโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน “จ้าวฉี่หมิง!”

จ้าวฉี่หมิงยิ้มประชดแล้วพูดว่า “รู้ว่าข้าคืออัครเสนาบดีแล้วยังไม่รีบจัดการตนเองอีก!”

หัวหน้าโจรป่ากำหมัดแน่นแล้วตะโกนว่า “ยอมจำนนบ้าอะไรของเจ้า! สหาย จัดการให้ยับ!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ต่อยหมัดเข้าใบหน้าของจ้าวฉี่หมิงจนล้มลงไป บรรดาโจรป่าพากันวิ่งลงมาจากเขา พวกเขาลงไม้ลงมืออย่างไม่ปรานีโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น

ซูปั้นเฉินนั้นเจ้าเล่ห์มาก เขาหลบความอันตรายอยู่ใต้รถม้าก่อนแล้ว

“สินค้า สินค้าของข้า เหลือไว้ข้าหน่อย ท่านทั้งหลายเหลือให้ข้าสักหน่อยเถิด!”

สมาชิกคณะทูตผู้หยิ่งผยองคนหนึ่งล้มลงกับพื้น เลือดสีแดงสดอาบพื้นไปหมด เขาตายตาไม่หลับและจ้องมองซูปั้นเฉินอยู่แบบนั้น ซูปั้นเฉินรับปิดปากลงทันที ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างหวาดกลัว

จ้าวชี่ว์ปิ้งเจียมตัวทันที เขากราบกรานอ้อนวอนอยู่กับพื้น “พอแล้ว โอ๊ย ขอร้องละพอได้แล้ว!”

ยิ่งเขาอ้อนวอนพวกโจรป่าก็ยิ่งคึกคัก และถีบบั้นท้ายของเขา ทั้งสองคนนี้ยังถือว่าโชคดี ส่วนจ้าวฉี่หมิงนั้นอนาถอย่างมาก

เขาถูกล้อมรอบอย่างแน่นหนา เขาถูกกระชากไปมา จากนั้นก็ถูกเตะไปเตะมาราวกับลูกบอล เขาถูกต่อยจนล้มลงแล้วถูกพวกโจรป่าดึงกระชากขึ้นมารุมต่ออีก

เขาโดนต่อยจนไม่เหลือเรี่ยวแรงจะทรงตัว รับหมัดแรงๆต่อกันเรื่อยๆจนใบหน้าบวมเป่งไปหมด เมื่อหัวหน้าโจรป่าเห็นว่าขนของไปหมดแล้ว จ้าวฉี่หมิงเองก็ถูกสั่งสอนจนแทบจะไม่ไหวแล้วจึงได้ออกคำสั่งว่า

“พอแล้วละสหาย ไว้ชีวิตมันไป ไปกันเถอะ!”

เหล่าโจรป่าหยุดมือลงแล้วผลักจ้าวฉี่หมิงทิ้งไป จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในป่าอย่างดีใจ จ้าวฉี่หมิงถูกโยนทิ้งไว้กับพื้นราวกับผ้าขี้ริ้ว เขาร้องคร่ำครวญเจ็บปวด

จ้าวชี่ว์ปิ้งรู้สึกว่าบั้นท้ายแทบจะเคลื่อนที่แล้ว เขานอนราบอยู่กับพื้นจนเหล่าเด็กรับใช้ต้องมาพยุงจึงจะยืนขึ้นได้

ซูปั้นเฉินเองก็ออกมาจากใต้รถม้าอย่างสั่นกลัว เมื่อเห็นว่าสินค้าถูกขนไปหมดก็สบถในใจ อย่าว่าแต่สินค้าที่ซื้อเข้าร้านเลย แม้แต่เบาะรถม้าก็ถูกเปิดออก เบาะนุ่มๆ ที่อยู่ข้างในถูกถอดออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเสาไม่กี่ต้นที่รองรับมุมทั้งสี่ ซึ่งแทบจะดูเหมือนรถม้าเลย

ซูปั้นเฉินถอนหายใจยาวๆ “นี่มันสูญเสียไปหมดเลย เฮ้อเอาเถอะ ตราบใดมีชีวิตก็ย่อมต้องมีความหวัง”

“ขอรับ!”

ทุกคนเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง จ้าวฉี่หมิงและจ้าวชี่ว์ปิ้งคล้องแขนพยุงกันไว้ นั่งอยู่ในรถม้าที่ไม่มีเบาะนุ่มๆ แล้วเดินทางต่อ ตอนนี้แสงอาทิตย์แรงจนไม่อาจลืมตาได้เลย จ้าวฉี่หมิงและจ้าวชี่ว์ปิ้งหลับตางีบ แม้ว่าแดดจะแรงมาก แต่พอมันสาดส่องบนร่างกายแล้วกลับรู้สึกอบอุ่น บาดแผลบนร่างกายเองก็ค่อยๆบรรเทาขึ้น

ทันใดนั้นเอง ไม่รู้ว่ามีหินลอยมาจากที่ใด มันลอยมาโดนศีรษะของจ้าวฉี่หมิง

จ้าวฉี่หมิงเจ็บจนลืมตาขึ้นมาแล้วด่าทอว่า “ใครกัน!”

เมื่อสิ้นเสียง บนภูเขาก็มีคำพูดที่คุ้นเคยอย่างมากดังขึ้นอีกครั้ง

“ภูเขานี้เป็นของข้า ต้นไม้ที่นี่ข้าเป็นคนปลูก หากอยากจะผ่านทางนี้ก็จ่ายเงินซื้อทางมาซะ!”

เสียงนี้ทำให้ทุกคนในขบวนรถถึงกับกลัวหัวหดกันไปหมด ซูปั้นเฉินมองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว ให้ตายเถอะ มีผู้คนอยู่เต็มไปหมดอีกแล้ว! เขาอยากจะทำตามระเบียบต่อ แต่เมื่อค้นร่างกายแล้วพบว่ากระเป๋าแห้งไปหมด เขาไม่มีเงินเลยสักนิด เขาลุกขึ้นยืนบนรถม้าแล้วคารวะต่อพวกโจรป่าแล้วอ้อนวอนว่า

“ท่านทั้งหลาย พวกข้าเดินทางผ่านที่แห่งนี้รบกวนพวกท่านเสียแล้ว ต้องขออภัยจริงๆ ตามระเบียบแล้วควรให้เกียรติพวกท่านสักเล็กน้อย แต่ก่อนหน้านี้พวกเราถูกปล้นไปถึงสองรอบ ตอนนี้ไม่มีอะไรติดตัวเลย อย่างไรก็ขอให้ท่านวีรบุรุษทั้งหลายช่วยเมตตา ให้ทางแก่พวกข้าด้วยเถิด!”

ในขณะที่ซูปั้นเฉินกำลังเจรจาอยู่นั้นจ้าวฉี่หมิงก็ยืนขึ้น แล้วจะเริ่มด่าทออย่างเต็มที่ แต่ทันใดนั้นก็ถูกจ้าวชี่ว์ปิ้งปิดปากเอาไว้ “เจ้าทำตัวดีๆไม่ต้องพูดแล้วจะได้รึไม่ ข้าขอร้องล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์