เมืองหลวง อาณาจักรฉิน
ในตำหนักจินหลวน ตอนเช้าในท้องพระโรง ฮ่องเต้ฉินโกรธมากและด่าว่าเสียงดัง
“ตามอยู่ได้ทั้งวัน!”
“สมองของพวกเจ้าอยู่หมากินไปหมดแล้วหรืออย่างไร?”
พวกข้าราชบริพารตัวสั่นและไม่กล้าพูด แต่เนื่องจากเชื้อสายขององค์ชายเจ็ดถูกตัดขาด และตำแหน่งหาเสบียงจึงขาดคนไป มีบางคนกล้าพูดขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาท ได้โปรดสงบสติอารมณ์ก่อนพ่ะย่ะค่ะ แน่นอนว่าเสบียงเป็นสิ่งสำคัญ ตำแหน่งผู้ดูแลเสบียงยังคงว่าง ไม่มีใครเข้ามารับช่วงต่อ จึงไม่สามารถส่งเสบียงไปยังแนวหน้าได้ขอรับ!”
“กระหม่อมคิดว่า คนที่เข้ามารับหน้าที่ผู้ดูแลเสบียงคนใหม่ ต้องส่งเสบียงให้ทั้งแนวหน้าและแนวหลัง”
“เช่นนี้ถึงจะช่วยเหลือแนวหน้าได้ รวมไปถึงแผนการของอาณาจักรจ้าว”
“ถูกต้อง ขอเพียงแค่มีเสบียงอาหารเพียงพอ หากอ๋องเหยียนยังกล้าแก้ตัวอีก เช่นนั้นแสดงว่าเขาไม่มีใจเชื่อฟังแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท ได้โปรดตัดสินใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เป้ฯการนำของไท่ฟู่อีกครั้ง บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างแสดงท่าทีเหมือนกัน แต่ในความจริงเขาได้วางคนของตนเองไว้ที่แนวหน้าเพื่อที่จะจำกัดการโจมตีของฉินเหยียน”
ฮ่องเต้ฉินสงบลงและถามอย่างเย็นชา
“ใครอยากรับหน้าที่สำคัญนี้บ้าง?”
องค์ชายแปดฉินอู่เอ่ยขึ้น
“เสด็จพ่อ ลูกมีคนที่เหมาะสมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายใหญ่ฉินชงเห็นท่าทีเช่นนั้น จึงพูดออกไปอย่างไม่ลังเลเช่นกันว่า
“เสด็จพ่อ ลูกเองก็เลือกคนไว้แล้วเช่นกัน”
หลังจากนั้น องค์ชายสองและองค์ชายสี่ต่างก็พูดออกมาเช่นกัน ต่างคนต่างมีคนของตนเองรับหน้าที่เอาไว้แล้ว
ฮ่องเต้ฉินมองดูคนที่ถูกแนะนำ ขมวดคิ้วพลางคิดหนัก
“ไท่ฟู่ เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
ไท่ฟู่ก้าวไปข้างหน้า กราบทูลว่า
“ตามประสบการณ์ของกระหม่อม คนที่องค์ชายแปดแนะนำ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลี่เป็นคนมากประสบการณ์ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดขอรับ”
หลังจากการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ฮ่องเต้ฉินออกคำสั่ง
“เช่นนี้มอบหมายหน้าที่นี้ให้แก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลี่ แนวหน้าของด่านเจียยวี่ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเส้นทางเสบียง ช่วยเหลืออ๋องเหยียนในการโจมตีและยึดครองเมืองอื่น!”
“ฮ่องเต้ทรงพระปรีชาสามารถพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว ไท่ฟู่และคนอื่นๆ กำลังเดินออกจากท้องพระโรง ทุกคนต่างยิ้มกว้า
ไท่ฟู่เองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะขึ้นรถม้ากลับไป มีคนพาตัวเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลี่ให้มาเข้าพบ
“ข้าน้อย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลี่ ยอมเป็นคนของท่านไท่ฟู่ ท่านเป็นพ่อแม่ที่ให้ชีวิตข้าอีกครั้ง...”
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เจ้ารู้จุดประสงค์ของการไปด่านเจียยวี่ในครั้งนี้หรือไม่?”
ไท่ฟู่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ขึ้นรถม้า พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
“ข้าน้อยทราบขอรับ”
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลี่คุกเข่าลงกับพื้น
ครั้งนี้ที่เขาไปที่นั่น เพราต้องการช่วยเหลือประชาชนและปราบปรามองค์ชายสิงที่ที่หยิ่งผยองคนนั้น
“ท่านใต้เท้า เรามาถึงด่านเจียยวี่แล้วขอรับ”
หลี่กวงตอบรับเบาๆ เปิดประตูรถม้าเดินออกมา
“นี่คือ... ด่านเจียยวี่”
ภาพแรกที่เขาเห็นกลับทำให้หลี่กวงตกใจ ภาพที่เขาคิดไว้ไม่เป็นเช่นนั้น
ไม่ตรงกับภาพที่เขาจินตนาการไว้ในหัวเลยแม้แต่น้อย ที่ว่าจะต้องมีคนร้องขออาหารด้วยความหิวโหย
หลี่กวงลงจากรถ เตะข้ารับใช้ที่ไปพื้น
“ข้าต้องไปรายงานตัวที่ด่านเจียยวี่ เจ้าพาข้ามาที่ใดกัน!”
ข้ารับใช้รู้สึกไม่ยุติธรรม ชี้ไปที่กำแพงเมือง พูดอย่างเสียใจว่า
“ถูกแล้วขอรับ ที่นี่คือด่านเจียยวี่ ใต้เท้าหลี่อ่านดูสิขอรับ”
เมื่อมองตามนิ้ว มีตัวอักษรใหญ่สามตัวเขียนอยู่บนกำแพงว่า ด่านเจียยวี่
“นี่...”
หลี่กวงขยี้ตาด้วยความตกใจ และยืนยันว่าที่นี่คือด่านเจียยวี่จริงๆ
คราวนี้หลี่กวงไม่ได้นั่งรถม้า เหมือนกับคุณยายหลิวที่นั่งมองบรรยากาศรอบข้าง เขามองไปตามท้องถนนด้วยความสับสน
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเขาผ่านเข้าไปยังด่านเจียยวี่ เห็นเมืองใหม่อันงดงาม หลีกวงประหลาดใจจนต้องอ้าปาก
“นี่ เมืองใหม่ที่งดงามเช่นนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อใดกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...