ตอนที่องค์ชายเจ็ดร้องตะโกนออกมา ฉินเหยียนก้าวเข้ามาแล้วพูดอย่างรังเกียจว่า
“ทำให้เจ้าขายหน้าอะไรกัน เห็นอยู่ว่าเจ้าอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครคอยดูแล ข้าจึงตัดสินใจหาคู่ให้ท่านพี่อย่างไรเล่า”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่อึ้งไปครู่หนึ่ง กระพริบตาและพูดอย่างไม่เชื่อว่า
“เจ้า เจ้าหาคู่ให้ข้าอย่างนั้นหรือ?”
ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ทำไมหรือพี่เจ็ด? ดูท่าแล้วท่านพี่เองก็ยินดีมิใช่น้อยหรอกกระมัง?”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่รีบพุด
“ข้ายอม! ข้ายอมแต่งงาน! หญิงงามจากตระกูลใดกันที่ยอมแต่งงานกับข้า สวยหรือไม่ นิสัยเป็นอย่างไร?”
ฉินเหยียนส่งใบสัญญาขายของจางอวิ๋นซูให้องค์ชายเจ็ดทันทีและพูดว่า
“นี่คือสัญญาขายของนาง พี่ดูก่อนเสียว่าพอใจหรือไม่?”
องค์ชายเจ็ดเปิดและพึมพำออกมา
“บุตรสาวของเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ จางอวิ๋นซู ข้ารู้จักพ่อของนาง ได้ยินมาว่าตระกูลจางมีบุตรสาวที่สวยมาก แต่ตระกูลถูกลดสถานะต่ำลง นางถูกลดตำแหน่งเป็นนางทาส”
“แต่ข้าเองรู้สึกละอายใจที่จะบอกว่าข้ารู้ความจริงเรื่องที่ไท่ฟู่ใส่ร้ายพ่อของนาง แต่ข้าไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย จึงได้แค่ยืนมองเฉยๆ”
“หากวันนี้ข้าและนางไม่ได้ถูกลดสถานะลง คงเป็นเพราะโชคชะตาที่ลิขิตให้เรามาพบกัน”
ฉินเหยียนตบไหล่องค์ชายเจ็ด
“พี่เจ็ด พวกเจ้าสองคนอย่ารังเกียจอีกฝ่ายเลย นางยินดีที่จะแต่งงานกับพี่ในตอนที่พี่ถูกลดสถานะลงเช่นกัน หากในอนาคตพี่ได้สถานะกลับคืน พี่ก็ต้องช่วยเหลือนางเช่นกัน”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ไม่ต้องกังวล หากนางแต่งงานกับข้าจริงๆ ข้าดูแลนางแน่นอน”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ในห้องก็ถูกทหารตกแต่งจนเสร็จ ทั้งจุดเทียน อีกทั้งยังติดตัวอักษรคู่
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจัง
“วันนี้เป็นวันมงคล คืนนี้พวกเจ้าทั้งสองจะแต่งงานกัน”
องค์ชายเจ็ดมองไปที่ตัวอักษรคู่ตัวใหญ่บนหนัง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า
“น้องเจ็ดช่างใส่ใจจริงๆ ข้านึกว่าจะต้องอยู่ตัวคนเดียวในจงเหรินฝู่ตลอดไปแล้วเสียอีก!”
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ ขอบคุณน้องสิบสี่มาก!”
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า
“พวกเราต่างก็เป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องพูดอะไรมาก เงื่อนไขนั้นมีจำกัด ทุกอย่างจะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ที่เหลือก็คงต้องให้พวกเจ้าทั้งสองจัดการให้สำเร็จแล้ว”
ฉินอวี่โอบไหล่ฉินเหยียนและพูดอย่างตื่นเต้น
“พูดได้ดี วันนี้เป็นวันดีของข้า ดังนั้นเจ้ามาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนข้าด้วย!”
ฉินเหยียนตกปากรับคำ
“วันนี้ เราสองพี่น้องจะเมาไปด้วยกัน ไป ไปบ้านข้า มีเหล้าดีๆ เยอะเลย!”
จางอวิ๋นซูลุกขึ้น โค้งคำนับ
“ขอบพระทัยองค์ชายเจ็ดเพคะ”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ยิ้มเล็กน้อย พูดว่า
“ฤกษ์ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราทำตามพิธีเถิด”
พูดจบ เขาก็หยิบผมออกมาปอยหนึ่งแล้วใช้กรรไกรที่อยู่ด้านข้างตัดออก
จางอวิ๋นซูเองก็หยิบกรรไกรและตัดปอยผมเช่นเดียวกัน
ทั้งสองผูกผมที่ตัดเข้าด้วยกัน พันด้วยเชือกสีแดง มัดอย่างแน่นหนาและใส่ลงในกล่องผ้า
พิธีผูกปมผมเสร็จสิ้น
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่และจางอวิ๋นซูต่างมองหน้ากันด้วยความดีใจและเขินอาย
ฉินอวี่กล่าวว่า
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเราเข้านอนกันเถิด”
จางอวิ๋นซูพยักหน้าที่แดงก่ำ
“เพคะ หม่อมฉันจะถอดเสื้อผ้าให้องค์ชายเจ้าค่ะ”
ฉินอวี่กางแขนออก จางอวิ๋นซูถอดเสื้อผ้าให้เขาอย่างจริงใจ
ค่ำคืนแต่งงาน มีทั้งดอกไม้และเทียนสว่างไสว ค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลิที่มีค่าดั่งทองนับพัน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...