องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 327

ฉินเหยียนคาดการณ์ไว้แล้วว่าไท่ฟู่จะเลือกทำเช่นนี้ จึงได้ค่อยๆพูดว่า

“คนเรามีชีวิตอยู่จะต้องมีหน้ามีตา ต้นไม้ก็ยังต้องมีเปลือก ไท่ฟู่เองก็เช่นกัน อย่างไรการที่รุ่งโรจน์มาทั้งชีวิตจนแก่ชราแล้ว เขาเองก็ไม่อยากทิ้งความอับอายไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เพราะวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ หลังจากที่ตายไปแล้วหรอก ตราบใดที่ยังไม่ถึงทางตันสุดท้าย เขาก็ไม่มีทางเสี่ยงแน่นอน”

จ้าวจีเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆพูดว่า “เมื่อก่อนข้ามักคิดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตรานั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย คิดไม่ถึงเลนว่ากลับมีประโยชน์มากเช่นนี้ สามารถทำให้ผู้คนยอมประนีประนอมเพื่อชื่อเสียงได้”

ฉินเหยียนกอดอกแล้วพูดตรงๆว่า “แน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรทั้งชีวิตของคนเรา ไม่ว่าใครก็อยากจะมีชื่อเสียงอันดี ได้จารึกเป็นประวัติศาสตร์จดจำไปตลอดกาล ไม่มีใครอยากจะทิ้งความอับอายเอาไว้หรอก”

องค์ชายเจ็ดเปลี่ยนเรื่องแล้วถามขึ้นว่า “ตอนนี้ไท่ฟู่น่ะรอดแล้ว แล้วต่อไปเราจะทำอย่างไรกันต่อดี?”

ฉินเหยียนพูดอย่างคาดเดายากว่า “ไม่ต้องร้อนใจไปอีกสิบวันข้างหน้าจะเกิดช่วงตื่นตระหนก ช่วงนี้ยังมีตัวแปร รอดูกันต่อไปเถิด!”

......

เมืองหลวงอาณาจักรฉิน

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความพยายามของนาง นางสามารถเปลี่ยนจากอีกากลายเป็นหงส์ได้ สามารถได้รับการเลื่อนขั้นถึงสามระดับภายในหนึ่งวัน โดยเลื่อนจากต๋าอิ้งเป็นกุ้ยเหรินได้ นั่นถือเป็นความรวดเร็วในการเลื่อนขั้นมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

แม้แต่หัวหน้ากิจการพระราชวังอย่างขันทีเกาที่อยู่เคียงข้างฝ่าบาทเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุเช่นกัน ทำได้เพียงต้องส่งสิ่งของที่กุ้ยเหรินควรจะมีให้ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ ขณะนี้ฉีเยี่ยนเอ๋อร์กำลังถูกปรนนิบัติอยู่

ขันทีเกายกชุดเครื่องกุ้ยเหรินมายังเบื้องหน้าของฉีเยี่ยนเอ๋อร์ เขายิ้มแย้มยินดีว่า

“ขอแสดงความยินดีกับกุ้ยเหรินด้วย ถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้ยเหรินตั้งแต่อายุสิบหกเช่นนี้ ฝ่าบาทยังได้มอบตำหนักจงชุ่ยให้แก่ท่านโดยเฉพาะด้วย เป็นคนแรกเลยที่ได้รับความโปรดปรานเช่นนี้!”

ตั้งแต่ถูกแต่งตั้งฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็ดูสง่างามและมีเกียรติทันที นางหันมองตนเองในกระจกแล้วแตะต่างหูพร้อมพูดสบายๆว่า

“ก็แค่กุ้นเหรินเท่านั้น มิมีเรื่องอะไรต้องภาคภูมิใจหรอก ศีรษะของเจ้าและข้าต่างก็ยังอยู่บนไหล่กันทั้งนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะหล่นลงมาทุกเมื่อเหมือนกัน”

ขันทีเกาสีหน้าประหลาดใจขึ้นทันที “เหตุใดกุ้ยเหรินจึงกล่าวเช่นนี้ล่ะ?”

ริมฝีปากสีแดงของฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูดขึ้นอย่างคับแค้นใจว่า “ความลับที่ทุกคนล้วนรู้กันดีนั้น เพียงแต่ขันทีเกามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในเรื่องนั้นจึงยังไม่รู้ก็เท่านั้น”

แม้ขันทีเกาจะเป็นขันทีคนหนึ่ง แต่การที่สามารถไต่ขึ้นมาถึงตำแหน่งหัวหน้ากิจการพระราชวังได้ในพระราชวังที่เต็มไปด้วยความลำบากนี้ ก็คงไม่ใช่คนดีอะไรเช่นกัน แต่คำพูดของฉีเยี่ยนเอ๋อร์กลับทำให้เขามึนงงไปหมด เขาโค้งตัวแล้วประสานมือคารวะพร้อมถามขึ้นว่า

“ข้าโง่เขลานัก ขอความกรุณากุ้ยเหรินอธิบายแก่ข้าทีเถิด”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยังคงส่องกระจกอยู่ นางแตะต่างหูแล้วพูดช้าๆว่า “แม้ไท่ฟู่จะขอกลับไปยังถิ่นเกิดแล้ว แต่อำนาจในราชสำนักยังคงอยู่เช่นเดิม ต่อให้ตัวไม่อยู่ที่นี่ ตราบใดที่เขาอยากจะก่อกบฏ ด้วยกำลังของเขาก็ยังคงสามารถเปลี่ยนราชวงศ์ได้”

“ไท่ฟู่ให้เงินแก่พวกเรา ให้เขาคอยสอบถามข่าวสารจากท่านแล้วส่งให้ไท่ฟู่ทราบ”

ขันทีเการู้สึกตกตะลึงอย่างมาก หากไม่มีใครสังเกตเห็นไส้ศึกพวกนี้ ก็ไม่อาจคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาได้เลย เขาทั้งโกรธทั้งผวา กัดฟันแล้วพูดว่า

“สารภาพตามความจริงมา! ไท่ฟู่ให้เงินพวกเจ้าแค่ไหนจึงทำให้พวกเจ้าทุ่มเทชีวิตถึงเพียงนี้!”

ขันทีคนหนึ่งกระอักเลือดแล้วพูดว่า “หนะ หนึ่งร้อยตำลึง แถมไท่ฟู่ยังรับปากว่าถึงตอนนั้นจะให้ข้ารับตำแหน่งหัวหน้ากิจการพระราชวังแทนทาน ดังนั้นข้าจึงได้หลงละเลิงไป แล้วตอบตกลงกับไท่ฟู่ไป ท่านขันทีไว้ชีวิตด้วยเถิด......”

ขันทีเกาโกรธอย่างมาก เขาชูแส้ขึ้นแล้วฟาดอย่างแรง

“เจ้าเศษเดน เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครกันถึงได้กล้าคิดแย่งตำแหน่งของข้า ข้าจะฟาดเจ้าให้ตายซะ!”

เขาฟาดไปหลายต่อหลายครั้ง ขันทีเกาเหนื่อยจนหอบ เขาออกคำสั่งว่า “ฟาด ฟาดจนกว่าจะตาย!”

กรมสอบสวนคดีอาญาเต็มไปด้วยเสียงร้องคร่ำครวญ ขันทีเกาโกรธเกรี้ยวอย่างมาก หากฝ่าบาทรู้เรื่องนี้เข้า เกรงว่าเขาจะไม่รอดเช่นกัน ทันใดนั้นฉีกุ้ยเหรินที่เปลี่ยนชุดแล้วได้ค่อยๆเดินมาพร้อมกับเหล่าหญิงรับใช้

“ขันทีเกา ข้าได้ยินเสียงคร่ำครวญจากที่ไกลๆ ท่านไม่กลัวว่าฝ่าบาทจะได้ยินเข้ารึ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์