องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 328

ขันทีเกาไม่กล้ายอมรับ เขารีบประสานมือคารวะต่อฉีเยี่ยนเอ๋อร์ว่า “เจ้าพวกเด็กขี้ขลาดตาขาวพวกนี้บังอาจรับใช้ไท่ฟู่ ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ ฉีกุ้ยเหรินโปรดช่วยข้าด้วยเถิด!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เดินเข้าไป นางวางมาดแล้วพูดว่า “ขันทีเกากล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรรึ?”

ขันทีเกาคุกเข่าลงแล้วพูดอย่างเคารพว่า “จริงอยู่ที่ไท่ฟู่มีอำนาจใหญ่หลวง จนกระทั่งในวังขันทีด้วย หากฝ่าบาทรู้เรื่องนี้เข้า ต่อให้ข้าจะมีกี่ชีวิตมันก็ไม่พอ! หากไม่มีกุ้ยเหรินชี้แนะ เกรงว่าต่อให้ข้าตายข้าก็ยังไม่รู้สาเหตุ!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยิ้มขึ้น เขาค่อยๆพยุงขันทีเกาขึ้นมา

“ขันทีเกากล่าวเกินไปแล้ว ตอนนี้มีเรื่องมากมาย ยิ่งเป็นเวลาที่ต้องเรียกใช้งานคน เราต่างก็เป็นเพียงตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกัน ที่รุ่งเรืองและประสบความสูญเสียพร้อมกับฝ่าบาท”

“ข้ากำลังจะมุ่งหน้าไปตำหนักหย่านซินเพื่อกล่าวทำความเคารพฝ่าบาท ขันทีเกาเองก็ไปพบฝ่าบาทด้วยกันสิ มันเป็นเพียงข้อผิดพลาดเพราะความประมาท ข้าจะช่วยพูดให้ รับรองว่าขันทีเกาจะต้องรอดแน่นอน”

ขันทีเกาสบตาเข้ากับดวงตาที่แสร้งทำเป็นยิ้มของฉีเยี่ยนเอ๋อร์ เขาเข้าใจในทันทีว่า เมื่อมีคนหนุนหลังเช่นนี้ ชีวิตของเขาจึงจะได้รับการรับรองว่าจะรอดจริงๆ

เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้าของปีเยี่ยนเอ๋อร์ จากนั้นก็โค้งตัวประสานมือคารวะพร้อมพูดว่า

“ข้าน้อยนั้นโง่เขลายิ่งนัก ขอบพระคุณกุ้ยเหรินที่ช่วยเหลือข้า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าน้อยจะขอติดตามท่านไป!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยิ้มบางๆ “ขันทีเการีบลุกขึ้นเถิด ท่านเป็นคนฉลาด ต่อหน้าของฝ่าบาทท่านรู้ดีว่าควรพูดอะไรไม่ควรพูดอะไร มิต้องให้ข้าสอนท่านเลย”

ขันทีเกากราบกรานขอบคุณ “โปรดวางใจเถิด ข้าน้อยเข้าใจ!”

......

ตำหนักหย่านซิน

ตอนนี้ฮ่องเต้ฉินยังคงสวมชุดเกราะและถือกระบี่ชื่อเซียวไว้ เขายังคงมีสีหน้าตึงเครียดอย่างมาก ตราบใดที่องค์ชายใหญ่ฉินชงยังไม่ถึงเมืองหลวง ชีวิตของเขาก็ยากจะรับรองได้ เขาก็ไม่อาจวางใจลงได้เลย เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เอาแต่เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ

จำหนักหย่านซิน

ฮองเฮาฉินซวงหลานรอคอยท่ามกลางดวงอาทิตย์ที่แผดเผาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่เห็นฝ่าบาทเลย ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย นางได้รับข่าวว่านางสนมฉีเยี่ยนเอ๋อร์ได้เลื่อนขั้นสามระดับภายในวันเดียว นั่นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เรื่องใหญ่ขนาดนี้เหตุใดนางที่เป็นฮองเฮาจึงไม่รู้เรื่องเลย นางเป็นผู้ดูแลวังหลังแต่กลับไม่รู้เรื่องนี้เลย นั่นทำให้ฮองเฮาฉินซวงหลานรู้สึกถึงความอันตรายที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน แสงอาทิตย์แผดเผาอย่างแรง ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นมา

ขันทีที่อยู่หน้าประตูรายงานอีกครั้งว่า “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทมีคำสั่งว่าจะไม่พบใครทั้งนั้น เชิญกลับเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของฮองเฮาฉินซวงหลานไม่สบอารมณ์อย่างมาก นางถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางมึนงงไปหมด

ทันใดนั้นเองขันทีเกาก็นำทางฉีเยี่ยนเอ๋อร์มาถึงนอกตำหนักหย่านซิน เมื่อพบว่าฮองเฮาฉินซวงหลานยืนอยู่หน้าตำหนักจึงได้รีบทำความเคารพทันที

ฮองเฮาฉินซวงหลานโกรธจนกัดฟันแน่น นางหญิงกากี กล้าทำตัวกำเริบเสิบสานต่อหน้านางเช่นนี้ได้ คอยดูเถิด!

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เปลี่ยนมาสวมชุดกุ้ยเหรินแล้วปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของฮ่องเต้ฉินด้วยความสุภาพเรียบร้อย นั่นทำให้เขาเผลอมองค้างไปอย่างไม่รู้ตัว

“หม่อมฉันฉีเยี่ยนเอ๋อร์ ขอทำความเคารพฝ่าบาทเพคะ”

“มิต้องมากพิธี”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ไม่ได้ยืนขึ้น นางส่งสายตาให้ขันทีเกา

ขันทีเการีบคุกเข่ากราบกรานทันที “ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินมึนงงไปทันที เขาถามขึ้นว่า “เจ้ามีความผิดอันใดรึ?”

“ข้าประมาทเอง ในยามที่จับกุมตัวบุตรสาวบุญธรรมของไท่ฟู่ในพระราชวัง เหล่าขันทีหนุ่มได้ส่งข่าวให้ไท่ฟู่รับรู้ ดังนั้นวันนี้ไท่ฟู่จึงได้ถอยเพื่อเตรียมการพ่ะย่ะค่ะ”

“ว่าอย่างไรนะ?”

ฮ่องเต้ฉินรู้สึกศีรษะร้อนผ่าว ความโกรธปะทุขึ้น เขาเดือดดาลขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์