องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 346

ขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังยืนอยู่ที่ประตูอย่างเย่อหยิ่ง ในมือถือพระราชโองการและกล่าวเสียงดังว่า

"ไท่ฟู่รับราชโองการ!"

หัวใจของไท่ฟู่เต้นระรัว เกิดอะไรขึ้น มิใช่ควรจะเรียกเขาไปตำหนักหย่างซินหรอกหรือ เหตุใดจึงมาประกาศราชโองการที่นี่?

โดยไม่มีเวลาคิด เขารีบก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลงพลางประสานมือและกล่าวว่า

"กระหม่อมรับราชโองการพะยะค่ะ"

ขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังกระแอมในลำคอ และอ่านว่า

"ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้ฉินจึงทรงมีพระบัญชา นับจากนี้ไปให้เพิกถอนอำนาจในการปกครองทั้งหกกรมของไท่ฟู่ จบราชโองการ!"

สีหน้าของไท่ฟู่มืดครึ้ม ดูเหมือนว่าคราวนี้ฝ่าบาทจะจริงจัง เขารับราชโองการมาและกล่าวขอบคุณว่า

"กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทพะยะค่ะ"

ในที่สุดก็สามารถยกภูเขาออกจากอก ดูเหมือนว่าฮ่องเต้ฉินยังคงเห็นแก่มิตรภาพเก่าและเพียงเพิกถอนอำนาจในการควบคุมหกกรม นับว่ายังไม่เป็นไร

ในขณะที่เขากำลังจะยืนขึ้นนั้นเองก็ได้ยินขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังกล่าวว่า

"ข้าว่าไท่ฟู่ไม่จำเป็นต้องยืนขึ้นหรอก มิเช่นนั้นอีกสักครู่ก็จะต้องคุกเข่าอีกครั้ง ระวังจะเจ็บเข่า"

ไท่ฟู่งุนงงและไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ในขณะที่เขาเพิ่งลุกขึ้นมานั้นขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังอีกคนก็รีบเข้ามาจากด้านนอกประตู และประกาศเสียงดังว่า

"ไท่ฟู่รับราชโองการ!"

ไท่ฟู่รู้สึกเพียงสมองของเขาว่างเปล่า เหตุใดจึงมีราชโองการอีกฉบับ?

เขาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งและก้มศีรษะพลางประสานมือ และกล่าวว่า

"กระหม่อมรับราชโองการพะยะค่ะ!"

ขันทีจึงอ่านว่า

"ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้ฉินจึงทรงมีพระบัญชา นับจากนี้ไปให้เพิกถอนอำนาจในการปกครองดูแลราชสำนักของไท่ฟู่ จบราชโองการ!"

ทันทีที่ราชโองการฉบับนี้ประกาศออกมา ก็เหมือนกับการตีแสกหน้าซึ่งทำให้ไท่ฟู่รับมือไม่ทัน เขาจึงทำได้เพียงทำหน้าเคร่งเครียด และกล่าวว่า

"กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทพะยะค่ะ"

หลังจากได้รับพระราชโองการ ยังไม่ทันที่ไท่ฟู่จะลุกขึ้นมาก็มีขันทีอีกคนเข้ามาอ่านพระราชโองการ

"ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้ฉินจึงทรงมีพระบัญชา ให้เพิกถอนไท่ฟู่......"

พระราชโองการเพิกถอนมาติดๆกัน

"ให้เพิกถอน ไท่ฟู่...."

"ให้เพิกถอน ไท่ฟู่......"

........

เข่าของไท่ฟู่รู้สึกชาไปหมด และหัวใจของเขาก็แหลกสลายลงทีละน้อยในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการถูกเพิกถอนอำนาจอย่างต่อเนื่อง

ราชโองการเพิกถอนทั้งสิบสองฉบับถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งอำนาจทั้งหมดของไท่ฟู่ถูกเพิกถอนจนหมดสิ้น ทำให้ไท่ฟู่สัมผัสประสบการณ์ว่าฉินเหยียนรู้สึกอย่างไรเมื่อเขาได้รับราชโองการทั้งสิบสองฉบับนั้น

ไท่ฟู่ไร้เรี่ยวแรงจนทรุดตัวลงกับพื้น เขามองดูราชโองการเพิกถอนทั้งสิบสองฉบับที่อยู่เบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว และรู้สึกว่าทุกอย่างจบสิ้นลงแล้วพลางพึมพำว่า

"ฝ่าบาท ท้ายที่สุดแล้วก็ยังต้องการสังหารข้า......"

............

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่หันกลับมา และกล่าวว่า

"อ้าว นี่จะไปแล้วหรือ ไม่ใช่ยังไม่จบหรอกหรือ ไท่ฟู่รับราชโองการสิบสองฉบับแล้วก็จบแล้วหรือ? จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้หากไม่ตาย นั่นก็จะง่ายเกินไปสำหรับเขาแล้ว!"

ฉินเหยียนกล่าวอย่างใจเย็นว่า

"ไม่ต้องกังวลไปเสด็จพี่เจ็ด การจะสังหารใครสักคนต้องทำลายจิตวิญญาณของเขาก่อนท่านเข้าใจไหม ต้องแยกเขาออกและบดขยี้เขาทีละนิด และปล่อยให้เขาแหลกเป็นชิ้นๆจึงจะบรรเทาความเกลียดชังลงได้"

"นอกจากนี้ข้าได้บอกเสด็จพี่ใหญ่ไปแล้ว อนาคตของไท่ฟู่จะไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน ไปเถอะ กลับไปนอนต่อกัน!"

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่คว้าตัวฉินเหยียนไว้ และกล่าวว่า

"จะนอนอะไรกัน ละครที่ดีเช่นนี้ไม่ใช่จะหาดูได้ง่ายๆ ข้าจะต้องดูว่าท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร"

จ้าวจีเอ๋อร์และจางอวิ๋นซูต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

ฉินเหยียนจึงยักไหล่อย่างจนปัญญา

"ได้ เช่นนั้นข้าจะฝืนใจอยู่ดูเป็นเพื่อนพวกเจ้า"

ทั้งสี่คนต่างก็มองลงไปพร้อมกัน

ไท่ฟู่ถูกราชองครักษ์มัดแขนไว้และลากเหมือนสุนัขที่ตายแล้วไปจนถึงตำหนักหย่างซิน

ทุกคนที่คุกเข่าอยู่ตรงทางเดินของตำหนักหย่างซินต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นฉากนี้ และมองไปที่ไท่ฟู่ด้วยความงุนงง

ราชครูของฮ่องเต้ที่ครั้งหนึ่งเคยกระฉับกระเฉงเวลานี้ใบหน้าดูซีดเสียวและไร้ชีวิตชีวา

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนสับสนอีกครั้ง คืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์