องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 345

หลังจากสอบสวนมาทั้งคืน จำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ยักยอกงบประมาณหลวง ใช้ของหลวงแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และอื่นๆมีมากกว่าพันคน

คนเหล่านี้ล้วนได้รับการยุยงส่งเสริมจากไท่ฟู่จึงกำเริบสืบสานถึงเพียงนี้

ฮ่องเต้ฉินโกรธมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าไท่ฟู่ผู้ที่เขาไว้วางใจและเคารพถึงเพียงนี้จะติดสินบนและควบคุมราชสำนักด้วยเงินตราและบุตรีบุญธรรมที่รับเลี้ยงมา และมาถึงจุดนี้ได้ด้วยการปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว

การทำเช่นนี้เท่ากับเห็นฮ่องเต้เช่นเขาเป็นอากาศธาตุ ทำให้เขาผู้เป็นจักรพรรดิของต้าฉินกลายเป็นหุ่นเชิดอย่างแท้จริง คิดดูแล้วช่างน่าโมโหนัก!

ฮ่องเต้ฉินโกรธมาก ดวงตาของเขาจ้องเขม็งพลางกล่าวว่า

"ให้ขุนนางชั่วที่ทำผิดเหล่านี้เขียนหลักฐานความผิดทั้งหมดออกมาให้ข้า หากขาดไปแม้แต่เรื่องเดียวประหารชีวิตด้วยวิธีหลิงฉือทันที ข้าต้องการให้พวกมันเห็นว่านี่คือจุดจบของการไม่รับสารภาพ!"

"พะยะค่ะ ลูกจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้!"

องค์ชายใหญ่ฉินชงประสานมือ และเดินไปหาขุนนางที่ฉ้อฉลเหล่านั้นพลางกล่าวเสียงดังว่า

"จงเขียนความผิดที่พวกเจ้าก่อออกมาให้หมด ใครเป็นผู้บงการ ใครคือผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำอะไรไปบ้าง จงเขียนอธิบายออกมาอย่างชัดเจน!"

"หากพวกเจ้ากล้าปิดบังแม้แต่น้อยและฝ่าบาทตรวจพบว่ามีผู้ปิดบังความผิดแม้เพียงหนึ่งเรื่อง จะถูกประหารชีวิตด้วยวิธีหลิงฉือ!"

เหล่าขุนนางของเน่ยเก๋อต่างก็พยักหน้า หลังจากได้รับการแจกจ่ายกระดาษแล้วต่างก็เขียนหลักฐานการกระทำความผิดของตัวเองด้วยความสั่นสะท้าน

มีขุนนางเฒ่าผู้หนึ่งลังเลที่จะเขียนด้วยเกรงว่าจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงจึงไม่ต้องการสารภาพความผิดทั้งหมด

องค์ชายใหญ่ฉินชงเพียงมองปราดเดียวก็รู้จึงถามอย่างเข้มงวดว่า

"เจ้าอธิบายอย่างชัดเจนแล้วหรือ?"

ขุนนางเฒ่าพยักหน้าด้วยสายตาที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และกล่าวว่า

"เขียน เขียนอธิบายอย่างชัดเจนแล้วพะยะค่ะ"

องค์ชายใหญ่ฉินชงจึงอ่านหลักฐานการกระทำความผิด

"ดูจากสิ่งที่เจ้าเขียนแล้วเจ้ายังนับว่าเป็นขุนนางมือสะอาด ใครก็ได้ นำตัวไปประหารด้วยวิธีหลิงฉือ!"

"อ๊า!"

ราชองครักษ์ก้าวไปข้างหน้าและมัดคนผู้นั้นไว้กับเสา จากนั้นจึงประหารด้วยวิธีหลิงฉือต่อหน้าทุกคน

"ข้ายอมสารภาพแล้ว ข้ายอมสารภาพทั้งหมดแล้ว องค์ชายใหญ่โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดพะยะค่ะ อ๊า...."

การประหารชีวิตด้วยวิธีหลิงฉือต่อหน้าทุกคนนั้นเป็นวิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ขุนนางคนอื่นๆต่างก็ได้แต่มองดูเขาในขณะที่เนื้อบนร่างถูกเฉือนออกทีละชิ้นทีละชิ้น ซึ่งทำให้พวกเขาตกใจจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง

องค์ชายใหญ่ฉินชงมองไปรอบๆ และกล่าวอย่างเข้มงวดว่า

" นี่ก็คือจุดจบของผู้ที่กล้าปิดบังอำพราง!"

เหล่าขุนนางที่ฉ้อฉลต่างก็ตื่นตระหนกจนไม่กล้าปิดบังอีกต่อไป พวกเขาต่างก็เขียนความผิดน้อยใหญ่ทั้งหมดลงบนกระดาษและไม่กล้าอำพรางแม้แต่น้อย

........

ต้าหย่งปลอมตัวเป็นรองราชองครักษ์ และนำราชองครักษ์กลุ่มหนึ่งไปคุมตัวขุนนางที่ฉ้อฉลทั้งหมด

ฮ่องเต้ฉินมิอาจสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน และพึมพำว่า

"ไท่ฟู่เจ้าเล่ห์เพทุบายนัก หลอกจนข้าเจ็บปวดนัก!"

"ถ่ายทอดคำสั่งให้ร่างราชโองการสิบสองฉบับเพื่อเพิกถอนอำนาจทั้งหมดของไท่ฟู่!"

..........

ห้องเสนาบดี

ขุนนางของเน่ยเก๋อทั้งหมดต่างก็ถูกเรียกตัวมาซักถามทีละคนโดยไม่มีผู้ใดได้กลับมาสักคนเดียว

เวลานี้ในห้องเสนาบดีที่เงียบกริบมีเพียงไท่ฟู่ผู้เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ ดวงตาของเขาว่างเปล่า และนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความงุนงง

การรอคอยนั้นช่างแสนสาหัส

เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที ไท่ฟู่ที่รอตั้งแต่ฟ้ามืดจนฟ้าสว่างรู้สึกว่าหนึ่งวันยาวนานเหมือนหนึ่งปี

ตั้งแต่แรกเริ่มกังวล กระสับกระส่าย และรู้สึกเหมือนมีหนามทิ่มแทง หลังจากที่ขุนนางของเน่ยเก๋อต่างก็ถูกเรียกตัวไปซักถามทีละคนความกระวนกระวายใจก็ค่อยๆลดลงเช่นกัน

และในเวลานี้เองประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ความตึงเครียดของไท่ฟู่สั่นสะท้าน เขาจ้องมองที่ประตูด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

ที่แตกต่างจากก่อนหน้าก็คือผู้ที่มาในครั้งนี้มิใช่องค์ชายใหญ่แต่เป็นขันทีผู้ดูแลกิจการภายในพระราชวังที่ถือราชโองการอยู่ในมือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์