องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 358

"เหตุใดจึงพูดเช่นนี้เล่า"

ฉินเหยียนเข้าไปนั่งพลางยิ้มและขยิบตาให้กับบุปผาหิรัญย์ทั้งสิบสองนาง จากนั้นพวกนางจึงทำความเคารพและกล่าวว่า

"คารวะองค์หญิงสามเพคะ"

จ้าวจีเอ๋อร์กอดอกพลางพินิจเหล่าหญิงงามที่มีชีวิตชีวาเหล่านี้ พลันสีหน้าก็ยิ่งบูดบึ้งมากขึ้น

ฉินเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้มขี้เล่นว่า

"คนสิบสองคนนี้ข้าคัดเลือกมาเพื่อปรนนิบัติเจ้าโดยเฉพาะ อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นองค์หญิงหากข้างกายไม่มีสาวใช้สักสองสามคนจะได้อย่างไรกัน"

จ้าวจีเอ๋อร์เบ้ปาก และกล่าวว่า

"คำพูดช่างน่าฟังนัก ทว่าเมื่อมองดูแต่ละนางที่งดงามราวบุปผาและหยก คงจะมิได้เพื่อปรนนิบัติข้าแต่เห็นได้ชัดว่าเพื่อปรนนิบัติเจ้าต่างหาก"

ฉินเหยียนยิ้มพลางกล่าวว่า

"หากเจ้าไม่ชอบข้าไล่พวกนางไปย่อมได้"

จ้าวจีเอ๋อร์หันกลับเข้าไปด้านใน

"เลิกแสดงเถิด การที่เจ้าพากลับมานั่นย่อมหมายความว่าไม่มีเจตนาที่จะไล่ไป ก็ให้พวกนางอยู่ที่นี่เถิด"

"ทุกคนเข้ามาข้างใน ให้ข้าตรวจสอบดูว่าพวกนางสะอาดหรือไม่ อย่าแพร่กามโรคมาให้ข้าอีก"

ฉินเหยียนส่งสายตาอีกครั้ง จากนั้นปิ่นหิรัญย์ทั้งสิบสองนางจึงกล่าวขอบคุณอย่างพร้อมเพียงกันว่า

"ขอบพระทัยองค์หญิงสามเพคะ"

........

วันต่อมา

ณ ตำหนักจินหลวน

ในท้องพระโรง ฮ่องเต้ฉินได้ออกพระราชโองการว่า

"จากนี้ไปนโยบายการคืนพื้นที่การเกษตรให้กับราษฎรมอบให้องค์ชายเจ็ดเป็นผู้มีอำนาจในการจัดการ!"

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่คุกเข่าลงพลางประสานมือ และกล่าวว่า

"หม่อมฉันรับราชโองการ! หม่อมฉันจะรีบไปจัดการ ขอทูลลาพะยะค่ะ"

หลังจากที่องค์ชายเจ็ดออกไปจากท้องพระโรง ฮ่องเต้ฉินก็มองดูฎีกาที่กองเป็นภูเขาและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขามองไปที่เหล่าผู้ตรวจตราที่กำลังบันทึกคำพูดและการกระทำ และสั่งการว่า

"พวกเจ้าเหล่าผู้ตรวจตรา ก่อนหน้านี้กราบทูลให้ข้านำตัวเหล่าขุนนางโฉดมาลงอาญา เวลานี้ในท้องพระโรงที่ใหญ่โตล้วนว่างเปล่าและเหลือเพียงกองฎีกาเหล่านี้ ทำให้ข้ายุ่งทั้งวัน"

"พวกเจ้าก็อย่าว่างเลย เวลานี้คนน้อยและไม่มีคำพูดหรือการกระทำใดๆที่จำเป็นจะต้องบันทึก พวกเจ้ามานี่ มาช่วยข้าจัดฎีกา!"

เหล่าผู้ตรวจตราต่างมองหน้ากัน จากนั้นมองไปที่ฎีกาที่กองเป็นภูเขาอยู่เบื้องหน้าฮ่องเต้ฉินและรู้สึกทนดูมิได้จริงๆ จึงวางพู่กันลงและประสานมือพลางกล่าวว่า

"กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพะยะค่ะ"

.........

อีกด้านหนึ่ง

ฉินเหยียนได้เตรียมรถม้าสิบคันและนำหญิงงามสิบสองคนรวมทั้งองครักษ์ที่สนิทอีกหลายคนรออยู่ที่จงเหรินฝู่

ไม่นานหลังจากนั้นองค์ชายเจ็ดฉินอวี่และจางอวิ๋นซูภรรยาของเขาก็รีบมาขอคำแนะนำจากฉินเหยียน

"พี่สิบสี่ นี่ท่านจะเดินทางไกลหรือ?"

ฉินเหยียนอธิบายว่า

"จะไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือหากได้รับทรัพย์สิน ที่นา และโฉนดที่ดินจำนวนมากในคราวเดียวและไม่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง เจ้าคิดว่าครอบครัวชนชั้นสูงเหล่านั้นจะเต็มใจมอบทรัพย์สินของบรรพบุรุษให้หรือ?"

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่จึงตระหนักได้ทันที

รถม้าทั้งสิบผ่านตรงบริเวณนั้นพอดี โดยปกติแล้วหากรถม้าท้องถิ่นเห็นเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องหลีกทางอย่างแน่นอน ทว่ารถม้าต่างถิ่นเหล่านี้กลับกล้าหยุดและชมละคร ช่างให้เกียรติพวกเขาแล้วจริงๆ

"หลีกไป มองอะไร ระวังจะควักลูกตาของพวกเจ้า"

ชายคนหนึ่งใช้ไม้โบยชี้ไปที่องครักษ์และคนอื่นๆด้วยท่าทางที่คุกคาม

"ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย!"

เด็กสาวที่ถูกอันธพาลจับพยายามดิ้นรนแต่กลับถูกสารเลวเหล่านี้ตบหน้าไปสองครั้งจนล้มลงไปกับพื้น หลังจากนั้นยังถูกจิกผมและกล่าวว่า

"ไม่สืบดูสักหน่อยว่าที่ซุ่นชิ่งนี่คือเขตแดนของข้า ลุงของข้าเป็นถึงไท่ฟู่ของรัชสมัยปัจจุบัน ใครจะกล้าช่วยเจ้า ไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วหรือ?"

หลังจากกล่าวจบ เขาก็ไม่สนใจอะไรและลากตัวเด็กสาว ไป

"ลูกข้า ขอร้องทุกท่านโปรดปล่อยบุตรสาวของข้าเถิด ข้ามีบุตรสาวผู้นี้เป็นญาติเพียงคนเดียวของข้าแล้ว!"

"ไสหัวไป!"

ทาสที่ชั่วช้าเตะชายชรา และคว้าคอเสื้อของเขาพลางกล่าวอย่างชั่วร้ายว่า

"ต่อต้านใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าได้เห็นกับตาว่าบุตรสาวของเจ้าถูกพวกข้าลวนลามบนถนน"

"อย่าแตะต้องข้า ปล่อย ปล่อยข้า"

เสียงเสื้อผ้าที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆและเสียงกรีดร้องที่สิ้นหวังดังก้องไปทั่วทั้งถนน

"ลงมือ!"

ทันใดนั้นเสียงที่ดุดันของฉินเหยียนก็ดังขึ้นมาจากในรถม้า

เหล่าองครักษ์ที่ต่างก็รอเวลานี้มานานรีบวิ่งออกไปราวกับเสือชีตาห์

พวกเขาชักดาบออกมาแล้วจับผู้คนเหล่านี้ไว้ทั้งหมดและตรึงไว้กับพื้นถนน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์