ฉินเหยียนพูดออกมาอย่างฉะฉาน
“ท้องฟ้าสดใสที่อยู่เหนือหัวเราสูงขนาดนี้ คิดอยากจะสูงกว่าท้องฟ้าหนึ่งไม้บรรทัด เป็นไปได้ว่าต้องขุดพื้นดินออกไปหนึ่งไม้บรรทัด ถึงจะคู่ควรกับชื่อเสียงที่ว่าสูงกว่าท้องฟ้าหนึ่งไม้บรรทัดกระมัง”
“คนที่เขียนแผ่นจารึกคงต้องการบอกว่าผู้ว่าราชการเขตซุ่นชิ่งนี้เบียดเบียนประชาชน ทำให้ประชาชนตกทุกข์ได้ยาก ทำให้พื้นดินต่ำลงหนึ่งไม้บรรทัด นั้นคือเหตุผลที่พวกเขาเขียนว่าสูงกว่าท้องฟ้าหนึ่งไม้บรรทัดอย่างไรล่ะ”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่เข้าใจในทันทีและจ้องไปที่ผู้ว่าราชการเขตเขม็ง
“เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่!”
ในเวลานี้ผู้ว่าราชการเขตเองก็มีปฏิกิริยาเช่นกัน สีหน้าของเขาซีดลงและพึมพำว่า
“ไอ้คนพวกนี้ กล้าหลอกข้า!”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่พูดอย่างเด็ดขาด
“ทหาร จับตัวผู้ว่าราชการเขตเดี๋ยวนี้!”
“รับทราบ!”
บรรดาทหารคุ้มกันก้าวไปข้างหน้าทันทีและกดตัวผู้ว่าราชการเขตลง
ผู้ว่าราชการเขตร้องขอความเมตตา
“องค์ชาย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าเป็นแค่ข้าราชการต่ำต้อย ข้าไม่ได้ทำผิดต่อผู้ใดเลยขอรับ!”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ตะโกนอย่างเย็นชา
“เจ้าทำผิดหรือไม่นั้น เราจะได้รู้หลังจากนี้!”
“ทหาร นำคดีความในศาลาว่าการเขตซุ่นชิ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมามาให้ข้าตรวจสอบ ข้าจะตรวจสอบเอง!”
“รับทราบ!”
เหล่าทหารคุ้มกันเริ่มค้นหาทันที
ในเวลานี้ ต้าหย่งเดินเข้ารายงาน
“องค์ชาย ทาสคนหนึ่งถูกโบยจนตายแล้วขอรับ คนอื่นๆ ยังต้องประหารชีวิตต่อหรือไม่ขอรับ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างเด็ดขาด
“โบยต่อไป จนกว่าจะตาย!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ทหารคุ้มกันเข้ามารายงานต่อว่า
“องค์ชาย อีกคนถูกโบยจนตายแล้วขอรับ”
ฉินเหยียนตอบเสียงเย็น
“โบยต่อไป!”
“รับทราบ!”
ทหารคุ้มกันวิ่งกลับไปยังลานกว้างและโบยซ่งอันเซิงจนตและลูกน้องจนเลือดสาด
ข้าราชการที่ยืนอยู่ทั้งสองฝั่งต่างหวาดกลัวจนแทบเสียสติ ไม่กล้ามองไปรอบๆ ตัวสั่นเทา
บรรดาประชาชนที่เฝ้ามองด้วยความตื่นเต้นนั้น เมื่อเห็นว่าอันธพาลที่หยิ่งยโส ไม่สนใจกฎหมาย ชอบรังแกประชาชนถูกโบยด้วยกระบองจนตายจริงๆ ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนี้สามารถช่วยพวกเขาร้องขอความเป็นธรรมได้จริงๆ
“ถูกโบยจนตายจริงๆ ด้วย! สมควรตายแล้ว! คนชั่วต้องถูกลงโทษ คนชั่วต้องถูกลงโทษจริงๆ!”
“ฟ้ามีตาเสียจริง ในที่สุดไอ้พวกคนเลวพวกนี้ได้รับการลงโทษอย่างที่สมควรได้รับ!”
คิวยาวไปจนถึงถนนมองหาจุดสิ้นสุดไม่ได้
สิบสองปิ่นทองที่ถูกสาดด้วยหมึก ประชาชนต่างระบายความอึดอัดใจออกมา
ทันทีที่จางอวิ๋นซูเดินผ่านไป เธอเห็นสิบสองปิ่นทองที่ถูกเขียนอย่างโกรธเกรี้ยว บนกระดาษมีทั้งตัวอักษรและน้ำตาของประชาชน
กระดาษถูกส่งตรงไปยังศาล และส่งมอบให้แก่องค์ชายเจ็ด
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่อ่านต่อหน้าผู้ว่าการเขต
“วันที่เจ็ด กุมภาพันธ์ ตระกูลซ่งได้ลักพาตัวหญิงสาว”
“วันที่แปด เดือนมีนาคม ตระกูลซ่งได้ปล้นพ่อค้า”
“วันที่แปด เดือนเมษายน ผู้ว่าการเขตได้เรียกเก็บเงินภาษีที่สูงเกินไป...”
เมื่อผู้ว่าราชการเขตได้ยินเช่นนั้นพลันตกใจมากเกี่ยวกับความจริงที่ประชาชนได้ถูกข่มเหง ปล้นทรัพย์สินของพวกเขาอย่างเปิดเผย เขากลัวมาจนฉี่ราดออกมา
ยิ่งเขาฟังมากเท่าไหร่ เรื่องร้องเรียนผู้ว่าราชการเขตยิ่งมากขึ้น ในเวลานี้เขารู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็ว ตาเริ่มลายคล้ายจะเป็นลม
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ยังขุดคุ้ยคดีความของศาลาว่าการทั้งหมดในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา และมอบให้กับฉินเหยียน
ฉินเหยียนค่อยๆ อ่าน ยิ่งเขาอ่านมากเท่าไหร่ คิ้วเขายิ่งขมวดมากขึ้นเท่านั้น
ทุกๆ คดีล้วนไม่ยุติธรรม เป็นเท็จและมีข้อผิดพลาด ทั้งหมดล้วนเป็นอาชญากรรมที่กระทำโดยอาศัยอำนาจของไท่ฟู่เพื่อปกป้องตระกูลซ่ง
คดีที่ไม่ยุติธรรมเมื่อเจ็ดวันก่อน ตอนนี้นักโทษได้อยู่ในคุกเพื่อรอประหารหลังใบไม้ร่วง
ฉินเหยียนชี้ไปยังกรณีนี้และพูดอย่างจริงจัง
“นำตัวคนร้ายในคดีนี้มา ข้าจะสอบสวนใหม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...