องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 363

ต้าหย่งมาถึงคุกพร้อมกับทหารคุ้มกัน

กลิ่นเหม็นเน่าเข้าโจมตีมายังจมูก สภาพในคุกนั้นแย่มาก นักโทษในห้องขังบนร่างต่างเต็มไปด้วยเลือดและไร้ลมหายใจ นอนอยู่บนกองหญ้าที่มีเชื้อรา ถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม

ดูเหมือนว่าพวกช้าราชการไม่คิดว่าพวกนักโทษเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย

เมื่อเดินเข้าไปในห้องขังที่ขังนักโทษเพื่อรอประหารหลังช่วงฤดูใบไม้ร่วง สิ่งทีเขาเห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยบาดแผล

ต้าหย่งโบกมือขึ้น

“นั่นนาง พาตัวนางออกมา”

“รับทราบ”

บรรดาทหารคุ้มกันรีบเปิดประตูห้องขังทันที และทำตัวผู้หญิงที่เต็มไปด้วยรอยแผลออกมาทันที

หญิงคนนั้นยอมให้ทหารคุ้มกันพาตัวนางออกมา พร้อมกับพูดจาเหน็บแนมว่า

“มาที่นี่เพื่อพาตัวข้าไปทรมานอีกแล้วใช่หรือไม่? พวกเจ้าก็ทำได้แค่เท่านี้!”

หลังจากมาถึงลานกว้างแล้ว เมื่อเห็นว่าลายกว้างเต็มไปด้วยประชาชนที่มาร้องทุกข์ หญิงที่ใบหน้ามีรอยแผลไม่เพียงแต่รู้สึกสงสัยในใจเท่านั้น

เกิดอะไรขึ้น?

หลังจากที่ถูกทหารคุ้มกันพาตัวเข้ามาในห้องโถงแล้ว ต้าหย่งพูดอย่างเด็ดขาดว่า

“เข้าเฝ้าองค์ชายแล้ว เหตุใดถึงยังไม่คุกเข่าลงอีก!”

หญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลสายตามีแต่ความเหยียดหยามและพูดอย่างดื้อรั้นว่า

“พวกเจ้าก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ในวัง คิดอยากให้ข้าคุกเข่าให้อย่างนั้นหรือ ถุย ฝันไปเถอะ!”

ขณะพูดก็ถ่มน้ำลายในศาล

ฉินเหยียนไม่โกรธ แต่กลับอธิบายอย่างจริงจังว่า

“อย่าเข้าใจข้าผิด เจ้ามีเรื่องร้องทุกข์อันใดรีบบอกข้า ข้าจะช่วยนำพาความยุติธรรมมาให้เจ้า”

ผู้หญิงที่มีรอยแผลบนใบหน้าเกาคอ แล้วพูดอย่างดูถูกว่า

“พวกสุนัขรับใช้ที่เจ้าพูดมานั้นถือว่าน่าฟังมาก จะช่วยนำพาความยุติธรรมมาให้ข้า ใครจะเชื่อฟังคำเจ้ากัน!”

ในเวลานี้จ้าวจีเอ๋อร์เดินไปข้างหน้า โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะสกปรกแค่ไหน เธอจับมือของผู้หยิงที่มีรอยแผลบนใบหน้าเอาไว้ แล้วพูดเบาๆ ว่า

“ไม่ต้องกลัว หากมีเรื่องร้องทุกข์ให้พูดเสียเดี๋ยวนี้ หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้าลองมองไปข้างนอกสิ”

จากนั้นหญิงที่มีรอบแผลบนใบหน้าหันออกไปเห็นซ่งอันเซิงอยู่บนแท่นประหารที่อยู่ไม่ไกล มีเลือดไหลออกจากปาก แขนขาห้อยต่องแต่ง ดูเหมือนว่าเขาจะหมดลมหายใจแล้ว

จ้าวจีเอ๋อร์อธิบายว่า

“คนอันธพาลเหล่านี้ที่รังแกประชาชนได้ถูกโบยจนตายหมดแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวล เราจะช่วยเจ้าร้องทุกข์เอง”

เมื่อหญิงที่มีรอยแผลแน่ใจว่าคนตรงหน้านางไม่ใช่คนของตระกูลซ่ง ความรู้สึกที่กดเก็บไว้ในใจมานานได้ถูกพรั่งพรูออกไปและร้องไห้อย่างขมขื่น

“ฟ้ายังมีตา ในที่สุดพวกคนเลวทรามเหล่านี้ก็ได้รับผลกรรมที่ตนก่อเอาไว้แล้ว!”

นางคุกเข่าลงกับพื้นและพูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม

ฉินเหยียนอึ้งกับความแน่วแน่ของเซี่ยชิงอีกครั้ง และพูดอย่างจริงจังว่า

“ข้าเข้าใจถึงความทุกข์ของเจ้าแล้ว ข้าจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เจ้าเอง ถอดโซ่ตรวนให้นาง แล้วนั่งดูเถิด”

เซี่ยงชิงปาดน้ำตาและโค้งคำนับอย่างขอบคุณ

“ขอบคุณองค์ชาย!”

จากนั้นทหารก็เดินมาด้านหน้าถอดโซ่ตรวนของเซี่ยชิงออก และพาตัวเธอไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ชายแก่และลูกสาวคู่นั้นเพื่อดูการพิจารณาคดี

การร้องทุกข์ครั้งแล้วครั้งเล่าจากลานกว้างถูกส่งเข้ามายังองค์ชายเจ็ดฉินอวี่

“ฟ้องเด็กรับใช้ตระกูลซ่งที่ลักพาตัวลูกสาวข้า...”

“ฟ้ององค์ชายตระกูลซ่งที่ยึดที่ดินของข้าไป!”

“ฟ้องทาสรับใช้ตระกูลซ่งที่รังแกและคุกคามประชาชนชายหญิง และทำร้ายจนพวกเขาบาดเจ็บและพิการ!”

มีการร้องทุกข์เข้ามาหลายสิบเรื่อง ทั้งหมดต่างกล่าวว่าตระกูลซ่งนั้นหยิ่งผยองและรังแกประชาชน

เซี่ยชิงรู้สึกสับสน จึงภามชายแก่ที่อยู่ข้างๆ

“คนพวกนี้เป็นใครกันหรือ?”

ชายแก่พูดด้วยความตื่นเต้น

“คนพวกนี้เป็นขุนนางมือสะอาดที่เป็นสมาชิกของราชวงศ์มาที่นี่เพื่อลงโทษพวกที่ทำร้ายประชาชน ขจัดความชั่วร้ายให้หมดไป ในที่สุดซุ่นชิ่งก็ได้รับความช่วยเหลือเสียที!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์