ต้าหย่งมาถึงคุกพร้อมกับทหารคุ้มกัน
กลิ่นเหม็นเน่าเข้าโจมตีมายังจมูก สภาพในคุกนั้นแย่มาก นักโทษในห้องขังบนร่างต่างเต็มไปด้วยเลือดและไร้ลมหายใจ นอนอยู่บนกองหญ้าที่มีเชื้อรา ถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม
ดูเหมือนว่าพวกช้าราชการไม่คิดว่าพวกนักโทษเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปในห้องขังที่ขังนักโทษเพื่อรอประหารหลังช่วงฤดูใบไม้ร่วง สิ่งทีเขาเห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยบาดแผล
ต้าหย่งโบกมือขึ้น
“นั่นนาง พาตัวนางออกมา”
“รับทราบ”
บรรดาทหารคุ้มกันรีบเปิดประตูห้องขังทันที และทำตัวผู้หญิงที่เต็มไปด้วยรอยแผลออกมาทันที
หญิงคนนั้นยอมให้ทหารคุ้มกันพาตัวนางออกมา พร้อมกับพูดจาเหน็บแนมว่า
“มาที่นี่เพื่อพาตัวข้าไปทรมานอีกแล้วใช่หรือไม่? พวกเจ้าก็ทำได้แค่เท่านี้!”
หลังจากมาถึงลานกว้างแล้ว เมื่อเห็นว่าลายกว้างเต็มไปด้วยประชาชนที่มาร้องทุกข์ หญิงที่ใบหน้ามีรอยแผลไม่เพียงแต่รู้สึกสงสัยในใจเท่านั้น
เกิดอะไรขึ้น?
หลังจากที่ถูกทหารคุ้มกันพาตัวเข้ามาในห้องโถงแล้ว ต้าหย่งพูดอย่างเด็ดขาดว่า
“เข้าเฝ้าองค์ชายแล้ว เหตุใดถึงยังไม่คุกเข่าลงอีก!”
หญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลสายตามีแต่ความเหยียดหยามและพูดอย่างดื้อรั้นว่า
“พวกเจ้าก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ในวัง คิดอยากให้ข้าคุกเข่าให้อย่างนั้นหรือ ถุย ฝันไปเถอะ!”
ขณะพูดก็ถ่มน้ำลายในศาล
ฉินเหยียนไม่โกรธ แต่กลับอธิบายอย่างจริงจังว่า
“อย่าเข้าใจข้าผิด เจ้ามีเรื่องร้องทุกข์อันใดรีบบอกข้า ข้าจะช่วยนำพาความยุติธรรมมาให้เจ้า”
ผู้หญิงที่มีรอยแผลบนใบหน้าเกาคอ แล้วพูดอย่างดูถูกว่า
“พวกสุนัขรับใช้ที่เจ้าพูดมานั้นถือว่าน่าฟังมาก จะช่วยนำพาความยุติธรรมมาให้ข้า ใครจะเชื่อฟังคำเจ้ากัน!”
ในเวลานี้จ้าวจีเอ๋อร์เดินไปข้างหน้า โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะสกปรกแค่ไหน เธอจับมือของผู้หยิงที่มีรอยแผลบนใบหน้าเอาไว้ แล้วพูดเบาๆ ว่า
“ไม่ต้องกลัว หากมีเรื่องร้องทุกข์ให้พูดเสียเดี๋ยวนี้ หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้าลองมองไปข้างนอกสิ”
จากนั้นหญิงที่มีรอบแผลบนใบหน้าหันออกไปเห็นซ่งอันเซิงอยู่บนแท่นประหารที่อยู่ไม่ไกล มีเลือดไหลออกจากปาก แขนขาห้อยต่องแต่ง ดูเหมือนว่าเขาจะหมดลมหายใจแล้ว
จ้าวจีเอ๋อร์อธิบายว่า
“คนอันธพาลเหล่านี้ที่รังแกประชาชนได้ถูกโบยจนตายหมดแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวล เราจะช่วยเจ้าร้องทุกข์เอง”
เมื่อหญิงที่มีรอยแผลแน่ใจว่าคนตรงหน้านางไม่ใช่คนของตระกูลซ่ง ความรู้สึกที่กดเก็บไว้ในใจมานานได้ถูกพรั่งพรูออกไปและร้องไห้อย่างขมขื่น
“ฟ้ายังมีตา ในที่สุดพวกคนเลวทรามเหล่านี้ก็ได้รับผลกรรมที่ตนก่อเอาไว้แล้ว!”
นางคุกเข่าลงกับพื้นและพูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม
ฉินเหยียนอึ้งกับความแน่วแน่ของเซี่ยชิงอีกครั้ง และพูดอย่างจริงจังว่า
“ข้าเข้าใจถึงความทุกข์ของเจ้าแล้ว ข้าจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เจ้าเอง ถอดโซ่ตรวนให้นาง แล้วนั่งดูเถิด”
เซี่ยงชิงปาดน้ำตาและโค้งคำนับอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณองค์ชาย!”
จากนั้นทหารก็เดินมาด้านหน้าถอดโซ่ตรวนของเซี่ยชิงออก และพาตัวเธอไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ชายแก่และลูกสาวคู่นั้นเพื่อดูการพิจารณาคดี
การร้องทุกข์ครั้งแล้วครั้งเล่าจากลานกว้างถูกส่งเข้ามายังองค์ชายเจ็ดฉินอวี่
“ฟ้องเด็กรับใช้ตระกูลซ่งที่ลักพาตัวลูกสาวข้า...”
“ฟ้ององค์ชายตระกูลซ่งที่ยึดที่ดินของข้าไป!”
“ฟ้องทาสรับใช้ตระกูลซ่งที่รังแกและคุกคามประชาชนชายหญิง และทำร้ายจนพวกเขาบาดเจ็บและพิการ!”
มีการร้องทุกข์เข้ามาหลายสิบเรื่อง ทั้งหมดต่างกล่าวว่าตระกูลซ่งนั้นหยิ่งผยองและรังแกประชาชน
เซี่ยชิงรู้สึกสับสน จึงภามชายแก่ที่อยู่ข้างๆ
“คนพวกนี้เป็นใครกันหรือ?”
ชายแก่พูดด้วยความตื่นเต้น
“คนพวกนี้เป็นขุนนางมือสะอาดที่เป็นสมาชิกของราชวงศ์มาที่นี่เพื่อลงโทษพวกที่ทำร้ายประชาชน ขจัดความชั่วร้ายให้หมดไป ในที่สุดซุ่นชิ่งก็ได้รับความช่วยเหลือเสียที!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...