องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 369

ในสมัยโบราณ มีเพียงกองทัพทั่วไปเท่านั้นที่สามารถเก็บชุดเกราะในสงครามได้ ชุดเกราะสงครามผลิตขึ้นโดยพระราชวังเท่านั้น ซึ่งเป็นนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยฝ่าบาท

ใครก็ตามที่ซ่อนชุดเกราะไว้อย่างลับๆ หรือผลิตขึ้นมาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ตามกฤหมายของราชวงศ์ฉิน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร มีสถานะใด ความคิดกบฏ ทรยศต่ออาณาจักรนั้นชัดเจน ความคิดนี้จะได้รับการสอบสวนและไม่อาจยกความผิดให้ได้

นี่เป็นเหมือนการควบคุมของปืนในยุคปัจจุบัน อาจจะเข้มงวดกว่าการครอบครองปืนในยุคปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ

พูดกันตามตรง ในสมัยโบราณมีดทำครัวที่ทำมาจากเหล็กหรือแม้แต่เครื่องมือในสวนของคนทั่วไป ล้วนแต่ต้องรายงานต่อรัฐบาลทั้งนั้น

ในการสร้างชุดเกราะ จำนวนเงินและทองที่ใช้ไปต้องมีอย่างน้อยหนึ่งพันตำลึง ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถสร้างเองได้แน่นนอน

ตระกูลซ่งที่นำโดยไท่ฟู่กลับมีชุดเกราะสงครามกว่าหนึ่งหมื่นชุด เมื่อสวมครบแล้ว ถือว่าเป็นชุดเกราะในกองทัพชั้นสูง

จุดประสงค์ที่แท้จริงก็ปรากฏชัดเจนด้วยตัวมันเอง

จ้าวจีเอ๋อร์มองไปที่กล่องเกราะ หยิบลูกคิดออกมาคำนวณและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“พระเจ้า ชุดเกราะจำนวนมากขนาดนี้ เทียบได้พอๆ กับจำนวนนายพลทหารทั้งหมดในอาณาจักรจ้าว ตระกูลซ่งคิดกบฏแน่นอน หากเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะชน ต้องถูกประหารเก้าชั่วโคตรเป็นแน่”

ฉินเหยียนยิ้มยกมุมปากแล้วพูดว่า

“นี่เป็นหลักฐานมัดตัวที่ทำลายตระกูลซ่งได้ นี่คือจุดประสงค์หลักของการแวะมาที่เขตซุ่นชิ่ง”

ฉินเหยียนรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าตระกูลซ่งที่นำโดยไท่ฟู่มีใจเป็นอื่น คิดไม่ซื่อ การสอบสวนไท่ฟู่อย่างละเอียดก่อนหน้านั้นเป็นแค่การทำตามพอเป็นพิธีเท่านั้น ไม่มีหลักฐานการคิดกบฏเลยแม้แต่น้อย

ในเวลานั้นไท่ฟู่ยอมถอยเพื่อเข้าใกล้ รีบชิงลาออกแล้วกลับมายังบ้านเกิด หากเขาได้รับอนุญาตให้กลับมายังซุ่นชิ่ง คงเป็นการปล่อยเสือกลับเข้าป่าอย่างแน่นอน

หากอาศัยจำนวนชุดเกราะดังกล่าวเพื่อสร้างกำลังทหารนับหมื่นคน และนำทหารจำนวนนี้บุกเข้ามา คงจะเป็นเรื่องกลัวเกินกว่าที่คิดไว้

โชคดีที่เขาชุดเกราะเหล่านี้เข้าเสียก่อน ไม่ให้โอกาสตระกูลซ่งได้คิดกบฏ

ฉินเหยียนคิดอย่างรอบคอบและสั่งออกไปว่า

“การเดินทางของพวกเรามาที่นี่ในครั้งนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียแล้ว พี่สะใภ้เจ็ด จีเอ๋อร์ พวกเจ้าคิดจำนวนเสบียงอาหารและเงินเหล่านี้ไว้ให้ดี เหลือไว้ให้ประชาชนที่นี่สร้างรากฐานต่อไป”

“ส่วนชุดเกราะเหล่านี้ ต้าหย่ง เจ้าพาคนของเจ้าย้ายชุดเกราะเหล่านี้ออกไปไว้ที่ลานกว้าง เจ้าต้องรีบส่งหลักฐานพวกนี้กลับไปให้ฮ่องเต้ฉินอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคต่างๆ ตระกูลซ่งต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม”

“รับทราบ!”

จ้าวจีเอ๋อร์และจางอวิ๋นซูหยิบพู่กัน กระดาษและลูกคิดออกมาคิด เริ่มทำงานพร้อมกับเหล่าสิบสองปิ่นทอง

ต้าหย่งเรียกองครักษ์เงาช่วยย้ายกล่องชุดเกราะไปทีละกล่อง

ทุกคนทำตามหน้าที่และมัวแต่ทำงานอยู่ที่จวนตระกูลซ่ง

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่มายังจวนตระกูลซ่งเพื่อพบฉินเหยียนหลังจากเสร็จการประหาร

เมื่อเห็นองครักษ์เงาย้ายกล่องออกไปทีละกล่อง เขาถามด้วยความสงสัย

“กล่องมากมายขนาดนี้ ด้านในเป็นสิ่งใดหรือ?”

ฉินเหยียนไม่ตอบ แต่เปิดกล่องให้เห็นของภายในทันที ชุดเกราะส่องแสงต่อหน้าองค์ชายเจ็ด

ทันใดนั้นองค์ชายเจ็ดพลันอึ้งไป พูดออกมาอย่างไม่เชื่อ

องค์ชายเจ็ดพูดอย่างเร่งรีบ

“ขันทีเกาได้โปรดรายงานต่อเสด็จพ่อว่าข้ามีเรื่องสำคัญต้องรีบรายงาน!”

เห็นได้ชัดว่าขันทีเการู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย

“ฝ่าบาททรงทรงงานหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากนี้เพื่อเป็นการขอพระราชอภัยโทษแก่ไท่ฟู่ ผู้นำอาวุโสของตระกูลซ่งได้ทรงขอเข้าเฝ้าทุกวัน ทำให้ฝ่าบาททรงนอนไม่หลับเป็นเวลาหลายคืนแล้ว พระองค์ท่านเพิ่งจะหลับไปหลังจากที่ได้ดื่มน้ำแกงช่วยให้ผ่อนคลาย องค์ชายเจ็ดกลับมารายงานวันพรุ่งนี้ก็ยังไม่สายมิใช่หรือ?”

องค์ชายเจ็ดรู้ดีว่าเสด็จพ่อไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน แต่เขาเองก็รอไม่ไหวเช่นกัน เขาหันกลับไปเปิดกล่องที่ทหารองครักษ์ถือตามเข้ามาด้วย

เมื่อขันทีเกาเห็นสิง่ที่อยู่ในกล่อง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปในทันที

“องค์ชายเจ็ด นี่คือ...”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“นี่คือชุดเกราะที่ค้นเจอในจวนซุ่นชิ่ง รวมๆ แล้วมีถึงหนึ่งหมื่นชุด นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว ขันทีเการีบรายงานเสด็จพ่อเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้นขันทีเกาพลันตัวสั่น การที่ถือครองชุดเกราะเป็นของส่วนตัวถือเป็นความผิดร้ายแรงมาก แต่ตระกูลซ่งกลับมีชุดเกราะในครอบครองถึงหนึ่งหมื่นตัว ความผิดนี้ไม่อาจให้อภัยได้!

เขาไม่กล้าทำให้เสียเวลาอีกต่อไป รีบพูดว่า

“กระหม่อมจะเข้าไปรายงานฝ่าบาทขอรับ!”

หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็หันหลังกลับและรีบเข้าไปในตำหนักหย่างซิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์