องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 370

ในขณะนี้ ฮ่องเต้ฉินกำลังนอนหลับอยางสงบ โดยมีนางสนมฉีอยู่ในอ้อมแขน

ขันทีเการีบวิ่งเข้ามาข้างเตียงและรายงานผ่านผ้าม่านว่า

“ฝ่าบาท องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ มีเรื่องด่วนรายงานพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ฉินตื่นขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย เขาไม่แม้แต่ลืมตา ขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ

“มีเรื่องอะไรต้องรอให้ข้าตื่นก่อนแล้วค่อยรายงาน!”

ขันทีเกากลืนน้ำลายและพูดต่อ

“ฝ่าบาท องค์ชายเจ็ดตรวจค้นชุดเกราะนับหมื่นชุดในจวนซุ่นชิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ!”

ฮ่องเต้ฉินรู้สึกว่าหัวของเขาแทบจะระเบิด ลืมตาขึ้นในทันที ลุกขึ้นนั่งพร้อมพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“เจ้าพูดถึงจวนตระกูลซ่ง จวนตระกูลซ่งในซุ่นชิ่งอย่างนั้นหรือ? พบชุดเกราะนับหมื่นชุด?”

ขันทีเกาตอบทันทีว่า

“กราบทูลรายงานต่อฝ่าบาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายเจ็ดได้นำชุดเกราะที่ยึดมาด้วย ได้โปรดฝ่าบาทออกไปตรวจเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ฉินเปิดม่านแล้วพูดอย่างเร่งรีบ

“เร็วเข้า รีบพาลูกชายข้าเข้ามาเร็วเข้า!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ขันทีเกาวิ่งออกไปเพื่อประกาศให้องค์ชายเจ็ดเข้าไปยังตำหนักได้

ในเวลานี้ฮ่องเต้ฉินรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย มือและเท้าเย็นไปหมด บนหลังมือมีเหงื่อเย็นๆ หงดลงมา เขานั่งอยู่ที่ขอบเตียงหายใจหอบ

เขาไม่คาดคิดว่าตระกูลซ่งจะกล้าคิดการใหญ่เช่นนี้ การครอบครองชุดเกราะเป็นการส่วนตัวถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก ตระกูลซ่งจงใจสร้างชุดเกราะนับหมื่นตัวอย่างลับๆ แสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อฟังคำฮ่องเต้อย่างชัดเจน!

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์จัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง ลูบหลังฮ่องเต้เบาๆ และพูดว่า

“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลพระทัยไปเลยเพคะ ในเมื่อองค์ชายเจ็ดได้ตรวจค้นเจอชุดเกราะพวกนี้แล้ว วิกฤตพลิกเป็นโอกาสแน่ หม่อมฉันจะช่วยพระองค์เปลี่ยนชุด เมื่อองค์ชายเจ็ดเข้ามา ท่านจะได้สอบถามอย่างรอบคอบ”

ฮ่องเต้ฉินพยักหน้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า

“นางสนมที่รักของข้าพูดถูก รีบเปลี่ยนเสื้อให้ข้าเถิด”

“เพคะ”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบลุกขึ้นจากเตียงและสวมเสื้อคุลมให้ฮ่องเต้ฉินอย่างรวดเร็ว

เมื่อฮ่องเต้ฉินเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปด้านนอก องค์ชายเจ็ดฉินอวี่เองก็รออยู่ในตำหนักแล้ว เขาคุกเข่าลงและทำความเคารพ

“ลูกขอเข้าเฝ้าเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินพยายามควบคุมความตื่นตระหนกในใจและโบกมือ

“ไม่ต้องมีพิธีรีตองมา อวี่เอ๋อร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

องค์ชายเจ็ดไม่ได้ยืนขึ้น แต่ยังคงคุกเข่าและประสานมือรายงานว่า

...

ภายในตำหนักจินหลวน

ผู้นำอาวุโสตระกูลซ่งยังคงขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยท่าทีหยิ่งผยอง

เนื่องจากไท่ฟู่ถูกส่งตัวไปยังชายแดน ผู้เฒ่าตระกูลซ่งจึงมายังเมืองหลวง และขอเข้าเฝ้าที่ตำหนักจินหลวนในทุกๆ วัน โดยหวังว่าฝ่าบาทจะพระราชอภัยโทษให้แก่ไท่ฟู่

ฮ่องเต้ฉินไม่ยอมให้เข้าเฝ้าหลายต่อหลายครั้ง โดยอ้างว่าเขายุ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขาหมดไปได้ เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ฉิน

ในเวลานี้ พระตูตำหนักจินหลวนเปิดออก ขันทีเกาออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“ฝ่าบาททรงเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้ผู้นำอาวุโสแล้ว ได้โปรดเข้ามาด้านในเถิด”

ผู้นำอาวุโสทั้งสิบสองคนของตระกูลซ่งมองหน้ากัน ทำตามคำพูดของขันทีเกาทันที พูดพลางเดินตามไปว่า

“เห็นได้ชัดว่าตระกูลซ่งของพวกเราเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรฉิน ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะทรงโกรธพวกเรา แต่เขาก็ยังให้เราเข้าเฝ้า”

ผู้นำอาวุโสเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า

“เฮอะ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้า กลับไปพวกเราจะต้องระดมกำลัง!”

ผู้นำอาวุโสคนหนึ่งรีบพูดขึ้น

“ชู่ หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว!”

ผู้นำอาวุโสทั้งสิบสองคนของตระกูลซ่งได้เดินเข้าไปในตำหนักจินหลวน ภาพตรงหน้าเขากลับทำให้พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์