ในขณะนี้ ฮ่องเต้ฉินกำลังนอนหลับอยางสงบ โดยมีนางสนมฉีอยู่ในอ้อมแขน
ขันทีเการีบวิ่งเข้ามาข้างเตียงและรายงานผ่านผ้าม่านว่า
“ฝ่าบาท องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ มีเรื่องด่วนรายงานพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินตื่นขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย เขาไม่แม้แต่ลืมตา ขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ
“มีเรื่องอะไรต้องรอให้ข้าตื่นก่อนแล้วค่อยรายงาน!”
ขันทีเกากลืนน้ำลายและพูดต่อ
“ฝ่าบาท องค์ชายเจ็ดตรวจค้นชุดเกราะนับหมื่นชุดในจวนซุ่นชิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ!”
ฮ่องเต้ฉินรู้สึกว่าหัวของเขาแทบจะระเบิด ลืมตาขึ้นในทันที ลุกขึ้นนั่งพร้อมพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“เจ้าพูดถึงจวนตระกูลซ่ง จวนตระกูลซ่งในซุ่นชิ่งอย่างนั้นหรือ? พบชุดเกราะนับหมื่นชุด?”
ขันทีเกาตอบทันทีว่า
“กราบทูลรายงานต่อฝ่าบาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายเจ็ดได้นำชุดเกราะที่ยึดมาด้วย ได้โปรดฝ่าบาทออกไปตรวจเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินเปิดม่านแล้วพูดอย่างเร่งรีบ
“เร็วเข้า รีบพาลูกชายข้าเข้ามาเร็วเข้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ขันทีเกาวิ่งออกไปเพื่อประกาศให้องค์ชายเจ็ดเข้าไปยังตำหนักได้
ในเวลานี้ฮ่องเต้ฉินรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย มือและเท้าเย็นไปหมด บนหลังมือมีเหงื่อเย็นๆ หงดลงมา เขานั่งอยู่ที่ขอบเตียงหายใจหอบ
เขาไม่คาดคิดว่าตระกูลซ่งจะกล้าคิดการใหญ่เช่นนี้ การครอบครองชุดเกราะเป็นการส่วนตัวถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก ตระกูลซ่งจงใจสร้างชุดเกราะนับหมื่นตัวอย่างลับๆ แสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อฟังคำฮ่องเต้อย่างชัดเจน!
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์จัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง ลูบหลังฮ่องเต้เบาๆ และพูดว่า
“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลพระทัยไปเลยเพคะ ในเมื่อองค์ชายเจ็ดได้ตรวจค้นเจอชุดเกราะพวกนี้แล้ว วิกฤตพลิกเป็นโอกาสแน่ หม่อมฉันจะช่วยพระองค์เปลี่ยนชุด เมื่อองค์ชายเจ็ดเข้ามา ท่านจะได้สอบถามอย่างรอบคอบ”
ฮ่องเต้ฉินพยักหน้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“นางสนมที่รักของข้าพูดถูก รีบเปลี่ยนเสื้อให้ข้าเถิด”
“เพคะ”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบลุกขึ้นจากเตียงและสวมเสื้อคุลมให้ฮ่องเต้ฉินอย่างรวดเร็ว
เมื่อฮ่องเต้ฉินเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปด้านนอก องค์ชายเจ็ดฉินอวี่เองก็รออยู่ในตำหนักแล้ว เขาคุกเข่าลงและทำความเคารพ
“ลูกขอเข้าเฝ้าเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ฉินพยายามควบคุมความตื่นตระหนกในใจและโบกมือ
“ไม่ต้องมีพิธีรีตองมา อวี่เอ๋อร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
องค์ชายเจ็ดไม่ได้ยืนขึ้น แต่ยังคงคุกเข่าและประสานมือรายงานว่า
...
ภายในตำหนักจินหลวน
ผู้นำอาวุโสตระกูลซ่งยังคงขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยท่าทีหยิ่งผยอง
เนื่องจากไท่ฟู่ถูกส่งตัวไปยังชายแดน ผู้เฒ่าตระกูลซ่งจึงมายังเมืองหลวง และขอเข้าเฝ้าที่ตำหนักจินหลวนในทุกๆ วัน โดยหวังว่าฝ่าบาทจะพระราชอภัยโทษให้แก่ไท่ฟู่
ฮ่องเต้ฉินไม่ยอมให้เข้าเฝ้าหลายต่อหลายครั้ง โดยอ้างว่าเขายุ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขาหมดไปได้ เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ฉิน
ในเวลานี้ พระตูตำหนักจินหลวนเปิดออก ขันทีเกาออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“ฝ่าบาททรงเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้ผู้นำอาวุโสแล้ว ได้โปรดเข้ามาด้านในเถิด”
ผู้นำอาวุโสทั้งสิบสองคนของตระกูลซ่งมองหน้ากัน ทำตามคำพูดของขันทีเกาทันที พูดพลางเดินตามไปว่า
“เห็นได้ชัดว่าตระกูลซ่งของพวกเราเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรฉิน ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะทรงโกรธพวกเรา แต่เขาก็ยังให้เราเข้าเฝ้า”
ผู้นำอาวุโสเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า
“เฮอะ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้า กลับไปพวกเราจะต้องระดมกำลัง!”
ผู้นำอาวุโสคนหนึ่งรีบพูดขึ้น
“ชู่ หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว!”
ผู้นำอาวุโสทั้งสิบสองคนของตระกูลซ่งได้เดินเข้าไปในตำหนักจินหลวน ภาพตรงหน้าเขากลับทำให้พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...