องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 374

เมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าอู๋จวิ้นซานโกรธ ฉินเหยียนก็รีบอธิบายว่า “อย่าวิตกกังวลไปเลย ตระกูลซ่งถูกข้ายึด จวนใหญ่นี้เองก็ถูกยึดแล้ว สถานที่ใหญ่มากเช่นนี้ จะเป็นสถานศึกษาในอนาคต”

“ว่าอย่างไรนะ?” อู๋จวิ้นซานตะลึง เขาจ้องฉินเหยียนอย่างเหลือเชื่อแล้วพูดว่า “ตระกูลซ่ง ถูกยึดแล้วงั้นรึ?”

ฉินเหยียนอธิบายอย่างจริงจังว่า “ตาข่ายสวรรค์ ห่างแต่ไม่รั่ว หลายปีมานี้ ตระกูลซ่งใช้อำนาจของไท่ฟู่ในการวางอำนาจบาตรใหญ่ ราวกับว่าได้กลายเป็นเจ้าของเขตซุ่นชิ่งไป”

“ตระกูลซ่งคิดที่จะกบฏแย่งชิงบัลลังก์ ฮ่องเต้อาณาจักรฉินโกรธมาก จึงได้ประทับตราบนหน้าแล้วส่งไท่ฟู่ไปใช้แรงงาน ตรวจค้นจวนตระกูลซ่ง ข้ายังได้กำจัดผู้ก่อกรรมทำชั่วในตระกูลซ่งอีกด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อู๋จวิ้นซานก็ถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว เขาน้ำตาคลอ รู้สึกตื้นตันอย่างมาก พูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า

“จะดีจะชั่วสุดท้ายก็ได้รับผลการกระทำ สวรรค์ไม่เคยยกเว้นใคร!”

ผลกรรมที่ตระกูลซ่งควรได้รับ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ทับอกของอู๋จวิ้นซานมาหลายปี ในที่สุดก็แตกสลายแล้ว แสงอาทิตย์สาดส่องบนร่างของอู๋จวิ้นซาน นาทีนี้เขาไม่อาจบรรยายความรู้สึกออกมาได้เลย

อู๋จวิ้นซานสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเช็ดน้ำตา เขาอดกลั้นความดีใจเอาไว้แล้วพูดอย่างขออภัยว่า

“เมื่อครู่นี้ข้าเสียกิริยาไป ต้องขออภัยองค์ชายสิบสี่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องในอดีตที่น่าเศร้าของตระกูลอู๋ เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า

“ไม่เป็นไร ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถิด ต่อไปนี้ทุกอย่างในสถานศึกษานี้ขอมอบให้ท่านผู้เฒ่าเป็นผู้ดูแล และหวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธ พยายามดูแลจัดการมัน”

อู๋จวิ้นซานน้ำตาคลอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ข้าจะคอยรับใช้องค์ชายสิบสี่ และไม่ทำให้องค์ชายสิบสี่ต้องผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ทิ้งไม้เท้าลง แล้วดึงดันจะคุกเข่ากราบกรานขอบคุณ

ฉินเหยียนรับพยุงอู๋จวิ้นซานไว้ “อย่าได้เกรงใจไปเลย ตามข้าเข้าไปเถิด ข้าจะพูดรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการเรื่องสถานศึกษาให้ฟัง”

อู๋จวิ้นซานจึงได้เดินเข้าไปในจวนตระกูลซ่งโดยมีฉินเหยียนพยุง ตั้งแต่ตระกูลซ่งยึดจวนตระกูลอู๋ไปเป็นของตนแล้ว ทั้งจวนก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงมาก

อู๋จวิ้นซานกวาดตามองวิวทิวทัศน์ในลาน เขามองไม่เห็นภาพเก่าของตระกูลอู๋เลย ช่างแตกต่างจากอดีตเหลือเกิน

ฉินเหยียนชี้ไปยังอาคารต่างๆ และพูดคุยเกี่ยวกับแผนการของเขา

“ทั้งสถานศึกษาจะเปิดทั้งหมดสี่แห่ง โดยจะมีห้องเรียน ห้องบุ๋น ห้องบู๊ ห้องการแพทย์และห้องการค้า ห้องบุ๋นชอบความสงบ จะต้องอารมณ์สงบนิ่งจึงจะเรียนรู้ได้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าจะสร้างห้องบุ๋นไว้ที่นั่น”

“ห้องการแพทย์ก็สร้างไว้ข้างห้องบุ๋น เล่าเรียนวิชาการช่วยคน เพื่อมีความสามารถในการประกอบอาชีพเป็นหมอรักษาโรคช่วยเหลือผู้คน ในอนาคตชาวเมืองจะได้มีหมอคอยรักษา”

ฉินเหยียนตาเป็นประกาย เขามองพิจารณาแล้วยิ้มอย่างพอใจว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง พอท่านสวมชุดยาวอีกครั้งแล้ว มีมาดของผู้มีวิชาความรู้เหมือนในอดีตไม่มีผิด!”

อู๋จวิ้นซานถูกฉินเหยียนชื่นชมจนทำตัวไม่ถูก เขามองชุดยาวบนร่างแล้วพูดอย่างซาบซึ้งว่า

“ข้าคิดว่าในชีวิตนี้ข้าคงไม่ได้สวมชุดยาวอีกแล้ว โชคดีที่ได้รับความสนใจจากองค์ชายสิบสี่ จึงได้มีโอกาสมีชีวิตเหมือนคนเป็นอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนนำพัดขนนกยัดใส่มือของอู๋จวิ้นซาน แล้วพูดอย่างใจกว้างว่า “ข้าทำพัดขนนกนี่เองกับมือ รับไว้ให้ดีล่ะ”

“นี่มัน......” อู๋จวิ้นซานมองพัดขนนกไม่เข้าใจว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไร เขาทำตัวไม่ถูก

ฉินเหยียนไม่ได้เตรียมแค่พัดขนนกให้ท่านผู้เฒ่าอู๋ เขาได้ให้ช่างไม้สร้างรถเข็นที่ทำจากไม้ด้วย ซึ่งได้นำมาส่งพอดี

“ท่านผู้เฒ่า นี่เป็นพาหนะที่ข้ามอบให้ ท่านเดินทางไม่สะดวก ต่อไปก็นั่งบนรถเข็นแล้วไปที่ๆอยากไป”

เมื่อท่านผู้เฒ่าอู๋นั่งลงบนรถเข็นแล้ว ชุดยาวสีขาว พัดขนนกที่พัดไปมา ท่าทีราวกับเซียน ดูแล้วมีความเป็นจูกัดเหลียงเล็กน้อย

ฉินเหยียนมองพิจารณาอย่างละเอียดแล้วพูดอย่างพอใจว่า “เช่นนี้จึงจะสอดคล้องกับภาพลักษณ์การเป็นครูในสายตาข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์