องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 378

ฉินเหยียนพาเซี่ยชิงและครูใหญ่ที่มีเหล่าหญิงสาวเข็นรถเข็นให้ เดินไปยังถนนด้วยกัน

เหล่าชาวเมืองที่เดินไปเดินมาเมื่อได้เห็นฉินเหยียนก็ราวกับเห็นโพธิสัตว์ที่ยังเป็นๆอยู่ อดไม่ได้ที่จะประสานมือคารวะคำนับ

“ท่านขุนนางมือสะอาดขอรับ!”

“ขอทำความเคารำท่านขุนนางมือสะอาดขอรับ!”

ฉินเหยียนเองก็ทักทายเหล่าชาวเมืองด้วยรอยยิ้ม พวกเขาเดินมาจนถึงถนนสายที่หรูหราที่สุดของเขตซุ่นชิ่ง ฉินเหยียนชี้ไปยังร้านอาหารใหญ่ซุ่นชิ่งเบื้องหน้าแล้วพูดว่า

“นี่คือทรัพย์สมบัติที่ยึดจากตระกูลซ่งมาได้ ข้าได้ทำให้มันเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แล้ว เพียงแค่สิบอีแปะก็อิ่มท้องได้ จะมีอาหารไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน กับสองซุปหนึ่ง มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก ทานได้ตามใจจนกว่าจะอิ่ม”

พอได้ยินว่าแค่สิบอีแปะก็สามารถทานได้อิ่มแล้ว ทุกคนก็แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา เซี่ยชิงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า

“แค่สิบอีแปะ จะทานเท่าไรก็ได้งั้นรึ?”

ฉินเหยียนพูดย้ำว่า “ใช่แล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่กลัวว่าจะทานจนท้องอืด จะทานเท่าไรก็สิบอีแปะ”

อู๋จวิ้นซานเองก็รู้สึกตะลึงอยู่บ้าง “สิบอีแปะมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก แถมยังไม่จำกัดปริมานเช่นนี้ หากเปิดต่อไปจะมีกำไรรึ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ความหมายของบุฟเฟ่ต์ ก็คือหวังว่าเหล่าชาวเมืองจะได้อิ่มท้อง ไม่สำคัญว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน เพื่อปากท้องของชาวเมือง”

ท่านผู้เฒ่าอู๋จวิ้นซานประสานมือคารวะอย่างซาบซึ้งว่า “องค์ชายสิบสี่ช่างมีรักที่ยิ่งใหญ่นัก ไม่ว่าเมื่อไรก็คิดถึงชาวเมืองอยู่เสมอ ข้านับถืออย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านผู้เฒ่าชื่นชมเกินไปแล้ว วันนี้คือวันทดลองเปิดร้านของร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ลองไปลิ้มรสกันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไปด้วยกันเถิด”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วฉินเหยียนก็เดินนำพาเข้าไปในร้านอาหารไป ทุกคนเองก็เดินตามเข้าไปในร้านอาหาร

มีเรื่องในซุ่นชิ่งที่ต้องจัดการอีกมากมาย เมื่อไม่มีการกดขี่จากตระกูลซ่งแล้ว เหล่าชาวเมืองก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและมีความสุขในการดำเนินชีวิต ทิวทัศน์ของถนนทั้งสายเจริญรุ่งเรือง มันทั้งสงบสุขและรุ่งเรือง

มีหยินก็ต้องมีหยาง มีความมืดก็ต้องมีแสงสว่าง มีความดีก็ต้องมีความชั่ว

ในตรอกซอยลับๆที่หนึ่ง มีคนๆหนึ่งชี้ไปยังแผ่นหลังของฉินเหยียนที่กำลังเดินเข้าร้านอาหาร เขาออกคำสั่งว่า

“คนๆนั้น ฆ่ามันซะ มีรางวัลอย่างงาม!”

“ขอรับ!”

เหล่าคนชุดดำที่สวมผ้าปิดหน้าก้าวเดินอย่างระมัดระวัง พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ฉินเหยียนอยู่ทันที

ในร้านอาหาร

“คุ้มครองหลบหนี!”

เหล่าหญิงสาวตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก พวกนางยกมือขึ้นกุมศีรษะไปด้วยและเข็นท่านผู้เฒ่าอู๋จวิ้นซานไปด้วย เมื่อทำอะไรไม่ถูกจึงจะหนีออกจากร้านอาหารที่โกลาหลนี้

แต่พอนึกดูแล้ว ไม่ใช่สิ อ๋องเหยียนคือผู้มีพระคุณอันใหญ่หลวงที่เห็นค่าพวกนางเชียวนะ หากไม่มีอ๋องเหยียน ก็ไม่มีพวกนางในวันนี้ จากนั้นเหล่าหญิงสาวจึงกดกลั้นความหวาดกลัวในใจแล้ววิ่งกลับไปในห้อง เพื่อต่อสู้กับคนร้ายอย่างเอาเป็นเอาตาย

แม้แต่ท่านผู้เฒ่าอู๋จวิ้นซานที่ถูกเข็นมาเองก็รู้สึกร้อนรนไปหมด เขาเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายสิบสี่ พยายามลุกยืนขึ้นอย่างสั่นเทา คิดจะเข้าไปสู้ด้วยชีวิต

เมื่อทุกคนพากันวิ่งกลับมาแล้วก็พบว่าการต่อสู้ในห้องอาหารได้จบลงแล้ว ในห้องเละเทะไปหมด มีเศษโต๊ะเก้าอี้ที่แตกหักเต็มพื้น คนชุดดำนอนเกลื่อนกระจัดกระจาย กลิ้งไปมาอย่างเจ็บปวด

ส่วนฉินเหยียนก็กำลังดึงคอเสื้อของคนชุดดำแล้วทุบไปยังหน้าผากของคนๆนั้นอย่างรุนแรง เขาทุบไปพูดไปว่า

“กะอีแค่ความสามารถแค่นี้ ยังคิดจะฆ่าข้างั้นรึ!”

เซี่ยชิงโหดเหี้ยมยิ่งกว่า นางยกเก้าอี้ยาวขึ้นสูงแล้วทุบตีไปยังคนชุดดำที่นอนเลือดอาบอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ส่วนต้าหย่งก็คุ้มครองฉินเหยียนอยู่ข้างๆแล้วมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะมีศัตรูเข้ามาเล่นงานอีก

ทันใดนั้นเองเหล่าองครักษ์เงาก็ได้รีบเข้ามาคุ้มครอง ต้าหย่งรีบเดินไปเอาผิดว่า

“ทำอะไรของพวกเจ้า ปล่อยให้นักฆ่าเข้าประชิดตัวท่านอ๋องได้อย่างไร ทำงานอย่างไรกัน! กลับไปแล้วรับโทษไม้ทหารคนละสี่สิบที!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์