องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 379

เหล่าองครักษ์เงาได้รับข่าวแล้วก็ร้อนรนจนเหงื่อแตกไปหมด หากท่านอ๋องเกิดเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต จึงได้ประสานมือคารวะแล้วอธิบายว่า

“ที่หน้าประตูเมืองมีคดีความเสียชีวิตขอรับ พวกข้ากำลังจัดการคดีนั้นอยู่ พวกข้าทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ยินดีรับการลงโทษขอรับ!”

ฉินเหยียนหยุดการกระทำแล้วเงยหน้าถามขึ้นว่า “ใครตายรึ?”

องครักษ์ตอบกลับว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตระกูลซ่ง ถูกชาวเมืองทุบตีจนถึงแก่ชีวิตกลางถนนพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วคนชุดดำที่ถูกฉินเหยียนดึงคอเสื้อเอาไว้ก็เบิกตากว้างขึ้นทันที เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า

“ว่าอย่างไรนะ ท่านผู้อาวุโสตายแล้ว? เป็นไปไม่ได้!”

ฉินเหยียนก้มหน้าไปมองคนชุดดำที่หน้าบวมไปหมดและได้พูดยิ้มประชดว่า

“อ้าว คนจากตระกูลซ่ง ยังไม่ได้ถามก็แนะนำตัวแล้วรึ”

คนชุดดำกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ข้าบอกให้นะ ตระกูลซ่งไม่มีทางพ่ายแพ้ สักวันพวกเจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของคนตระกูลซ่ง......”

“ผัวะ!” ฉินเหยียนต่อยไปยังหน้าผากของคนๆนั้น คนชุดดำหมดสติไปทันที

ฉินเหยียนปล่อยมือแล้วตบฝุ่นในมือออก เขาพูดน้ำเสียงสบายๆว่า “มัดคนพวกนี้ให้หมด นำไปแสดงตัวต่อหน้าชาวเมือง”

ต้าหย่งประสานมือคารวะแล้วตอบกลับว่า “พ่ะย่ะค่ะ!”

เขาและเหล่าองครักษ์เงานำพวกคนชุดดำที่ปางตายมัดแล้วพาตัวไป

ฉินเหยียนเรียกองครักษ์หยุดแล้วถามขึ้นว่า “เรื่องการตายของผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลซ่งมันเป็นอย่างไร?”

องครักษ์เงาประสานมือคารวะพูดว่า “อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ เหตุเพราะผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลซ่งได้ทำลายใบประกาศ แถมยังด่าทอชาวเมืองอย่างโอหัง บอกว่าเป็นเพียงพวกชาวเมืองชั้นต่ำ ไม่มีทางได้เชิดหน้าชูตาไปตลอดกาล จึงกระตุ้นความโกรธของชาวเมือง และถูกชาวเมืองทุบตีจนตายกลางถนนพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนทำเสียงเย็นชาแล้วพูดว่า “กระต่ายที่จนมุมยังสามารถกัดคนได้ ตระกูลซ่งไม่มีวันเข้าใจความหมายนี้ สมน้ำหน้า”

ต้าหย่งได้นำเหล่าคนชุดดำไปยังบนถนนเพื่อแสดงตัวต่อชาวเมืองตามคำสั่งของฉินเหยียน

ทันทีที่ออกมาจากร้านอาหาร เหล่าชาวเมืองที่รอคอยอยู่นานก็รีบชูเครื่องมือทำนาขึ้นแล้วตะคอกว่า

“กะอีแค่สัตว์เดรัจฉานไม่กี่ตัวยังคิดจะสังหารท่านขุนนางมือสะอาดงั้นรึ ทุกคน ตีพวกมันให้ตาย!”

“ตีมัน!”

ต้าหย่งวิ่งไปอีกด้านอย่างรู้งาน ปล่อยให้เหล่าชาวเมืองทุบตีคนชุดดำตามอำเภอใจ

ฉินเหยียนพูดอย่างดีใจว่า “ในที่สุดก็รู้สึกตอบโต้แล้ว นี่สิจึงจะเป็นบุตรหลานของอาณาจักรฉิน ไม่ง่ายเลยจริงๆ! เก็บกวาดห้องหน่อย มาทานอาหารกันต่อดีกว่า!”

ทุกคนได้กินดื่มและพูดคุยกันจนเสร็จสิ้นแล้ว

ต้าหย่งได้กระซิบข้างหูของฉินเหยียน “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ จากที่ข้าน้อยได้ตรวจสอบมานั้น นักฆ่าไม่ได้มีเพียงกลุ่มนี้ ทั่วทั้งเขตซุ่นชิ่งยังมีนักฆ่าหลายกลุ่มที่แอบซ่อนตัวอยู่ บางทีรอบตัวของท่าน......”

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “รอบข้างของข้าเองก็มีพวกของตระกูลซ่งรึ?”

สีหน้าของต้าหย่งลำบากใจจนบูดเบี้ยวน่าเกลียด “อย่างไรเหล่าคนรับใช้หญิงก็เป็นคนรับใช้ของตระกูลซ่ง มันก็ไม่แน่พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนชี้นิ้วไปยังต้าหย่งแล้วพูดอย่างหยอกล้ออยู่บ้างว่า “เจ้านะเจ้า เอาตัวอย่างผิดๆ มีเรื่องอะไรก็ไม่พูดให้กระจ่าง ไปเอาอย่างใครมา?”

จ้าวจีเอ๋อร์ถามลองใจขึ้นมาอย่างระมัดระวังว่า “ได้ยินมาว่าวันนี้เมื่อกลางวันท่านอ๋องประสบการลอบสังหาร บาดเจ็บตรงไหนรึไม่เพคะ?”

“แคร้ง”

สิ้นเสียงของจ้าวจีเอ๋อร์แล้ว ก็มีคนในสิบสองปิ่นทองทำชุดแก้วชาหลุดมือตกลงพื้น

จ้าวจีเอ๋อร์ขมวดคิ้วแล้วเอาผิดว่า “เรียนรู้ระเบียบมานานเพียงนี้แล้ว เหตุใดจึงจะซุ่มซ่ามเช่นนี้?”

“หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”

เสี่ยวเยว่คุกเข่าลงกับพื้นอย่างร้อนรน นางเช็ดน้ำที่เปียกบนพื้น

ฉินเหยียนเห็นความตื่นตระหนกของเสี่ยวเยว่ และรู้สึกได้เลยว่านางตัวสั่นไปทั้งร่าง ฉินเหยียนกำลังคิดหนักว่าจะลากตัวหนอนบ่อนไส้ออกมาอย่างไรอยู่เลยเชียว สุดท้ายก็แสดงตัวออกมาเอง

พยายามหาแทบตายกลับไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจ กลับได้มาง่ายๆแบบคาดไม่ถึงเสียอย่างนั้น

ฉินเหยียนเห็นความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “ตีเอ๋อร์ ข้าจะบอกให้นะ วันนี้นักฆ่าที่จับกุมมาได้เผยว่ายังมีนักฆ่าอีกหลายกลุ่มที่แอบซ่อนตัวอยู่ เพื่อรอโอกาสโจมตี”

“พวกนางล้วนเป็นคนน่าสงสาร ครอบครัวถูกตระกูลซ่งคุมตัวเอาไว้ หากไม่ทำตามที่ตระกูลซ่งสั่งก็จะฆ่าปิดปาก บีบบังคับให้พวกนางกระทำ”

จ้าวจีเอ๋อร์สะดุ้ง “ท่านอ๋องตรัสว่ามันอยู่รอบกายรึเพคะ?”

“นักฆ่าที่ถูกจับของตระกูลซ่งว่ามาแบบนั้น ข้าไม่สนว่าจะจริงรึไม่ ขอพูดตรงๆเลยว่าไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร เพียงยอมมอบตัว ข้าจะเมตตากรุณา!”

หนึ่งในปิ่นทองเสี่ยวเยว่ตัวสะดุ้งโหยง รีบกราบกรานว่า “ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วยเพคะ ท่านอ๋องโปรดเมตตาด้วยเพคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์