องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 382

“รู้แจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จางอวิ๋นซูยืนขึ้นโค้งตัวคารวะ

ฉินเหยียนพูดต่อว่า “หอโคมเขียวเสมือนเป็นโรงเหล้าที่เตรียมรองรับนักวิชาการทั้งหลาย ปรัชญาการดำเนินการค้าคือการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมก่อน”

“ตัวอย่างเช่น หอโคมเขียวจะทำการตั้งโจทย์ทุกวัน เพื่อดึงดูดเหล่าผู้ร่ำเรียนหนังสือมาประชันความรู้กัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ตอบคำถามที่ทางหอโคมเขียวออกได้ ก็ได้จะรับสิบอีแปะเป็นรางวัล”

“จุดประสงค์คือเพื่อกระตุ้นวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้ชาวเมืองยกย่องบูชาผู้ร่ำเรียนหนังสือ และยังสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่านักเรียนมุมานะทำงานหนักเพื่อความเจริญรุ่งเรือง”

“ส่วนหอแดงนั้นจะเป็นสถานที่สำหรับให้ผู้คนได้สนุกสนานผ่อนคลาย ตรงนี้เจ้าน่าจะเข้าใจดี หากอยากทำกำไรมหาศาล จะขาดซ่องและการพนันไปไม่ได้ การบริหารก็ยังคงเป็นการจัดกิจกรรม ข้าได้ช่วยวางแผนเอาไว้แล้ว ลองไปดูสิ”

ฉินเหยียนยื่นกระดาษใบหนึ่งให้จางอวิ๋นซู บนกระดาษเขียนไว้ว่า ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทอง ความมั่งคั่งนี้ซ่อนอยู่ในหอแดง เพียงแค่เจ้าได้ลืมรหัสผ่านไป หากคุณต้องการได้รับรหัสผ่าน ทุกครั้งที่ลองจะต้องใช้ยี่สิบอีแปะ เจ้าอยากจะลองรึไม่?

“มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยรึ ข้าขอลองได้รึไม่?” จางอวิ๋นซูดีใจมาก นางถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น

ฉินเหยียนตบหน้าผากอย่างจนปัญญา หากนี่ไม่ใช่พี่สะใภ้เจ็ดของเขา แล้วตอนนี้ยังไม่มีใครที่ช่วยได้ เขาไม่มีทางเปลืองน้ำลายกับแม่นางซื่อบื้ออย่างจางอวิ๋นซูแน่

ด้วยความสิ้นหวัง ฉินเหยียนยังคงต้องอดทนต่อไป เขาสงบจิตสงบใจแล้วอธิบายว่า

“ท่านพี่สะใภ้ นี่คือคำขวัญเชิญชวน และเป็นรูปแบบการพนันที่ข้าออกแบบขึ้นมาเองด้วย ในเลขศูนย์ถึงเก้า เลือกมาเจ็ดหมายเลข และเก็บเป็นเวลาเจ็ดวัน”

“ในระหว่างนี้ตราบใดที่มีคนยอมจ่ายเงินยี่สิบอีแปะก็จะสามารถเลือกหมายเลขได้เจ็ดหมายเลข เพียงแค่พวกเขาสามารถเลือกได้ตรงทุกตัว ก็จะได้รางวัลหนึ่งหมื่นตำลึง นี่คือการพนันในรูปแบบหนึ่ง ความเป็นไปได้ที่จะได้รางวัลก็น้อยมาก”

จางอวิ๋นซูเข้าใจทันที และฟังฉินเหยียนอธิบายต่อ

“หอบุปผาเป็นสถานที่เพลิดเพลินกับการร้องและเต้นรำ เป็นการแสดงเดียวกัน ตกรางวัลให้ผู้แสดงหนึ่งร้อยอีแปะ ส่วนเราจะทำกำไรจากบัตรเข้างาน ของว่างและเครื่องดื่ม ”

“ลูกค้าเข้ามาดูการแสดง ใช้เงินซื้อตั๋วและอาหารเครื่องดื่ม เมื่อคำนวณแล้วก็เป็นเพียงสิบเปอร์เซ็นต์จากกำไร ยังคงจะได้กำไรที่มั่นคง เงินมีการหมุนเวียนไม่หยุดเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังสามารถสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของชาวเมืองได้ด้วย

เมื่อจางอวิ๋นซูฟังความคิดของฉินเหยียนจบแล้วก็รู้สึกตะลึงอย่างมาก นางพยักหน้าแล้วพูดว่า

“อวิ๋นซูรู้แจ้งแล้ว ได้รู้แจ้งมากมาย จะไปดำเนินการตามคำสั่งเดี๋ยวนี้”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็คำนับแล้ว ก็รีบพาผู้คนไปเตรียมการเรื่องเปิดร้านอย่างรอไม่ไหว

ด้วยความงามที่ไม่มีใครเทียบได้และพรสวรรค์ระดับพิเศษนี้ ตราบใดที่ได้ฝึกฝนอย่างดี จ้าวจีเอ๋อร์จะต้องเป็นประโยชน์อย่างมากแน่นอน ในที่สุดตอนนี้จ้าวจีเอ๋อร์ก็ทนไม่ไหวแล้ว เอ่ยปากขอขึ้นเองเช่นนี้ ฉินเหยียนเองก็สามารถใช้โอกาสนี้ได้

เขาพูดอย่างจริงจังว่า “พอเจ้าพูดเช่นนี้แล้วก็มีอยู่อย่างหนึ่งจริงๆที่ต้องการให้ช่วย เพียงแต่เรื่องนี้มันค่อนข้างจะยุ่งยาก ข้ากลัวว่าเจ้าจะทำไม่ได้!”

แววตาของจ้าวจีเอ๋อร์ประกายขึ้นทันที “ข้ายังไม่ได้ไปทำเลย รู้อย่างไรว่าข้าทำไม่ได้? เจ้าเพียงพูดมาว่ามันเป็นเรื่องอะไร!”

ฉินเหยียนพูดตรงๆว่า “เร็วๆ นี้เราจะดำเนินนโยบายคืนพื้นที่เพาะปลูกให้กับชาวเมือง ระบอบของอาณาจักรฉินคือสืบสันตติวงศ์ เจ้าของพื้นที่และทรัพย์สินมีอำนาจราวกับฮ่องเต้ การที่เราแย่งชิงพื้นที่จากเหล่าตระกูลขุนนางมา ก็เท่ากับการแย่งอาหารจากปากเสือ”

“ดังคำที่กล่าวว่าลูกน้องรับมือยากกว่าหัวหน้า เราได้แตะต้องรากฐานของแต่ละตระกูลใหญ่ พวกเขาจะต้องสู้เอาเป็นเอาตายกับเราแน่นอน ดังนั้นการจะดำเนินนโยบายการคืนผืนป่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เจ้าทำไม่ได้หรอก!”

“ข้าทำได้!” จ้าวจีเอ๋อร์โกรธทันทีและพูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าเป็นองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวเชียวนะ เจออุปสรรคขวากหนามมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพญายมหรือผีตัวไหนก็ไม่อาจขัดขวางข้าได้! หากเจ้าไม่เชื่อใจข้า งั้นเราก็ทำการให้คํามั่นสัญญาโดยการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎทหาร หากข้าทำไม่สำเร็จ ก็ลงโทษข้าได้ตามใจชอบเลย!”

แผนการของฉินเหยียนสำเร็จแล้วจึงได้ปรบมือแล้วพูดว่า “ได้ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจที่จะกระโจนเข้ามา งั้นข้าก็จะให้เจ้าจัดการเรื่องคืนผืนป่า เริ่มจากการคิดบัญชีก่อน จัดการกับพวกตระกูลใหญ่อย่างเด็ดขาด”

“ท่านอ๋องคอยดูเถิด จีเอ๋อร์จะไปจัดการเดี๋ยวนี้ รับรองว่าจะไม่ทำให้ต้องผิดหวัง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์