“รู้แจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จางอวิ๋นซูยืนขึ้นโค้งตัวคารวะ
ฉินเหยียนพูดต่อว่า “หอโคมเขียวเสมือนเป็นโรงเหล้าที่เตรียมรองรับนักวิชาการทั้งหลาย ปรัชญาการดำเนินการค้าคือการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมก่อน”
“ตัวอย่างเช่น หอโคมเขียวจะทำการตั้งโจทย์ทุกวัน เพื่อดึงดูดเหล่าผู้ร่ำเรียนหนังสือมาประชันความรู้กัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ตอบคำถามที่ทางหอโคมเขียวออกได้ ก็ได้จะรับสิบอีแปะเป็นรางวัล”
“จุดประสงค์คือเพื่อกระตุ้นวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้ชาวเมืองยกย่องบูชาผู้ร่ำเรียนหนังสือ และยังสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่านักเรียนมุมานะทำงานหนักเพื่อความเจริญรุ่งเรือง”
“ส่วนหอแดงนั้นจะเป็นสถานที่สำหรับให้ผู้คนได้สนุกสนานผ่อนคลาย ตรงนี้เจ้าน่าจะเข้าใจดี หากอยากทำกำไรมหาศาล จะขาดซ่องและการพนันไปไม่ได้ การบริหารก็ยังคงเป็นการจัดกิจกรรม ข้าได้ช่วยวางแผนเอาไว้แล้ว ลองไปดูสิ”
ฉินเหยียนยื่นกระดาษใบหนึ่งให้จางอวิ๋นซู บนกระดาษเขียนไว้ว่า ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทอง ความมั่งคั่งนี้ซ่อนอยู่ในหอแดง เพียงแค่เจ้าได้ลืมรหัสผ่านไป หากคุณต้องการได้รับรหัสผ่าน ทุกครั้งที่ลองจะต้องใช้ยี่สิบอีแปะ เจ้าอยากจะลองรึไม่?
“มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยรึ ข้าขอลองได้รึไม่?” จางอวิ๋นซูดีใจมาก นางถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น
ฉินเหยียนตบหน้าผากอย่างจนปัญญา หากนี่ไม่ใช่พี่สะใภ้เจ็ดของเขา แล้วตอนนี้ยังไม่มีใครที่ช่วยได้ เขาไม่มีทางเปลืองน้ำลายกับแม่นางซื่อบื้ออย่างจางอวิ๋นซูแน่
ด้วยความสิ้นหวัง ฉินเหยียนยังคงต้องอดทนต่อไป เขาสงบจิตสงบใจแล้วอธิบายว่า
“ท่านพี่สะใภ้ นี่คือคำขวัญเชิญชวน และเป็นรูปแบบการพนันที่ข้าออกแบบขึ้นมาเองด้วย ในเลขศูนย์ถึงเก้า เลือกมาเจ็ดหมายเลข และเก็บเป็นเวลาเจ็ดวัน”
“ในระหว่างนี้ตราบใดที่มีคนยอมจ่ายเงินยี่สิบอีแปะก็จะสามารถเลือกหมายเลขได้เจ็ดหมายเลข เพียงแค่พวกเขาสามารถเลือกได้ตรงทุกตัว ก็จะได้รางวัลหนึ่งหมื่นตำลึง นี่คือการพนันในรูปแบบหนึ่ง ความเป็นไปได้ที่จะได้รางวัลก็น้อยมาก”
จางอวิ๋นซูเข้าใจทันที และฟังฉินเหยียนอธิบายต่อ
“หอบุปผาเป็นสถานที่เพลิดเพลินกับการร้องและเต้นรำ เป็นการแสดงเดียวกัน ตกรางวัลให้ผู้แสดงหนึ่งร้อยอีแปะ ส่วนเราจะทำกำไรจากบัตรเข้างาน ของว่างและเครื่องดื่ม ”
“ลูกค้าเข้ามาดูการแสดง ใช้เงินซื้อตั๋วและอาหารเครื่องดื่ม เมื่อคำนวณแล้วก็เป็นเพียงสิบเปอร์เซ็นต์จากกำไร ยังคงจะได้กำไรที่มั่นคง เงินมีการหมุนเวียนไม่หยุดเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังสามารถสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของชาวเมืองได้ด้วย
เมื่อจางอวิ๋นซูฟังความคิดของฉินเหยียนจบแล้วก็รู้สึกตะลึงอย่างมาก นางพยักหน้าแล้วพูดว่า
“อวิ๋นซูรู้แจ้งแล้ว ได้รู้แจ้งมากมาย จะไปดำเนินการตามคำสั่งเดี๋ยวนี้”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็คำนับแล้ว ก็รีบพาผู้คนไปเตรียมการเรื่องเปิดร้านอย่างรอไม่ไหว
ด้วยความงามที่ไม่มีใครเทียบได้และพรสวรรค์ระดับพิเศษนี้ ตราบใดที่ได้ฝึกฝนอย่างดี จ้าวจีเอ๋อร์จะต้องเป็นประโยชน์อย่างมากแน่นอน ในที่สุดตอนนี้จ้าวจีเอ๋อร์ก็ทนไม่ไหวแล้ว เอ่ยปากขอขึ้นเองเช่นนี้ ฉินเหยียนเองก็สามารถใช้โอกาสนี้ได้
เขาพูดอย่างจริงจังว่า “พอเจ้าพูดเช่นนี้แล้วก็มีอยู่อย่างหนึ่งจริงๆที่ต้องการให้ช่วย เพียงแต่เรื่องนี้มันค่อนข้างจะยุ่งยาก ข้ากลัวว่าเจ้าจะทำไม่ได้!”
แววตาของจ้าวจีเอ๋อร์ประกายขึ้นทันที “ข้ายังไม่ได้ไปทำเลย รู้อย่างไรว่าข้าทำไม่ได้? เจ้าเพียงพูดมาว่ามันเป็นเรื่องอะไร!”
ฉินเหยียนพูดตรงๆว่า “เร็วๆ นี้เราจะดำเนินนโยบายคืนพื้นที่เพาะปลูกให้กับชาวเมือง ระบอบของอาณาจักรฉินคือสืบสันตติวงศ์ เจ้าของพื้นที่และทรัพย์สินมีอำนาจราวกับฮ่องเต้ การที่เราแย่งชิงพื้นที่จากเหล่าตระกูลขุนนางมา ก็เท่ากับการแย่งอาหารจากปากเสือ”
“ดังคำที่กล่าวว่าลูกน้องรับมือยากกว่าหัวหน้า เราได้แตะต้องรากฐานของแต่ละตระกูลใหญ่ พวกเขาจะต้องสู้เอาเป็นเอาตายกับเราแน่นอน ดังนั้นการจะดำเนินนโยบายการคืนผืนป่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เจ้าทำไม่ได้หรอก!”
“ข้าทำได้!” จ้าวจีเอ๋อร์โกรธทันทีและพูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าเป็นองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวเชียวนะ เจออุปสรรคขวากหนามมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพญายมหรือผีตัวไหนก็ไม่อาจขัดขวางข้าได้! หากเจ้าไม่เชื่อใจข้า งั้นเราก็ทำการให้คํามั่นสัญญาโดยการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎทหาร หากข้าทำไม่สำเร็จ ก็ลงโทษข้าได้ตามใจชอบเลย!”
แผนการของฉินเหยียนสำเร็จแล้วจึงได้ปรบมือแล้วพูดว่า “ได้ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจที่จะกระโจนเข้ามา งั้นข้าก็จะให้เจ้าจัดการเรื่องคืนผืนป่า เริ่มจากการคิดบัญชีก่อน จัดการกับพวกตระกูลใหญ่อย่างเด็ดขาด”
“ท่านอ๋องคอยดูเถิด จีเอ๋อร์จะไปจัดการเดี๋ยวนี้ รับรองว่าจะไม่ทำให้ต้องผิดหวัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...