หอหม่านฮวา
เมื่อหลิวเชียนเชียนกลับมาแล้วก็รีบเรียกหลี่ชางมาซักถามทันที
หลี่ชางคำนับอย่างเคารพแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าผู้จัดการหลิวมีรับสั่งอะไรรึขอรับ?”
หลิวเชียนเชียนลูบจี้หยกในมือแล้วพูดตรงประเด็นว่า “ที่ให้เจ้าอยู่ในหอหม่านฮวา ก็เพราะรอเวลานี้อยู่ ต่อไปข้าจะส่งเจ้าเข้าไปในพระราชวัง ให้เจ้าได้พบกับป้าของเจ้า แต่ว่าเมื่อเข้าวังแล้ว เจ้าจะต้องช่วยอะไรข้าสักอย่าง เจ้ายินยอมรึไม่?”
เมื่อหลี่ชางได้ยินว่าจะได้พบกับคนในครอบครัวเพียงคนเดียวในตระกูลหลี่ ดวงตาของก็มีน้ำตาระรื้นออกมาทันที เขาก้มมืออย่างเคร่งขรึมแล้วพูดว่า
“ขอเพียงได้พบท่านป้า ไม่ว่าผู้จัดการหลิวจะรับสั่งอะไร ข้าจะปฏิบัติตามทุกอย่าง!”
หลิวเพียนเพียนพูดอย่างพอใจว่า “ต่อไป เจ้าจงฟังคำสั่งของข้า ทหาร มานำสิ่งนี้ส่งไปยังพระราชวังอาณาจักรจ้าวหน่อย จะต้องส่งไปถึงมือของพระสนมหลี่ให้ได้”
“ขอรับ!”
องครักษ์เงารับจี้หยกมาแล้วออกไปปฏิบัติทันที
หลังจากจัดการและส่งมอบหลายมือ ในที่สุดจี้หยกก็ถูกส่งไปยังพระสนมหลี่อย่างราบรื่น เมื่อพระสนมหลี่เห็นก็รู้ทันทีว่าหยกนี้เป็นสิ่งที่จ้าวจวินมอบให้นางในตอนที่เข้าวังปีแรก ตอนนั้นพี่ชายเข้าวังมาเยี่ยมนาง นางเป็นคนมอบจี้หยกนี้ให้กับมือ ไม่รู้ว่าทางตระกูลให้คนมาส่งจี้หยกนี้เพราะอะไร นางถามนางกำนัลที่ส่งสารมาให้อย่างงุนงง
“นอกจากจี้หยกนี้แล้ว ทางตระกูลของข้าส่งสารอะไรอีกรึไม่?”
นางกำนัลผู้ส่งสารย่อตัวแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าญาติของพระสนมจะมานะเพคะ”
เมื่อพูดดังนั้นแล้ว หลี่ชางก็ถูกพาเข้ามา ทันทีที่พบพระสนมหลี่ เขาก็ไม่อาจกดเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้อีก เขาคุกเข่าลงกับพื้นข้างๆขาของพระสนมหลี่ แล้วพูดด้วยเสียงสั่นคลอนทั้งน้ำตาว่า
“ท่านป้า!”
เมื่อพระสนมหลี่เห็นเด็กน้อยที่สวมเสื้อผ้ามอมแมม ว่าเป็นหลานชายหลี่ชางของนางก็พูดอย่างตะลึงว่า
“ชางเอ๋อร์? เจ้ามาได้อย่างไร รีบลุกขึ้นมาเถิด”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็รีบเข้าไปพยุงหลี่ชางที่กำลังร้องไห้มานั่งบนเก้าอี้ แล้วถามอย่างใจเย็นว่า
“ชางเอ๋อร์ ไม่ร้องนะ โศกเศร้าอะไรมาบอกป้ามา”
หลี่ชางได้เล่าให้พระสนมฟังอย่างละเอียดทุกเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเขาถูกฆาตกรรม ว่าแม่ของเขาเสียชีวิตอย่างอนาถต่อหน้าเขาอย่างไร และเขารอดพ้นจากอันตรายและมาอยู่ในจุดที่เขาอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร
“ปัง” พระสนมหลี่ตบโต๊ะเสียงดัง แล้วพูดอย่างเดือดดาลว่า
“บังอาจนัก! จ้าวฉี่หมิงบังอาจทำร้ายตระกูลของข้า ฆ่าท่านพ่อของข้า ทำร้ายพี่น้องของข้า แค้นนี้......จะอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันไม่ได้อีกแล้ว!”
หลิวเชียนเชียนมองหีบเครื่องประดับมีค่าแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า
“อย่างไรก็เป็นถึงพระสนมในวัง ช่างใจกว้างยิ่งนัก เครื่องประดับมีค่าเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็สามารถแลกสองหมื่นตำลึงทองได้เลยนะ”
จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับเฉินหย้วนหย้วนว่า “เจ้านำเครื่องประดับมีค่าพวกนี้เข้าไปวังไปด้วยเถิด จำไว้เอาแต่งตัวให้งดงามด้วยล่ะ”
เฉินหย้วนหย้วนคำนับอย่างเคารพแล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ จะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
......
เมืองหลวงอาณาจักรจ้าว สวนดอกไม้หลังตำหนัก
เฉินหย้วนหย้วนสวมชุดหรูหรา และเดินทางมาพบพระสนมหลี่โดยมีนางกำนัลเสี่ยวชุ่ยนำทาง
“หม่อมฉันเข้าพบพระสนมหลี่เพคะ”
ทันทีที่พระสนมหลี่เห็นเฉินหย้วนหย้วนก็ถูกความงามของนางทำให้ตกตะลึง ช่างงดงามจนหาเปรียบไม่ได้ เป็นใบหน้ารูปลักษณ์ที่เหล่าหญิงสามจะต้องพากันอิจฉาริษยากันแน่นอน
พระสนมหลี่สงบอารมณ์แล้ววางมาดของพระสนม แล้วพูดว่า “เจ้ารู้รึไม่ ว่าข้าเลือกเจ้าเข้าพระราชวังด้วยเหตุอันใด?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...