องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 450

ทั้งสองเดินเข้าไปตามๆกัน เมื่อลงไปแล้วก็เลี้ยวหลายรอบจนกระทั่งหลินเย้าจู้มึนงงไปหมด จึงจะมาถึงชั้นล่างสุด

มีคบเพลิงมากมายและการรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดเช่นกัน มีคนรับคบเพลิงไปแล้วเตือนขึ้นว่า

“ด้านในนี้ห้ามใช้ไฟ จะเข้าไปรึไม่?”

“ใช่”

เขาหลบทางแล้วเปิดประตูเหล็กเผยให้เห็นพื้นที่อันกว้างใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งที่ไม่ได้จุดไฟ แต่ด้านในกลับสว่างอย่างมาก เครื่องจักรบางส่วน กลไกฟันเฟืองกำลังทำงานอยู่ แถมยังมีไอน้ำปะทุด้วย

ต้าหย่งเดินนำเข้าในด้านใน

หลินเย้าจู้เดินไปแล้วมองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ ผนังมีกระจกเคลือบหลายบาน แสงหักเหนั้นทำให้พื้นที่นี้สว่างจนแทบจะเหมือนในเวลากลางวัน

“ที่นี่คือที่ใด?” หลินเย้าจู้หมุนไปรอบอยู่กับที่ ทุกสิ่งที่นี่เปิดโลกทัศน์ของเขามาก

“ท่านอ๋องทรงตั้งชื่อที่นี่ว่าสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ แต่ข้าไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรกันแน่”

สายตาของหลินเย้าจู้มองไปยังภาพแผนที่รูปใหญ่ แล้วถามขึ้นอย่างสับสนว่า

“แผนที่นี้ เป็นแผนที่ของเก้าทวีปรึขอรับ?”

ต้าหย่งมองไปแล้วพูดว่า “เป็นแผนที่ของเก้าทวีปจริง เพียงแต่มันยังไม่สมบูรณ์ แผนที่ยังคงได้รับการเปลี่ยนใหม่อยู่ตลอด อย่างไรวิสาหกิจก็ต้องใช้สิ่งนี้”

หลินเย้าจู้มองแผนที่เกาทวีปอย่างตะลึง เขาคิดว่าบ้านเกิดของเขาซุ่นชิ่งก็ใหญ่มากพอแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเทียบกับเก้าทวีปแล้ว ดินแดนอาณาจักรฉินก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไร

“น่าตะลึงเสียจริง”

ต้าหย่งไปยืนอยู่ข้างตู้แล้วพูดว่า “ตรงนี้มีรูปภาพอยู่มากมาย พวกข้าดูไม่รู้เรื่อง ข้าคิดว่าที่ท่านอ๋องพาเจ้ามาที่นี่ อาจเพราะต้องการให้เจ้าวิจัยภาพเหล่านี้”

หลินเย้าจู้เดินไปข้างตู้แล้วหยิบภาพออกมาภาพหนึ่ง แล้วเปิดดู

“พลังกังหันน้ำอาศัยการไหลของน้ำเพื่อสร้างพลังงานและขับเคลื่อนเครื่องจักรให้ทำงาน นี่มัน... ล้ำหน้าเกินไปแล้ว”

หลินเย้าจู้รู้สึกสนุกสนานขึ้นมาทันที ทำให้เขาเข้าใจทันที

แล้วจึงหยิบภาพต่อไปมา “ภาพพลังงานลม พระเจ้า เหตุใดข้าจึงนึกไม่ถึงเลยนะว่าสามารถใช้แรงลมเพื่อให้ฟันเฟืองทำงานได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ล้อเคลื่อนที่ได้แล้ว ข้าช่างโง่เขลานัก”

และภาพที่สาม “ปืนไฟ? นี่คืออะไร?”

......

บนรถม้านอกฐานลับ

ผู้ใต้บังคับบัญชาคุกเข่าทำความเคารพฉินเหยียน ฉินเหยียนบิดขี้เกียจ

ขณะนั้นเองก็มีผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานอย่างรวดเร็วว่า

“รายงานพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน มีจดหมายนกพิราบพ่ะย่ะค่ะ”

จดหมายลับถูกส่งให้ฉินเหยียน เมื่อเปิดดูแล้วสีหน้าของเขาก็หนักใจ

“ทางอู๋ซานกุ่ยเป็นอย่างไรบ้าง”

ด้วยแผนการของฉินเหยียน เมื่ออู๋ซานกุ่ยได้รู้ว่าหญิงอันเป็นที่รักถูกเรียกเข้าวังหลังแล้ว เขาจะต้องโกรธเกรี้ยวแล้วหักหลังจึงจะถูก แต่อู๋ซานกุ่ยกลับยังไม่เคลื่อนทัพเลย เขาไม่ไปที่อวิ๋นเฉิง และไม่ทำการทรยศ กองทัพไม่เคลื่อนที่ แช่อยู่แบบนี้ทำไมกันนะ?

ฉินเหยียนลูบคาง ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ออกทำให้เขาปวดศีรษะอย่างมาก เขาไม่เข้าใจเลย

“ถูกแย่งเมียแบบนี้แล้วยังทนได้อีกนะ อุตส่าห์คิดใคร่ครวญตั้งนาน ไม่คิดเลยว่าอู๋ซานกุ่ยจะปอดแหกขนาดนี้ ข้าประเมินเขาสูงไปจริงๆ”

สถานการณ์เร่งด่วนจึงรีบออกคำสั่งให้แม่ทัพสือเลื่อนแผนการต่อกรกับไท่ฟู่ก่อน อู๋ซานกุ่ยไม่ยอมเคลื่อนทัพ แผนการจะดำเนินการเช่นเดิมไม่ได้ แผนการดีๆเช่นนี้จะปล่อยให้สูญเปล่าเพราะอู๋ซานกุ่ยไม่ได้

“เขียนจดหมายอีกหนึ่งฉบับ ให้เหล่าไส้ศึกคิดหาวิธีสาดเกลือลงบนบาดแผลอู๋ซานกุ่ย ถ้าเขาไม่กบฏก็บีบให้เขาต้องกบฏซะ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

จดหมายนกพิราบมาถึงใกล้ชายแดนอวิ๋นเฉิงในไม่ช้า เมื่อแม่ทัพสือได้รับคำสั่งจากอ๋องเหยียนแล้ว จึงต้องหยุดแผนการไปก่อน และเริ่มปฏิบัติการทำให้สถานการณ์ของอู๋ซานกุ่ยเลวร้ายยิ่งขึ้น เขาเขียนจดหมายเองกับมือ โดยให้คนที่แทรกซึมไปคอยใส่ไฟ