“ไท่ฟู่แปรพักตร์หรือ?”
รูม่านตาขององค์ชายใหญ่ฉินชงหดตัวและกลับมาเป็นปกติอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะรู้อยุ่แก่ใจว่าไท่ฟู่มีเจตนาคิดกบฏ แต่เขากลับลงมือทำในช่วงเวลานี้ได้อย่างไรกัน การที่ทำเช่นนี้มิได้ทำให้เหตุการณ์ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นหรือ?
แม่ทัพจากหนึ่งในสิบตระกูลขุนนางพูดคุยกัน
“ไม่มีทางหรอก?”
“เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”
“มีความเป็นไปได้อย่างมาก ไท่ฟู่ซ่งฉางชิงจิ้งจอกเฒ่าคนนี้ เขาไม่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มการโจมตีเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุนมาตั้งแต่แรก แต่เขากลับรอช่วงเวลานี้ เป็นการวางแผนที่ดีจริงๆ!”
เมื่อพิจารณาจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เมืองอวิ๋นเฉิงเป็นสมรภูมิสำหรับนักยุทธศาสตร์ทางการทหาร
ทางเหนือของเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุนคือที่ราบ ทางทิศตะวันออกเป็นประตูซานเซี่ย เพียงแค่ช่องทางของแม่น้ำหวงเหอ อาณาจักรจ้าวก็อยู่ไม่ไกล
ตอนนี้ไท่ฟู่ยึดเมืองอวิ๋นเฉิงแล้ว โดยอาศัยจากภูมิประเทศที่ป้องกันง่าย แต่โจมตียาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สถานการณ์จะได้เป็นผลดีต่ออาณาจักรฉินแน่
ไม่รอคำสั่งจากองค์ชายใหญ่ฉินชง บรรดาขุนนางจากทั้งสิบตระกูลทนความสับสนในใจไม่ได้อีกต่อไป สั่งการให้ส่งกองทัพไปยังเมืองอวิ๋นเฉิงเพื่อค้นหาว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นกันแน่
และไม่แปลกใจเลยที่กองกำลังของขุนนางจากทั้งสิบตระกูลนั้นจะตายด้วยน้ำมือของกองทัพส่วนตัวของตระกูลซ่งที่ซุ่มยิงธนูจากบนกำแพงเมืองก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปในเมืองเสียด้วยซ้ำ
จนเช้าวันรุ่งขึ้น กองทัพทหารส่วนตัวของตระกูลขุนนางที่ส่งออกไปได้รับบาดเจ็บหนัก เหตุนี้ทำให้ตระกูลขุนนางที่รอข่าวมาทั้งคืนกลับต้องตกใจและวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก
“ตระกูลซ่งคิดกบฏจริงๆ น่าขยะแขยงมาก!”
“ข้าอยากเขียนจดหมายรายงานต่อฝ่าบาทให้กวาดล้างตระกูลซ่งให้สิ้นซาก!”
ในเวลานี้ท่าทีขององค์ชายใหญ่ฉินชงเปลี่ยนไปอย่างมาก ค่ายกองทัพอาณาจักรฉินอยู่ห่างจากอวิ๋นเฉิงเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น
หากอวิ๋นเฉิงถูกไท่ฟู่ยึดครองได้จริงๆ สถานการณ์นี้จะเป็นอันตรายต่ออาณาจักรฉินเป็นอย่างมาก เขาไม่มีทางอธิบายเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อของเขาฟังได้
หลังจากที่ฉินชงคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาออกคำสั่ง
“กองทัพทั้งหมดฟังคำสั่งข้า เคลื่อนทัพไปด้านหน้าเมืองอวิ๋นเฉิง!”
“ขอรับ!”
บรรดาองค์ชายจากตระกูลใหญ่และกองทัพที่นำโดยฉินชงเดินทัพไปยังเมืองอวิ๋นเฉิงด้วยท่าทีที่แข็งแกร่ง
สามชั่วโมงต่อมา
กองทัพอาณาจักรฉินเข้ามาใกล้เมือง จำเป็นต้องรบชนะภายในครั้งเดียว
ฉินชงที่นั่งในตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุด มีธงโบกสะบัดอยู่รอบเขา และบรรดาแม่ทัพต่างขี่ม้าเข้ามาเพื่อเจรจา
ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยลี้ ลูกธนูจำนวนมากพุ่งออกมาไม่ขาดสาย
“ปึกๆๆๆ”
ลูกธนูตกลงบนพื้น โชคดีที่ระยะยังไม่ใกล้พอ
“ให้ตายเถอะ กงอทัพตระกูลซ่งตาบอดหรือไร? พวกเราเป็นพวกเดียวกัน!”
บรรดาแม่ทัพต่างพูดออกมาด้วยความโกรธ
กองทัพตระกูลซ่งชูธงให้สูงขึ้นและแสดงพลังของเขา
“ไท่ฟู่มีคำสั่งว่า หากไม่ใช่คนของตระกูลซ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร จะมาจากอาณาจักรจ้าวหรืออาณาจักรฉิน หากเข้าใกล้เมืองอวิ๋นเฉิงให้ฆ่าได้เลยทันที!”
เมื่อบรรดาแม่ทัพได้ยินประโยคนี้ พวกเขาพลันโกรธมาก หากองค์ชายใหญ่มิได้มีรับสั่งว่าให้ต่อสู้กันอย่างสุภาพ เขาคงจะฆ่าพวกกบฏเหล่านี้ให้ตายคามือไปแล้วจริงๆ
เขาระงับความโกรธและพูดเสียงดัง
“ให้ไท่ฟู่ ซ่งฉางชิงออกมาพูดเอง!”
“เจ้าไม่คู่ควร หากเจ้าต้องการพบผู้นำตระกูลข้า ให้องค์ชายใหญ่ฉินชงเข้ามาเจรจาเป็นการส่วนตัว พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!”
คำพูดจากทหารบนกำแพง ถูกส่งต่อมาให้องค์ชายใหญ่ฉินชงอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินชงรู้สึกโกรธมาก
สิ้นคำพูด
บนกำแพงเมืองเห็นกองทัพตระกูลซ่งจับตัวองค์ชายแปด ฉินอู่ พร้อมกับจ่อมีดไปที่คอ
“คำสั่งของไท่ฟู่ ให้อาณาจักรฉินถอนกำลังออกไปทันที มิฉะนั้นองค์ชายแปดจะต้องตาย!”
ในเวลานี้ องค์ชายแปดไม่เหลือคราบองค์ชายที่ชาญฉลาดอีกต่อไป อีกทั้งตะโกนออกมาด้วยความกลัว
“ท่านพี่! รีบมาช่วยข้าเถิด! ข้ายังไม่อยากตาย!”
ฉินชงโกรธมากขึ้นทันที แม้ว่าเขากับองค์ชายแปดจะไม่ลงรอยกัน แต่พวกเขาก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่ดี เขาจะให้น้องชายตายด้วยเงื้อมมือศัตรูได้อย่างไร
หากเขาทำเช่นนั้นจริงๆ เสด็จพ่อก็คงไม่มีวันให้อภัยเขาแน่!
ฉินชงเงยหน้าขึ้น ขี่ม้าไปด้านหน้า
“ไท่ฟู่! ท่านเป็นถึงอาจารย์ของเสด็จพ่อ เจ้าคิดอยากจะทรยศและกลายเป็นคนผิดบาปไปชั่วชีวิตอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อกองทัพตระกูลซ่งเห็นว่าฉินชงมาคนเดียวจริงๆ เขาก็ตะโกนออกไป
“สมกับที่เป็นองค์ชายใหญ่ มีความกล้าหาญยิ่งนัก!”
สายตาของฉินชงจ้องเขม่งในทันที เขาพูดอย่างเย็นชา
“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ให้ไท่ฟู่ออกมาเผชิญหน้ากับข้า!”
กองทัพตระกูลซ่งหัวเราะเยาะ
“เจ้าน่ะหรือ ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ”
“เจ้า!”
ฉินชงจ้องไปที่กองทัพตระกูลซ่งด้วยความโกรธ จากนั้นได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้นมาว่า
“เจ้าฟังให้ดี ไท่ฟู่บอกว่า ถ้าหากไม่อยากให้องค์ชายแปดต้องตายแล้วล่ะก็ กลับไปบอกฮ่องเต้ฉินเสียว่าให้ยกตำแหน่งข้าราชการทั้งหมดให้แก่ตระกูลซ่งในทันที และประกาศให้เมืองอวิ๋นเฉิงเป็นพื้นที่ศักดินาของตระกูลซ่ง มิฉะนั้นจะไม่มีการเจรจาอะไรกันทั้งสิ้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...