ฟางเจาจวินถามด้วยความประหลาดใจ
“แต่สถานะข้าในตอนนี้เป็นนางทาส สามารถเขียนใบทะเบียนสมรสได้หรือเจ้าคะ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจัง
“ข้าให้เจ้าเขียน เจ้าก็เขียนเถิด”
พูดเช่นนี้ เขาได้เตรียมสมบัติทั้งสี่ในห้องหนังสืออกมาให้ฟางเจาจวินอย่างใจกว้าง
ฟางเจาจวินหยิบพู่กันและกระดาษออกมา จากนั้นมองไปที่ต้าหย่ง
ต้าหย่งพยักหน้าอย่างหนักแน่น จากนั้นฟางเจาจวินหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนใบทะเบียนสมรสลงบนกระดาษสีแดง
หลังจากที่เขียนใบทะเบียนสมรสเสร็จแล้ว โดยมีฉินเหยียนเป็นพยาน ทั้งสองได้ลงนามและประทับลายนิ้วมือสีแดงเอาไว้ด้วย
ฉินเหยียนหยิบทะเบียนสมรสขึ้นมาแล้วพูดอย่างจริงจัง
“วันนี้ข้าเป็นสักขีพยานให้พวกเจ้าทั้งสองว่าพวกเจ้าจะรักกันตลอดไป ต่อจากนี้จะเป็นวันที่พวกเจ้ามีความสุข ข้าจะจัดงานแต่งงานให้พวกเจ้าทั้งสองเอง”
ต้าหย่งรู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ้มกว้างเกือบจะถึงใบหู เขาคุกเข่าลงขอบคุณอย่างรวดเร็ว
“ขอบพระทัยอ๋องเหยียนขอรับ!”
ฟางเจาจวินโค้งคำนับทำความเคารพเช่นกัน
“ขอบพระทับอ๋องเหยียนเพคะ”
ฉินเหยียนนำใบขายตัวของฟางเจาจวินออกมา
“ต้าหย่ง ภรรยาของเจ้าเป็นทาสไม่ได้แล้ว สิ่งนี้ถือว่าเป็นโมฆะ”
“แควก”
เขาฉีกสัญญาทาสทิ้ง แล้วโยนขึ้นท้องฟ้า
ฟางเจาจวินตื่นตกใจ
“หากไม่นับ เช่นนั้นเสบียงอาหารที่ให้แก่ตระกูลข้าล่ะเจ้าคะ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างใจกว้าง
“เสบียงอาหารที่ข้ามอบให้ถือว่าเป็นสินสอดของหมั้นให้แก่เจ้า ก่อนออกเดินทาง ต้าหย่ง เจ้าควรส่งเสบียงอาหารไปอีกห้าสิบโตวแก้ตระกูลฟาง ถึงแม้ว่าเราจะมีอาหารไม่มากนัก แต่สินสอดของหมั้นก็ไม่ควรให้น้อยเช่นนั้น”
ต้าหย่งยื่นมือทำความเคารพอย่างซาบซึ้ง
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ ขอบพระทัยอ๋องเหยียนเป็นอย่างมากขอรับ!”
ดวงตาของฟางเจาจวินเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ในตอนแรกนางคิดว่าการที่นางยอมมาเป็นทาสให้แก่ชาวอาณาจักรฉิน นางจะต้องใช้ชีวิตต่ำต้อยด้อยค่าไปตลอดชีวิต แต่นี่ไม่เพียงแต่ไม่ขุมนรกเท่านั้น แต่ยังทำให้นางได้ศักดิ์ศรีกลับมา
ในเวลานี้ ใจของนนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นางคุกเข่าลงและคำนับ
“ข้า ฟางเจาจวิน ขอบพระทัยอ๋องเหยียนเป็นอย่างมากเพคะ!”
ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“รีบลุกขึ้นมาเถิด หลังจากนี้เจ้าถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันกับข้าแล้ว ไม่ต้องเกรงใจกัน นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้ารีบไปจัดการธุระเถิด!”
เมื่อพวกเขาทั้งสองได้ยินเช่นนั้น หน้าพลันแดงก่ำ
หลังจากที่ต้าหย่งดึงฟางเจาจวินขึ้นมา พวกเขาทั้งสองก็ออกไป
หลังจากกลับมาที่ค่ายทหาร ฟางเจาจวินก็ทำหน้าที่ศรีภรรยา ช่วยต้าหย่งถอดเสื้อผ้า
ต้าหย่งจับมือนางแล้วพูดว่า
“ข้าขอพูดความจริงกับเจ้า ความจริงแล้วข้าไม่ใช่คนคุ้มกันสินค้า ข้าเป็นทหารแห่งอาณาจักรฉิน อีกทั้งยังเป็นรองผู้บัญชาการฝ่ายองครักษ์ระดับสอง”
ในความเป็นจริง ฟางเจาจวินสามารถจับสังเกตได้จากรองเท้าที่พวกเขาสวมใส่ แต่นางไม่คาดคิดว่าต้าหย่งจะเป็นทหารระดับสูง อย่างเช่นระดับสองเลยแม้แต่น้อย!
นางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ก้มหน้าลงและพูดว่า
“ท่านใต้เท้ารังเกียจข้าหรือไม่เจ้าคะ?”
ต้าหย่งรีบส่ายหัว
“จะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าไม่รังเกียจข้า ข้าจะรังเกียจเจ้าได้อย่างไรกัน”
ทหารม้าเสือดาวขับรรถม้าและมุ่งหน้าเข้าเมืองในทันทีด้วยท่าทีที่แข็งแกร่ง พวกเขาได้จัดตั้งโรงยาและโรงทานโจ๊กขึ้นบนถนนสายหลัก
หลังจากที่หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงได้เตรียมอาวุธครบมือแล้ว พวกนางก็เริ่มแยกกันไปควบคุมโรคระบาดในเมือง
ต้าหย่งทำตามคำแนะนำของอ๋องเหยียนและเตรียมกล่องสมบัติทำจากไม้ขนาดใหญ่จำนวนสิบกล่อง ทั้งหมดนี้คือสมบัติที่ประชาชนรวบรวมมาทั้งหมดเพื่อแลกกับอาหารให้พวกเขาในสองวันที่ผ่านมา
หลังจากแจกอาหารและสมุนไพรแล้ว สามสื่อหกพิธีได้จัดเตรียมขึ้นอย่างเรียบร้อย และถูกส่งไปยังตระกูลฟาง
แม่บ้านเปิดประตู และเห็นภาพคนและของตรงหน้าจำนวนมาก พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
“คุณหนู นี่คือ?”
ฟางเจาจวินพูดเสียงเล็กเสียงน้อย
“แม่นมช่วยบอกท่านพ่อให้หน่อยได้หรือไม่ว่าข้าได้พาชาวอาณาจักรฉินมาสู่ขอข้า”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น แม่บ้านเบิกตากว้าง มองไปที่ผู้คุ้มกันสินค้าที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณหนูของนาง พร้อมกับพึมพำด้วยน้ำตา
“คุณหนู คุณหนูเดือดร้อนแน่เจ้าค่ะ”
นางรีบเนไปรายงานด้วยความตื่นตระหนก
ฟางเจาจวินเข้าไปลานบ้าน ต้าหย่งเดินตามเข้ามาพร้อมกับสมบัติละอาหารที่เตรียมไว้
หลังจากรออยู่นาน ไม่เห็นว่ามีใครออกมา ในเวลานี้นายฟางได้แต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมออกมา
ต้าหย่งยกกล่องสมบัติ เปิดประตูเข้าไปในห้องโถงด้านใน โค้งคำนับนายฟางแล้วพูดว่า
“ยินดีที่ได้พบพ่อตา วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อสู่ขอลูกสาวของท่าน”
“สามสื่อหกพิธีนี้ได้เตรียมไว้แล้ว สมบัติเหล่านี้ถือเป็นของหมั้น ข้าหวังว่าท่านจะรับไว้ขอรับ”
นายฟางนั่งบนเก้าอี้ สองมือถือไม่เท้า เขาปฏิเสธเสียงเย็น ไม่แม้แต่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ
“ข้าไม่ต้องการ เอาของสกปรกพวกนี้ออกไปจากบ้านข้า ตระกูลฟางไม่มีทางแต่งงานกับคนอาณาจักรฉิน!”
ต้าหย่งที่ทำงานกับฉินเหยียนมานาน ไม่เคยเจอคนหัวแข็งเช่นนี้มาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...