ต้าหย่งเหลือบมองประชาชนรอบตัวด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจกับท่าทีถ่มน้ำลายของพวกเขา เขาแอบคิดในใจว่า การเป็นองค์ชายนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ระหว่างทางไปพระราชวัง มีมือสังหารแฝงตัวอยู่ในหมู่ประชาชน
พวกเขาเห็นโอกาสอันดีจึงยิงธนูเข้าใส่ “อ๋องเหยียน”
ขณะที่ลูกธนูกำลังพุ่งตรงไปยังอ๋องเหยียน เซี่ยชิงที่ทำหน้าที่ดูแล “อ๋องเหยียน” รีบชักคันธนูและลูกธนูออกมา
ลูกธนูที่พุ่งตรงเข้ามานั้นถูกลูกธนูที่เซี่ยชิงยิงสกัดร่วงหล่นลงพื้น
ในเวลานี้ต้าหย่งมีเหงื่อผุดขึ้นมา แม้ว่าเขาจะสวมชุดเกราะ แต่ลูกธนูที่พุ่งตรงไปยังประตูที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งในมือเขาไม่มีอาวุธ หากเซี่ยชิงไม่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คาดเดาว่าหากถือว่าเขารอดจากความตาย แต่เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสพอตัว
เขากระซิบกับเซี่ยชิงด้วยความกลัว
“ขอบคุณเจ้ามาก!”
เซี่ยชิงกล่าวอย่างเฉยเมย
“หยุดพูด ปลอมตัวให้เนียนหน่อย อย่าทำให้องค์ชายต้องอับอาย”
ต้าหย่งรีบยืดตัวให้สูงขึ้น ทำสีหน้าจริงจังอีกครั้งและมองทุกคน
เมื่อจ้าวจีเอ๋อร์เห็นว่ามีใครบางคนกำลังคิดลอบสังหาร นางจึงส่งทหารไปจับมือสังหารคนนั้นทันที และส่งเสียงดังว่า
“ใครก็ตามที่คิดขัดขวางไม่ให้ทูตจากอาณาจักรฉินเข้าเมือง จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!”
“ขอรับ!”
กองทัพรับคำสั่งให้ฆ่ามือสังหารที่ลอบสังหารเมื่อครู่ทันที
เมื่อมือสังคารคนอื่นเห็นท่าทีเช่นนี้ พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ ทำได้เพียงอดทนและรอหาโอกาสอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง
เช้าวันนี้ ฉินเหยียนปลอมตัวและพาเสี่ยวจิ่วเข้าไปในเมือง ทั้งคู่สวมชุดผ้าลินินหยาบๆ ตามประชาชนทั่วไป และเดินปะปนในฝูงชน
ฉินเหยียนมองไปที่ขบวนรถที่กำลังจะมาถึง จงไปที่พวกเขาและสาปแช่งด้วยควาฒโกรธ
“ดูสิ สุนัขรับใช้แห่งอาณาจักรฉินมาแล้ว!”
เสี่ยวจิ่วที่อยู่ข้างๆ มองไปที่ฉินเหยียนด้วยความสับสน ขมวดคิ้วและพูดกระซิบ
“เจ้ามิใช่คนอาณาจักรฉินหรอกหรือ?”
“นี่มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้ข้าเป็นชาวอาณาจักรจ้าว!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบก้อนหินจากพื้นขึ้นมา แล้วโยนไปที่ขบวนรถ
“พวกสุนัขแห่งอาณาจักรฉิน! ไสหัวออกไปจากอาณาจักรจ้าวเสีย!”
ประชานที่อยู่โดยรอบต่างพากันตะโกนออกมา
“พวกเจ้ามีใครมีก้อนหินอีกไหม เอามาให้ข้า!”
ประชาชนต่างตื่นเต้นกับคำพูดของฉินเหยียนและเริ่มโห่ร้อง
“เอามาให้ข้าด้วย ข้าจะตีพวกคนอาณาจักรฉินให้ตาย!”
ก้อนหินพุ่งออกมาเหมือนหยาดฝน กองพันทหารม้าเสือดาวยกหอกในมือขึ้นมาด้วยความโกรธ คิดโจมตีคนที่ก่อเหตุ
แต่เมื่อเขามองอย่างใกล้ชิด เขาหยุดมือทันที
นี่ไม่ใช่องค์ชายที่เขาเคารพรักมากที่สุดหรือ?
เหตุใดองค์ชายถึงต้องด่าว่าคนของตัวเองด้วยเล่า!
เสี่ยวจิ่วมองไปที่หญิงสาวพวกนั้นแล้วพูดว่า
“ราคาไม่ต่างจากตอนที่ข้าทำมาก ที่แท้เมืองหลวงก็ไม่ต่างอะไรมาก หากข้าต้องทำงานนี้อีกครั้งแล้วล่ะก็...”
ฉินเหยียนมองนางด้วยความโกรธ
“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ เจ้าละอายใจหน่อยได้หรือไม่?”
เสี่ยวจิ่วแลบลิ้นออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย
ฉินเหยียนปฏิเสธหญิงโสเภณีเหล่านั้นทีละคน เตรียมจะเดินจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้มีหญิงคนหนึ่งจับแขนฉินเหยียนและเอาหน้าอกถูกับแขนของเขา
“นายท่านเข้ามาแล้วก็มาสนุกด้วยกันสิเจ้าคะ ขอรับประกันว่าท่านต้องพึงพอใจเจ้าค่ะ!”
ฉินเหยียนดึงแขนออกและปฏิเสธ
“ไม่ล่ะ ข้าต้องรีบไปหาอะไรกิน ไม่สะดวก”
หญิงสาวเองก็ไม่ยอมแพ้ พูดหว่านเสน่ห์ว่า
“นายท่านได้โปรดช่วยข้าด้วย ลูกข้าใกล้จะตายเพราะอาการป่วย ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนพูดด้วยความโกรธ
“ป่วยแล้วเหตุใดถึงไม่ไปหาหมอ จะลากข้าไปทำไม?”
หญิงสาวคนนั้นมีท่าทีลำบากใจและพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูกว่า
“ของทุกอย่างต่างขึ้นราคา หากไปหาหมออย่างน้อยก็ต้องใช้เงินสองสามเหรียญเงิน”
“สามีข้าจากไปอย่างรวดเร็ว ข้าต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกชาย แต่ก็ไม่มีทางใดที่จะมีชีวิตอยู่ได้ ข้าอยากให้ลูกชายกินอิ่ม ไม่อยากให้เขาต้องอดตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...