องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 675

อีกด้านหนึ่ง

เหล่าทูตแต่ละอาณาจักรกำลังตกอยู่ในภวังค์ของทิวทัศน์ที่รุ่งโรจน์ของเซียนตู แต่ฉินเหยียนกลับกำลังทานมื้อค่ำอยู่อย่างสบายใจ เบื้องหน้ายังวางกองหนังสือเอาไว้ ซึ่งเป็นอันดับต่างๆที่รวบรวมโดยไป๋เสี่ยวเซิง ฉินเหยียนดื่มข้าวต้มและเปิดอันดับอาณาจักรออกมาดูไปด้วย

ทั่วทั้งเก้าแคว้นมีอยู่เจ็ดอาณาจักร โดยมีอาณาจักรหลู่ อาณาจักรเยี่ยน อาณาจักรฉิน อาณาจักรอู๋ อาณาจักรสู่ อาณาจักรจ้าว อาณาจักรเยว่

ตั้งแต่ที่ฉินเหยียนเป็นแกนนำอาณาจักรฉินก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก ขณะนี้รายชื่ออันดับของอาณาจักรได้ถูกสับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแล้ว

แต่เดิมอาณาจักรฉินอยู่เพียงอันดับสาม ตอนนี้สามารถยืนหยัดบนอันดับแรกได้อย่างมั่นคง หนังสือจัดอันดับอาณาจักรฉบับนี้มีทั้งหมดหนึ่งร้อยหน้า และได้มีการเขียนถึงอาณาจักรฉินไปแล้วกว่าหกสิบหน้า ส่วนอีกหกอาณาจักรก็ใช้พื้นที่เพียงสามสิบกว่าหน้า

ในมุมมองของฉินเหยียน การจัดอันดับอาณาจักรฉบับนี้เหมือนเป็นรายงานการประเมินอาณาจักรมากกว่า ในเนื้อหามีการบันทึกจำนวนประชากรทั้งหมดในแต่ละเขตปกครองของแต่ละอาณาจักร จำนวนของเมือง กำลังทหารการสู้รบ การศึกษา การบริหารอาณาจักร เศรษฐกิจและอีกมากมาย

หากเป็นโบราณสถานของอาณาจักรอื่น อาคารสูงเจ็ดชั้นนั้น ถือว่าเป็นอนุสรณ์ของอาณาจักรอื่นเลยก็ว่าได้ แต่ในอาณาจักรฉินแล้วสามารถเห็นอาคารเจ็ดชั้นได้ทั่วไป ทุกๆเขตล้วนมีไม่ต่ำกว่าสิบอาคาร

จากการตรวจสอบและการประเมินของไป๋เสี่ยวเซิงแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดของอาณาจักรฉิน คือจำนวนหลายเท่าของอีกหกอาณาจักรเลย ต่อให้จะเป็นอาณาจักรหลู่ที่เป็นอันดับสอง เมื่อเทียบทรัพย์สินกับอาณาจักรฉินแล้ว ก็ต่างชั้นกันมาก

เมื่อใช้ตัวเลขในการเปรียบเทียบ โดยตีให้อาณาจักรหลู่คือหนึ่งร้อย อาณาจักรเยี่ยนคือแปดสิบ ส่วนผลประเมินรวมของอาณาจักรฉินนั้นสูงถึงหนึ่งหมื่นกว่า เศรษฐกิจที่เหลือเชื่อเช่นนี้ มันเป็นช่องว่างที่อีกหกอาณาจักรไม่อาจก้าวข้ามไปได้

การสำรวจของไป๋เสี่ยวเซิงในเชิงสารคดีนี้ อธิบายเหตุผลในการประเมินด้วย อาณาจักรฉินระดมเงินมหาศาลให้กับด้านการศึกษา มีการเปิดสถานศึกษาตั้งแต่ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยให้แก่ทุกๆเขต อีกทั้งยังมีสถานศึกษาทั้งสี่ ที่มีการสอนเรื่องการแพทย์ ราชการ อุตสาหกรรม และการค้าขาย

อาณาจักรฉินมีการสั่งสอนหนังสือให้กับทุกๆคน ตราบใดที่คนอาณาจักรฉินอายุถึงแปดขวบแล้วก็จะบังคับให้เรียนหนังสือ โดยจะมีการเรียนฟรีทั้งเก้าปี ซึ่งแตกต่างจากอาณาจักรอื่น และนี่คือสิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมของอาณาจักรฉินอยู่เหนืออาณาจักรหลู่อย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีวิสาหกิจอยู่ทั่วทั้งเก้าแคว้น ทุกหมู่บ้านของทั้งเจ็ดอาณาจักรล้วนมีวิสาหกิจ รวมถึงยังมีร้านฝากเงิน ร้านค้า แหล่งการค้าที่สามารถหารายได้ได้ทุกวัน

ไป๋เสี่ยวเซิงยังเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ภายในสามปีอาณาจักรฉินคิดจะเพิ่มท้องพระคลังหนึ่งร้อยแห่ง เพื่อนำมาเก็บเงินทองที่ได้มาอย่างไม่มีจำกัด

อาณาจักรเยว่ที่เป็นอันดับที่เจ็ด หรือก็คืออาณาจักรที่อ่อนแอที่สุดในเจ็ดอาณาจักร ถูกอาณาจักรอู๋กดขี่มานาน ต่อให้จะได้ครอบครองดินแดนในเก้าแคว้น ได้มีดินแดนแร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุด บัดนี้ได้ติดกับของวิสาหกิจ เกรงว่าจะไม่อาจลืมตาอ้าปากได้ในระยะร้อยปีนี้

เมื่อฉินเหยียนอ่านการจัดอันดับทั้งเจ็ดอาณาจักรแล้วก็พูดว่า “การจัดอันดับของไป๋เสี่ยวเซิงถือว่าดีเลย วิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุและผล”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “อ๋องเหยียนเพคะ ไป๋เสี่ยวเซิงแฝงตัวเข้ามาในอาณาจักรฉินแล้วยังสืบเรื่องลับของอาณาจักรเราได้มากมายเพียงนี้ จากนั้นก็นำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ โปรดยอมให้หม่อมฉันนำกำลังไปสังหารไป๋เสี่ยวเซิง กำจัดพวกมันให้สิ้นซากด้วยเถิดเพคะ”

“อย่ารุนแรงนักเลย” ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “อย่าทำอะไรเกินขอบเขตนักเลย อภัยคนได้พึงให้อภัย อีกอย่างไป๋เสี่ยวเซิงก็ดีนะ สำหรับข้าแล้วพวกเขาคือผู้สื่อข่าวจากสำนักพิมพ์ ตราบใดที่ไม่เจาะลึกเรื่องสำคัญนัก ก็ปล่อยให้มีเสรีภาพของข่าวไป”

ผู้สื่อข่าว สำนักพิมพ์ เสรีภาพของข่าว?

นับวันจะยิ่งไม่เข้าใจความคิดของอ๋องเหยียนมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์