องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 686

ในพระราชวัง

ฮ่องเต้ฉินรู้สึกตื่นเต้นมาก ลุกขึ้นยืนและประกาศเสียงดังว่า

“วันนี้ข้าดีใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายข้าได้แต่งงาน วันนี้ข้าจะเป้นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารและให้คนทั้งอาณาจักรได้เฉลิมฉลองร่วมกัน เริ่มงานเลี้ยงได้!”

ภายในและภายนอกพระราชวังมีการจัดงานเลี้ยงในวันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป้นชาวอาณาจักรฉินหรือชาวต่างเมือง ทุกคนต่างร่วมเฉลิมฉลองกันในเมืองเซียนตู บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้น

หลังจากพิธีอภิเษกสมรสได้สิ้นสุดลง

คนทั้งอาณาจักรฉลองร่วมกันเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน

ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีอาณาจักรไหนที่จัดงานอภิเษกสมรสยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะพูดว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

แม้แต่การแต่งงานของฮ่องเต้ในอาณาจักรอื่นก็ไม่อาจเอาชนะได้ เพราะไม่เคยมีการจัดงานยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

เฝิงตู่ที่รอคอยเพื่อได้เห็นพิธีอภิเษกสมรสนี้ แต่เป็นเพราะกองพันทหารม้าเสือดาวล้อมทั่วพระราชวัง ทำเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของหมอ

เขาคิดว่าบางทีเมื่อพิธีเสร็จสิ้นลง หมออาจจะมาเจอเขาเพื่อดื่มด้วยกัน เขายังสั่งเหล้าชั้นดีมาสองไหเพื่อรอดื่มกับหมอ

แต่หลังจากที่รอถึงเจ็ดวัน เขาไม่เจอใครเลย

เรื่องนี้ทำให้เฝิงตู่รู้สึกผิดหวังและโกรธมาก เขาดื่มเหล้าสองไหนั้นตามลำพังในศาลาแห่งหนึ่งในเมืองเซียนตู เขาเช็ดปากด้วยความโกรธและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“ไอ้หมอเลว ข้ารอเจ้ามาตั้งเจ็ดวัน แต่เจ้ากลับไม่มาหาข้าเลย เจ้าดูถูกข้า! ข้าจะไม่กลับมาที่นี่อีก!”

เขาหันหลังกลับและกระโดดลงจากศาลา ขระที่กำลังคิดว่าจะไปที่ไหนดี เขาเห็นสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงประกาศรับสมัครคน

เฝิงตู่มีความคิดแวบเข้ามาในทันที อย่างไรก็ตามโลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก ทุกที่ต่างเป็นบ้านเขา หรือว่าติดตามกลุ่มผู้คุ้มกันสินค้า คอยท่องเที่ยวไปทั่วใต้หล้า ดูธรรมชาติที่สวยงามดีล่ะ

เมื่อคิดเช่นนั้น เฝิงตู่จึงได้กลายเป็นผู้คุ้มกันสินค้าอีกครั้ง และออกจากเมืองเซียนตูไปยังอาณาจักรฉิน

...

ในเวลาเดียวกัน

ทูตจากต่างอาณาจักรมาร่วมเฉลิมฉลองที่บ้านพักชั่วคราวในเมืองเซียนตู จนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้พบหน้าฉินเหยียนเลย

เดิมทีก่อนที่จะเริ่มพิธี ทูตต่างอาณาจักรต้องการพูดคุยกับฮ่องเต้ฉินเรื่องที่อาณาจักรฉินไม่สนใจพวกเขา

แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าอาณาจักรจ้าวได้มอบอาณาจักรของตนเป็นสินสอดเพื่อสร้างสันติภาพกับอาณาจักรฉิน ทั้งสองอาณาจักรฉินและจ้าวจึงรวมเข้าด้วยกัน ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก

อาณาจักรฉินแค่อาณาจักรเดียวนั้นมีความแข็งแกร่งมากพอตัวแล้ว เมื่อรวมอาณาจักรจ้าวเข้าไป ยิ่งทำให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ทูตจากต่างอาณาจักรรู้ดีว่าเขาไม่สามารถสู้อาณาจักรฉินได้อีกต่อไป แต่ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ไม่อาจปล่อยให้เสียโอกาสไปได้ ลองหาโอกาสทางอื่นดู หากสามารถเปิดเส้นทางด้านธุรกิจได้ ก็ถือว่ายังพอได้อะไรติดมือกลับมาบ้าง

ดังนั้นทูตต่างอาณาจักรจึงเริ่มเตรียมการ หวังว่าจะได้พบฮ่องเต้ฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับการค้า

แม้ว่าการเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสจะสินสุดลงแล้ว แต่การรวมตัวกันของทั้งสองอาณาจักร ยังมีเรื่องให้จัดการอีกมาก

หลังจากที่องค์ชายเจ็ด ฉินอวี่ รู้ว่าทูตจากต่างอาณาจักรต้องการเข้าพบ เขาพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยและบ่นพึมพำว่า

“ทูตต่างอาณาจักรพวกนี้ ต่างมีแผนการในใจ คิดว่าพวกเราไม่รู้หรือ ข้าคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องเรียกเสด็จพ่อ อวิ๋นซู เจ้ารู้เรื่องการค้าเป็นอย่างดี ดังนั้นเจ้าคุยกับพวกเขาแทนเถิด”

ในฐานะผู้จัดการธุรกิจ จางอวิ่นซูเจอพ่อค้าที่ทำการค้าไม่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากแล้ว การหารือกับทูตต่างเมืองเหล่านี้ นางสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

นางตอบตกลง

“ข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าพบพวกเขา”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราไม่คุยกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเช่นเจ้า”

“พวกเราอยากเข้าเฝ้าอ๋องเหยียน!”

“ให้อ๋องเหยียนออกมา”

สีหน้าของจางอวิ๋นซุเริ่มไม่พอใจ นางลุกขึ้นและเดินเข้าไปหา

“อ๋องเหยียนไม่อยู่ที่นี่ ข้าเป้นคนรับผิดชอบทุกอย่างในบริษัทการค้านี้ ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการหารือและร่วมมือ เช่นนั้นก็พอแค่นี้”

ทูตจากต่างอาณาจักรตกใจมาก อ๋องเหยียนเพิ่งจะจัดพิธีอภิเษกสมรสไป เหตุใดถึงไม่อยู่ที่นี่เล่า

เขาไล่ถามต่อ “อ๋องเหยียนไปที่ใด?”

จางอวิ๋นซูที่อยู่ตรงประตูตอบอย่างใจเย็น

“หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกสมรส อ๋องเหยียนเดินทางไปยังอาณาจักรจ้าว จัดการเรื่องตางๆ ในอาณาจักรจ้าว”

ทุกคนอึ้งไป

“อะไรนะ?”

“อ๋องเหยียนไปแล้ว?”

“ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

จางอวิ๋นซูไม่ต้องการเถียงกับคนเหล่านี้อีกต่อไป นางจึงทิ้งกลุ่มทูตเหล่านี้ให้จมอยู่กับความสับสน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์