องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 697

นายอำเภอมาที่ร้านขายข้าวของฉินเหยียนด้วยความโกรธ

ทันทีที่เขาไปในร้านพบว่าในร้านเต็มไปด้วยผู้หญิง

ร้านใหญ่ขนาดนี้ให้ผู้หญิงมาดูแล เป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปมาก!

นายอำเภอตกใจจนตะโกนออกมา

“รีบไปเรียนเจ้าของร้านมาคุยกับข้า!”

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าร้านคือเสี่ยวจวี๋ หนึ่งในสิงสองปิ่นหิรัญย์ นางมองนายอำเภอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดด้วยความโกรธว่า

“ร้านของข้าไม่มีผู้ชาย มีแต่ผู้หญิง เจ้าจะคุยกับข้า เช่นนั้นออกไปคุยกับด้านนอกดีหรือไม่”

นายอำเภอไม่คาดคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะกล้าแสดงออกถึงขนาดนี้ กล้าถามเขากลับ เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก จึงถามกลับว่า

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรไล่ข้า?”

เสี่ยวจวี๋หัวเราะเยาะขึ้นมา

“เจ้าพูดว่ามีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรือ? ที่นี่คือบ้านของข้า ถ้าข้าไม่ไล่เจ้าไปเช่นนั้นจะไล่ใครได้อีก หรือเจ้าอยากไล่ข้าอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้า!”

“อีกอย่าง อาณาจักรหลู่ของเจ้าเป็นอาณาจักรที่มีศีลธรรมและมารยามมากที่สุดมิใช่หรือ? ข้ายังไม่ได้เชิญเจ้า แต่เข้ากลับเข้ามาเอง นี่หรือที่เรียกว่ามีมารยารท?”

เสี่ยวจวี๋แห่งสิบสองปิ่นหิรัญย์พูดจาฉะฉาน นายอำเภอโกรธมาก เขาพูดอย่างดุเดือดว่า

“ร้านของเจ้าพวกผู้ชายไปไหนกันหมดเล่า?”

เสี่ยวจวี๋กอดอกแล้ะพูดอย่างเคร่งขรึม

“เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ ข้าบอกแล้วว่าไม่มีผ็ชายก็๕อไม่มี พวกข้าชาวอาณาจักรจ้าว ผู้หญิงดูแลกิจการกันเอง”

“จักรพรรดินีจ้าวจีเอ๋อร์ของข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร พวกเราทำการค้าโดยไม่มีผู้ชาย เป็นเรื่องผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”

เมื่อนายอำเภอได้ยินคำพูดที่อุกอาจเช่นนี้ มือเขาสั่นทันทีด้วยความโกรธ ชี้ไปที่เสี่ยวจูและด่าว่า

“เจ้ามันผู้หญิงน่าไม่อาย!”

“ข้าจะขึ้นภาษีพวกเจ้า! ตรวบใดที่พวกเจ้าเข้ามาทำการค้าที่นี่ เงินที่พวกเจ้าหามาได้ จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเป็นสามเท่า!”

เสี่ยวจวี๋ยักไหล่และพูดอย่างใจเย็น

“ได้ แล้วแต่เจ้า ข้ามีเงินอยู่แล้ว!”

นายอำเภอกัดฟันแล้วพูดว่า

“พวกผู้หญิงนี่พูดด้วยยากเสียจริง พวกเจ้าดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกัน!”

หลังจากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป

แต่ทันทีที่ออกไปก็เนว่าราคาข้าวราคาเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าเช่นกัน เขาตะโกนกลับมาด้วยความโกรธ

“เจ้ากล้าดีเข่นไรมาขึ้นราคาข้าว!”

เสี่ยวจวี๋ยืนอยู่ที่ประตูพูดอย่างใจเย็น

“เจ้าบวกภาษีข้ามากขึ้นก็เป็นเรื่องปกติที่จะขึ้นราคามิใช่หรือ?”

นายอำเภอสั่นไปทั้งตัว พวกผู้หญิงไม่มีหัวนานปลายเท้าเช่นนี้กล้าดีถึงขนาดนี้ได้อย่างไร!”

เมื่อหันกลับมาก็เห็นว่าร้านอาหารฝั่งตรงข้ามก็ขึ้นราคาเป็นสามเท่าด้วยเช่นกัน

เขาเองก็อยากจะเข้าไปจัดการ แต่คนพวกนี้ไม่ได้ปล้นร้านมา ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจขอบเขตของเขาเลย

ขณะที่เขากำลังหลงทางทำอะไรไม่ถูก ด้านนอกศาลาว่าการมีเสียงดังขึ้นว่า

“นักวิชาการระดับสี่ แห่งสำนักศึกษาไป๋เสี่ยวเซิงมาถึงแล้ว!”

ทุกคนต่างหันกลับไป เห็นชายคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนนักวิชาการเดินเข้ามา

ชายคนนี้มีชื่อว่าฟางถังจิ้ง นักวิชาการระดับสี่แห่งไป๋เสี่ยวเซิง ตอนนี้มีตำแหน่งเทียบเท่าทนายความ เป้นที่เคารพของคนทั่วไป

เมื่อนายอำเภอเห็นเขา ราวกับเห็นดวงดาวอย่างไรอย่างนั้น รีบรุดเข้าไปทักทาย

“ใต้เท้าฟาง ท่านมาแล้ว!”

ฟางถังจิ้งยกมือขึ้นทักทายนายอำเภอ

สีหน้าของนายอำเภอผ่อนคลายลงแล้วพูว่า

“ใต้เท้าฟาง ไม่ต้องเกรงใจข้า ท่านมาทันเวลาพอดี ตอนนี้ในเมืองมีเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย เรื่องต่างๆ ในใต้หล้านี้ท่านสามารถจัดการได้ ท่านลองฟังเรื่องนี้เสียก่อน ดูว่าท่านสามารถออกหน้าจัดการได้หรือไม่?”

ประชาชนยังคงร้องขอความเมตตา

“ใต้เท้าฟาง ได้โปรดช่วยพวกข้าชาวเมืองอวิ้นด้วยขอรับ!”

“ชาวอาณาจักรจ้าวเหล่านั้นทำเกินไปแล้ว ข้าขอร้องให้ใต้เท้าฟางรีบดำเนินการตามกฎหมายทันที!”

หลังจากที่ฟางถังจิ้งได้ยินคำร้องของประชาชนแล้ว เขาก็ตอบกลับว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์