องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 708

ในสมัยโบราณมีฮ่องเต้องค์หนึ่ง วันหนึ่งเขากำลังงีบหลับในพระราชวัง มีขันทีหนุ่มคนหนึ่งรีบเข้ามากราบทูลว่รา “ฝ่าบาท! มีเสืออยู่ด้านนอก!”

ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะลืมตา “ในวังมีการเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างหนาแน่น จะมีเสือได้อย่างไร”

ทันทีที่พูดจบ ขันทีหนุ่มอีกคนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว หายใจหอบว่า “ฝ่าบาท แย่แล้ว ข้างนอกวังมีเสือพ่ะย่ะค่ะ กำลัใลก้เข้ามาแล้ว!”

ในเวลานี้ ขันทีคนที่สามวิ่งเข้ามากราบทูลว่า “ฝ่าบาท รีบหนีเถิดพ่ะย่ะค่ะ เสือได้เข้ามาในตำหนักแล้ว!”

ฮ่องเต้ตกใจมากจนขนลุกชัน เขาวิ่งหนีไปโดยไม่สนใจว่ามีเสือจริงหรือไม่

เล่านิทานจบ ต่อไปเป็นการอธิบาย

นิทานเรื่องสามคนกลายเป็นเสือสอนให้รู้ว่า คนแรกพูดเรื่องนี้เหมือนเรื่องเกินจริง จึงไม่เชื่อ เมื่อคนสองและสามพูดเรื่องเดียวกัน กลับกลัวแม้จะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่คิดว่าเป็นเรื่องจริง นี่คือเรื่องน่ากลัวหากเป็นข่าวลือ

หลังจากฉินเหยียนเขียนนิทานเสร็จ ชายชราจับคางอย่างครุ่นคิด นึกถึงความหมายแฝงที่ลึกซึ้งของเรื่องนี้

ในขณะเดียวกัน นักเรียนชื่อเฉิงอาหนิวคนนี้ เพียงแค่ช่วงเวลาอันสั้นกลับเขียนนิทานเรื่องนี้ออกมาได้

ลักษณะนิสัย สมาธิ ความสามารถด้านการตอบสนองของเขาเหนือกว่าคนทั่วไป

เมื่อฉินเหยียนเขียนเสร็จเตรียมส่งข้อสอบ ทันใดนั้นชายชราพลันจับไหล่เขาไว้

“เจ้ามีเรื่องอะไรหรือ?”

ชายชราตกใจแล้วตอบกลับว่า

“เขียนนิทานเสร็จแล้ว ข้ามีหน้าที่พูดคำถามข้อที่สอง ฟังให้ดีล่ะ”

เขากระซิบข้างหูฉินเหยียน

ความหมายคือฉินเหยียนเจาะลึกนิทานเรื่องสามคนกลายเป็นเสือมากขึ้น ว่าเรื่องนี้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันอย่างไร นำมาพิสูจน์ว่านิทานเรื่องนี้มีความสำคัญในชีวิตจริง

ฉินเหยียนพูดโดยไม่คิด

“ไม่มีปัญหา เช่นนั้นข้าจะแสดงให้ดู”

เขาเปลี่ยนแค่เรื่องราว แต่เนื้อหายังเหมือนเดิม และเขียนต่ออย่างมั่นใจ

มีนักวิชาการคนหนึ่งในจังหวัดซุ่นชิ่งแห่งอาณาจักรฉิน เขาไม่มีความสามารถที่จะเป็นข้าราชการได้ ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

แม้ว่าเขาจะเกิดมาในตระกูลร่ำรวย แต่ภายหลังครอบครัวกลับตกอับ เป็นนักวิชาการในเมืองเล็กๆ

ครั้งหนึ่งอ๋องเหยียนผ่านจังหวัดซุ่นชิ่ง ชาวเมืองต่างยืนเรียงรายเพื่อต้อนรับอ๋องเหยียน

นักวิชาการตื่นเต้นมาก เขาจึงรวบรวมความกล้าเข้ามาห้าเขา โดยหวังงว่าจะได้เป็นข้านราชการผ่านทางอ๋องเหยียน

นั่นเป็นครั้งแรกที่นักวิชาการรับการปฏิบัติอย่างดี ปมด้อยของเขาที่รู้สึกว่าด้อยกว่าคนอื่นนั้นหายไป จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็คอยรับใช้อ๋องเหยียนอย่างสุดใจ

หลังจากเขียนเรื่องนี้แล้ว ฉินเหยียนก็เริ่มสรุป

นักวิชาการในเรื่องคือหลินเย้าจู่แห่งอาราจักรฉิน เป็นคนคิดค้นยานยนต์คนแรก และมีความสามารถที่โดดเด่นกว่าใคร

เรื่องสามคนกลายเป็นเสือสามารถนำไปใช้ได้ทั้งข่าวลือ หรือเพื่อเจตนาดีก็ย่อมได้

การมาเยือนของอ่องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินสามครั้ง เขาสร้างความคิดเห็นได้ถึงสามครั้ง เพื่อไม่ใช่ประชาชนดูถูกเขาอีกต่อไป และหลินเย้าจู่ไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าอีกต่อไป

แม้ว่าหลินเย้าจู่จะเสนอตนเองในตอนแรก แต่คนที่มีความสามารถกับคนที่ค้นพบคนมีความสามารถมาเจอกัน ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ดี

แน่นอนว่า อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินนั้นเป็นคนมีมารยาท ไม่ถือตน ไม่ได้ถือว่าตนยิ่งใหญ่ จึงได้รับการสนับสนุนจากหลินเย้าจู่ และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า นี่เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า อ๋องเหยียนไม่ได้ไร้ค่าตามข่าวลือที่เคยเล่ากันมา

หลังจากฉินเหยียนเขียนจบ

เขาก็วางพู่กัน ชายชราคว้ากระดาษข้อสอบออกไปและมองด้วยตาที่ลุกวาว

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านี่คือเรื่องจริง?”

ชายชราโพล่งถามออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์