องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 724

บนเวทีแสดง

เพราะท่านแม่ของจู้อิงถายเป็นเพื่อนเก่าของนักวิชาการสถานศึกษาแห่งนี้ จึงรู้ว่าจู้อิงถายปลอมตัวเป็นชายเข้ามา จึงให้จู้อิงถายไปพักอยู่เขตหวงห้ามของสถานศึกษา

เมื่อถึงยามค่ำคืนแล้วจู้อิงถายกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เมื่อถอดยังไม่เสร็จก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงของใครดังมาจากด้านหลังเบาๆ เมื่อหันกลับไปแล้วเห็นเหลียงซานป๋อก็ทำเอานางตกใจจนร้องลั่นขึ้นมา และรีบไปแอบใต้ผ้าห่มทันที

จู้อิงถายถามขึ้นอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านนักวิชาการยกให้ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เหลียงซานป๋อขยันและมีความพยายาม ชอบแอบเข้ามาในห้องสมุดเพื่อแอบอ่านตอนกลางคืนบ่อยๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะถูกผู้เล่าเรียนที่เพิ่งเข้ามาพบซะได้ เขารีบประสานมือคารวะขอโทษ

“สหายอย่าได้ถือสาเลย”

จู้อิงถายรีบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วทำความรู้จักกับเหลียงซานป๋ออย่างเป็นทางการ ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางแสงเทียนราวกับสนิทสนมกันมานาน

การแสดงดำเนินเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย

ในยามค่ำคืนคืนหนึ่งเหลียงซานป๋อได้เข้ามาอ่านหนังสือยามค่ำคืนอีกครั้ง เพราะอากาศร้อนมากจึงถอดเสื้อยาวออกเปลือยท่อนบน

ภาพนี้ทำเอาหญิงสาวด้านล่างเวทีรีบปิดตาอย่างกระวนกระวาย พวกนางใบหน้าแดงไม่กล้ามองไป แต่กลับแอบดูจากช่องนิ้วมือ

ชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างเวทีโกรธเกรี้ยวอย่างมาก พวกเขาชี้ไปต่อว่าพันอันบนเวที

“ผิดวัฒนธรรมเช่นนี้! ไม่เหมาะสม!”

จู้อิงถายที่อยู่บนเวทีเองก็รีบหันหลังไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหตุใดเจ้าจึงถอดเสื้อ?”

เหลียงซานป๋อพูดอย่างปกติว่า “อากาศร้อนมากขนาดนี้ ถอดเสื้อคลายความร้อนไงเล่า เจ้าและข้าต่างก็เป็นผู้ชาย มีสิ่งใดต้องคิดมากรึ?”

จู้อิงถายรีบให้เหลียงซานป๋อสวมใส่เสื้อผ้าอย่างลุกลน เมื่อฉากนี้จบลง ผู้ชมด้านล่างเวทีก็พากันถกเถียงกัน

“นี่คือการขัดต่อประเพณีและศีลธรรม ยังไม่ทันได้แต่งงานก็อยู่กับผู้ชายเสียแล้ว แถมยังมองรูปร่างของชายหนุ่มอีก น่าขายหน้าจริงๆ!”

“หากในความจริงมีผู้หญิงเช่นนี้ก็สมควรจับยัดใส่กรงถ่วงน้ำ!”

คำพูดของเหล่าชายหนุ่มบาดหูเหล่าหญิงสาวอย่างมาก ต่อให้เหล่าหญิงสาวจะไม่เถียงกลับ แต่ก็มองกลอกตาใส่เหล่าชายหนุ่มไม่หยุด

การแสดงบนเวที

ในยามกลางวันเหลียงซานป๋อและจู้อิงถายนั่งเรียนหนังสือในสถานศึกษา ยามค่ำคืนก็อ่านหนังสือด้วยกันใต้แสงเทียน ในช่วงดึกๆ แสงไฟก็อบอุ่นขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็คลุมเครืออย่างมาก

เหลียงซานป๋อเห็นว่าจู้อิงถายเจาะหูจึงได้ร้องตามบทเช่นงิ้วหวงเหมย

เหลียงซานป๋อถามว่า “อิงถายไม่ใช่ผู้หญิง เหตุใดจึงเจาะหูด้วยเล่า?”

เหลียงซานป๋อหัวใจเต้นรัว เขาโอบกอดจู้อิงถายด้วยมือสั่นคลอนเบาๆ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าคือผู้หญิง”

บนภูเขามีฝนตกหนัก ทั้งสองหลบฝนในรถม้า ราวกับฝืนและไฟ ในที่สุดทั้งสองก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกในใจต่อไปได้ ฝ่าฝืนข้อห้ามทางประเพณี และเปิดเผยความรักความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อฝนหยุดแล้วจู้อิงถายก็พูดกับเหลียงซานป๋ออย่างลึกซึ้งว่า “ยามดอกไม้เบ่งบานรีบเด็ดเอา อย่ารอจนเหี่ยวเฉาทิ้งกิ่งไป ทางบ้านเร่งให้ข้ากลับไปเพื่อจะให้ข้าตบแต่งกับคนอื่น แต่ข้าไม่มีทางแต่งงานกับคนอื่นเด็ดขาด เจ้าจะต้องมาสู่ขอข้านะ ข้าจะรอเจ้า”

เหลียงซานป๋อพยักหน้าแล้วสาบานว่า “วางใจเถิด เมื่อข้าสอบได้ตำแหน่งแล้ว ข้าจะไปสู่ขอเจ้า”

ภาพนี้ทำเอาผู้ชมด้านล่างนิ่งเฉยไม่ได้อีก ต่างก็โวยวายและถกเถียงกันไม่หยุด

“ไม่มีคำสั่งของพ่อแม่ ไม่มีคำพูดของแม่สื่อ ทั้งสองกำลังทำเรื่องไร้สาระชัดๆ!”

“เฮ้อ คู่รักที่น่าน่าสงสาร พวกเขาจะตัดสินใจเรื่องแต่งงานเองได้อย่างไร เล่นตลกเกินไปแล้ว”

บนเวที

เหลียงซานป๋อไม่ทำให้ทุกผิดหวัง เขาสอบจนได้ตำแหน่งและเปลี่ยนสวมชุดราชการมุ่งหน้าไปสู่ขอที่ตระกูลจู้ และบังเอิญพบกับขบวนรถสินสอดของผู้ว่าราชการจังหวัดตระกูลหม่าอย่างยิ่งใหญ่

เหลียงซานป๋อมองไปยังผ้าไหมผ้าแพรที่หรูหราและเงินทองเหล่านั้น ก็รู้สึกสับสนอย่างมาก เมื่อหันไปมองสินสอดที่ต๊อกต๋อยของตนเองแล้ว เขาก็ลังเล มันไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย

พันอันแสดงฉากนี้ได้อย่างสมรสอย่างมาก ใครดูก็ต้องรู้สึกว่าเขาคือเหลียงซานป๋อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์