องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 730

ในคืนนี้จ้าวเหวินเซิงนอนไม่หลับไปทั้งคืน จากการพูดคุยครั้งเดียวทำให้เขารู้สึกว่าเฉิงอาหนิวไม่ใช่คนธรรมดา ทำให้เขามองไม่ออกและจับทางไม่ได้เลย

ต่อให้จะหยั่งเชิงแค่ไหนเฉิงอาหนิวก็พลาดเลยแม้แต่น้อย ท่าทางและความคิดเช่นนั้น รวมถึงการกล่าววาจาการกระทำ ไม่ใช่ระดับที่คนธรรมดาจะทำได้เลย จากที่จ้าวเหวินเซิงคิด เขายังสงสัยอยู่บ้างว่าเฉินอาหนิวก็คืออ๋องเหยียน

แต่เมื่อไตร่ตรองอีกทีแล้ว อ๋องเหยียนคือผู้ชนะที่สูงส่ง ทั้งอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวก็อยู่ในกำมือของเขาแล้ว เหตุใดจึงยังต้องแอบอ้างชื่อ ใช้ฐานันดรต้อยต่ำมาเป็นเขยเข้าตระกูล มันไม่สมเหตุสมผลเสียเลย!

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกลังเลมาก เขาไม่รู้ว่าจะนั่งหรือจะยืนดี ขมวดคิ้วแน่น ลังเลมากแต่ก็ไม่เข้าใจเสียที คิดไปทั้งคืนและทำให้เขานอนไม่หลับไป

จนกระทั่งรุ่งสางในวันที่สอง เมื่อคนรับใช้ที่มาคอยปรนนิบัติมา เขายังคงนั่งหาวและครุ่นคิดอยู่บนเก้าอี้อยู่เลย

เมื่อคนรับใช้เห็นว่ารองหัวหน้าคณะจ้าวไม่ได้เปลี่ยนชุดเมื่อคืนเลยจึงรู้ว่าเขายังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน และถามขึ้นว่า

“ท่านรองหัวคณะจ้าว เหล่าผู้เล่าเรียนต่างมาพร้อมเพรียงกันแล้ว วันนี้ท่านจะออกกล่าวกถามรรคเทศนาแก่เหล่าผู้เล่าเรียนรึไม่”

จ้าวเหวินเซิงนวดหว่างคิ้ว “ต้องออกไปอยู่แล้ว การกล่าวในครั้งนี้เป็นการมองดูเหล่าผู้มีความรู้ทั้งหลายก่อนสมัครเขย เพื่อดูว่าผู้ใดคือลูกเขยในอนาคตของข้า เปลี่ยนเสื้อให้ข้าซะ”

“เจ้าค่ะ”

เหล่าคนรับใช้รีบเดินเข้ามาช่วยจ้าวเหวินเซิงเปลี่ยนเสื้อ

......

อีกด้านหนึ่ง

ฉินเหยียนเองก็แต่งตัวได้หรูหรามากเช่นกัน เขาสวมชุดผ้าเมฆปักด้วยด้ายสีทอง ด้วยการปรนนิบัติของหยางจิ่นซิ่วเลยเซี่ยชิง ได้สวมใส่หมวกพิธีเรียบร้อยแล้ว

ฉินเหยียนยืนขึ้นมองกระจกอย่างละเอียด ดูมีออร่าของผู้เล่าเรียนจริงๆนะเนี่ย ดูสง่างามและใจกว้าง

หยางจิ่นซิ่วจัดระเบียบแขนเสื้อให้เขาและพูดยิ้มแย้มไปด้วยว่า

“จะว่าไปอ๋องเหยียนแต่งแล้วก็เหมือนผู้เล่าเรียนเหมือนกันนะ”

เซี่ยชิงตาเป็นประกายแล้วพูดสมทบว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ตราบใดที่ท่านอ๋องออกโรง ชายอื่นก็หม่นหมองในทันที ผู้หญิงทุกคนในโลกจะตกหลุมรักท่านอ๋อง”

ฉินเหยียนเหลือบมองเซี่ยชิงแล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “ช่วยเก็บน้ำลายของเจ้าทีจะได้รึไม่ นี่คือชุดขาวที่ทำใหม่ของข้าเชียวนะ”

เซี่ยชิงยิ้มเห่ยๆแล้วเช็ดน้ำลายที่ยืดออกมา จากนั้นก็พูดอย่างเขินอายว่า

“ก็ไม่ได้ครอบครองนี่ ขอจินตนาการสักหน่อยไม่ได้รึเจ้าคะ”

ฉินเหยียนรีบเปลี่ยนเรื่องว่า “เตรียมพร้อมกันเรียบร้อยหรือยัง?”

หยางจิ่นซิ่วตรวจสอบรอบหนึ่งแล้วพูดว่า “เรียบร้อยแล้ว”

ฉินเหยียนพูดอย่างน่าเกรงขามว่า “ออกเดินทางได้!”

......

“ในเมื่อเจ้าเป็นชาวเมืองธรรมดา แล้วใส่ผ้าเมฆสีขาวได้อย่างไร?”

ฉินเหยียนแสดงป้ายออกมาอย่างเปิดเผย

ผู้เล่าเรียนตกตะลึงแล้วพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “ไป๋เสี่ยวเซิงระดับหนึ่ง ท่าน ท่านคือเฉิงอาหนิว สหายหนิว!”

ฉินเหยียนเก็บป้ายแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ “ถูกต้อง!”

ผู้เล่าเรียนทั้งตะลึงและดีใจ จึงรีบประสานมือคารวะ “ข้าน้อยเถาซงจือ เสียกิริยาเสียแล้ว ขออภัยด้วย ขออภัยด้วยขอรับ!”

ฉินเหยียนเองก็ประสานมือคารวะกลับแล้วเชิญชวนว่า “เจ้าเองก็อย่ามัวชะเง้อหน้าอยู่ด้านนอกเลย ข้าจะพาเจ้าเข้าไป เรามาช่วยคว้าโอกาสให้คนธรรมดาทั้งหลายกันเถอะ”

ผู้เล่าเรียนเถาซงจือไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้พบเจอกับชายแบบอย่างของเขา อีกทั้งยังยอมพาเขาเข้าไปในสถานศึกษาเพื่อฟังเทศน์ด้วย นี่คือเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลย

ประสานมือคารวะแล้วพูดอย่างซาบซึ้งว่า “ในเมื่อท่านยินดีพาข้าน้อยเข้าไป ข้าน้อยก็ยินดีที่จะคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายท่านขอรับ”

ฉินเหยียนยิ้มบางๆ “เช่นนั้นก็ขอรบกวนด้วยนะ ไปกันเถอะ”

“ขอรับ”

เถาซงจือตามหลังฉินเหยียนอย่างดีอกดีใจ ทั้งสองเดินเข้าลานกว้างในสถานศึกษาด้วยกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์