เมื่อซือหม่าจี๋ได้บอกตัวตนของเฉิงอาหนิวแก่จ้าวเหวินเซิงแล้ว ทั้งสองก็นั่งคุยกันเป็นเวลานาน และได้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการเจรจาที่อาณาจักรจ้าว
“เจ้ารู้จักข้าดี ข้าทะนงตัวอย่างมาก คนที่เข้าตาข้าได้นั้นมีน้อยอย่างมาก เฉิงอาหนิวคือหนึ่งในคนที่ข้านับถือเชียวล่ะ”
จ้าวเหวินเซิงหลอกถามว่า “เพราะเจ้าเสียท่าให้กับเขางั้นรึ?”
“หามิใช่”
ซือหม่าจี๋ตั้งใจไตร่ตรอง “ไม่เพียงแค่นี้ เขาเชี่ยวชาญในภูมิศาสตร์ ทำเล ชัยภูมิ รู้ทุกอย่าง คนผู้นี้มีความสามารถอย่างมาก เหนือกว่าเจ้าและข้า คนที่มีความสามารถมากมายเช่นนี้หาได้ยากนัก ข้ารู้สึกว่านอกจากผู้อาวุแห่งอาณาจักรหลู่แล้วก็ไม่มีใครที่สามารถเทียบกับเขาได้”
จ้าวเหวินเซิงทำหน้าเหยียดหยาม “เจ้าล้อข้าเล่นอยู่รึ คนผู้นี้มีความสามารถแค่ไหนกันถึงได้มาทัดเทียมผู้อาวุโสได้”
ซือหม่าจี๋เองไม่รู้จะพูดอย่างไร และขี้เกียจจะอธิบายด้วย
“เอาเป็นว่าขอฝากสถานศึกษาไป๋ลู่ให้เจ้าก่อนนะ ข้าต้องรีบมุ่งหน้าไปพระราชสำนักคืนนี้เพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้รู้ ที่เฉิงอาหนิวมาที่นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ข้าสงสัยว่าเขาจะต้องมีเป้าหมาย เป็นไปได้สูงว่าจะมาเพื่อทำลายอาณาจักรหลู่”
ซือหม่าจี๋ร้อนรนจะไป จ้าวเหวินเซิงอึ้งไปหมด
ยามค่ำคืน
จ้าวเหวินเซิงยังคงนึกถึงแต่คำชื่นชมที่ซือหม่าจี๋กล่าวถึงเฉิงอาหนิว เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ก่อนสงครามสี่อาณาจักรจ้าวเหวินเซิงก็ได้เคยดูรายงานลับจากซือหม่าจี๋ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการแนะนำเฉิงอาหนิวผู้นี้
เขาคือนักวางแผนคนหนึ่งข้างกายอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน เขาเชี่ยวชาญการวางแผน บริหารอาณาจักร จัดกำลังทหาร และปรับปรุงความเป็นอยู่ของผู้คน ถ้าหากอาณาจักรฉินทิ้งคนเช่นนี้ไปจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ดังนั้นการที่เฉิงอาหนิวบอกว่าเขาอยู่ที่อาณาจักรฉินต่อไปไม่ได้นั้น อย่าว่าซือหม่าจี๋ไม่เชื่อเลย แม้แต่จ้าวเหวินเซิงที่ไม่เคยพบเขาก็ไม่เชื่อ
เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเฉิงอาหนิวต้องมีเป้าหมายแน่นอน ตามหลักแล้วเรื่อหาเขยของลูกสาวแพร่กระจายเพียงในอาณาจักรหลู่ แล้วคนอาณาจักรฉินที่อยู่แสนไกลจะรู้เรื่องได้อย่างไร กล้าเข้ามาโดยอ้างเรื่องสมัครเป็นเขยเนี่ย ตระกูลจ้าวสร้างความไม่พอใจให้อาณาจักรฉินแล้วจะกัดเราไม่ปล่อยใช่รึไม่?
เมื่อครุ่นคิดแล้วจ้าวเหวินเซิงก็ตัดสินใจจะไปพบเฉิงอาหนิวด้วยตนเอง!
......
อีกด้านหนึ่ง
บัดนี้ฉินเหยียนเองก็กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง แล้วออกคำสั่งต่อหยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายว่า
“ไปสืบที่อยู่ของจ้าวจือหย่าซะ ข้ารอไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้าจะต้องพบนางให้ได้!”
เมื่อสิ้นเสียงก็มีเสียงก็มีเสียงดังออกมาจากด้านนอก “เสียกิริยาเช่นนี้คงไม่เหมาะสมหรอก”
ทั้งสามคนอึ้งไป มีคนแอบเข้ามาในลานงั้นรึ หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงกลับไม่รู้สึกตัวเลย คนผู้นี้จะต้องฝีมือดีมากเป็นแน่
ในขณะที่หญิงสาวทั้งสองกำลังจะลงมือ ฉินเหยียนก็ห้ามเอาไว้แล้วพูดเสียงเบาว่า
“อย่าวู่วามไป ข้าจะไปดูเอง”
“ระวังด้วยนายท่าน”
ฉินเหยียนเปิดประตูออกไปแล้วเห็นว่าด้านนอกมีชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบยืนอยู่ตรงหน้าประตู จากรูปลักษณ์ ท่าทาง รวมถึงคำพูดกิริยาของเขา ฉินเหยียนไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่เคยพบคนผู้นี้ แต่ก็คาดเดาได้บ้างแล้ว
หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงแอบซ่อนอยู่ในห้อง พวกนางถืออาวุธแล้วจับจ้องไปเขม็ง รับรองว่าจะคุ้มครองอ๋องเหยียนให้ทันหากเขาคิดจะทำอะไรไม่ดี
“เจ้ารู้ฐานะเดิมของข้ารึไม่?”
ฉินเหยียนประสานมือคารวะพูดตามความจริง “รู้มาบ้างขอรับ เดิมทีท่านคือราชวงศ์แห่งอาณาจักรจ้าวขอรับ”
จ้าวเหวินเซิงพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “เจ้ารู้งั้นรึ บัดนี้อาณาจักรฉินล้มล้างอาณาจักรจ้าว ข้าไม่ได้ชื่นชอบคนอาณาจักรฉิน แล้วเจ้ายังมีความมั่นใจว่าจะชนะในงานสมัครเขยอีกรึ?”
ยังหยั่งเชิงอยู่อีกรึเนี่ย
ฉินเหยียนพูดว่า “ข้าคิดว่า แม้ว่าอาณาจักรฉินจะล้มล้างอาณาจักรจ้าว แต่ก็เป็นการเอาคืนแทนท่าน หากตอนนั้นท่านคอยควบคุมพระราชสำนักอาณาจักรจ้าวเองแต่แรก แล้วอาณาจักรจ้าวจะมีจุดจบด้วยการถูกล้มล้างได้อย่างไร หากจะโทษก็ต้องโทษผู้ชิงบัลลังก์ไร้ความสามารถเกินไป จึงทำให้รากฐานกว่าร้อยปีของอาณาจักรจ้าวพังทลาย”
คำพูดเหล่านี้แทงใจจ้าวเหวินเซิง หากเขาเป็นผู้ควบคุม อาณาจักรจ้าวก็จะไม่ถูกล้มล้าง อย่างน้อยก็ไม่มีทางถูกอาณาจักรฉินล้มล้างเร็วขนาดนี้
จ้าวเหวินเซิงดึงหน้าแล้วลูบเคราพูดอย่างทะนงตัวว่า
“เจ้าหนูชักถูกใจข้าขึ้นมาบ้างแล้วสิ แต่ว่าหากเจ้าจะพบบุตรสาวของข้าจะต้องทำตามให้ถูกต้องตามหลักวัฒนธรรมอย่างเปิดเผย!”
ฉินเหยียนได้ยินว่าเขายอมแล้วจึงได้รีบประสานมือคารวะถามว่า “ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยเถิดขอรับ”
จ้าวเหวินเซิงยืนขึ้นแล้วเอามือไพล่หลังเดินไปด้วยและพูดไปด้วยว่า
“พรุ่งนี้จะมีการกถามรรคเทศนาแก่เหล่าผู้เล่าเรียน เจ้าสามารถมองบุตรสาวข้าจากอีกฟากหนึ่งได้”
ฉินเหยียนรู้สึกดีใจมาก เขายืนขอบคุณอยู่หน้าประตูว่า “ขอบพระคุณการชี้แนะขอรับ ลาก่อนขอรับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...